สภาพธรรมไร้ทั้งรูปไร้นาม คือที่สุดใช่ไหมคับ
สภาพธรรมที่เกิดจากการไร้รูปทั้ง 5 ไร้นามทั้ง 6 คือที่สุดแล้วสมสุดได้ว่าชื่อพระนิพพานใช่ไหมคับ
ขอบพระคุณที่ทำให้เห็นผิดเป็นถูกครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระนิพพานเป็นสภาพธรรมที่มีจริง แน่นอนครับว่า นิพพานต้องเป็นพระนิพพาน ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ไม่เป็น จิต เจตสิก และรูป แต่พระนิพพานเป็นสภาพธรรมที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง คือ ไม่มีจิต เจตสิก และรูป จึงไม่เกิดขึ้นและดับไปเลย เป็นสภาพธรรมที่เที่ยง และเป็นสภาพธรรมที่เป็นสุขด้วย แต่ที่สำคัญ พระนิพพาน แม้จะเที่ยง เป็นสุข แต่พระนิพพานก็เป็นอนัตตาด้วย ไม่ใช่อัตตา เพราะพระนิพพานเป็นสภาพธรรมที่สูญ สูญในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอะไรเลย แต่สูญจากความเป็นสัตว์ บุคคล คือ ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์บุคคลให้ยึดถือในพระนิพพาน พระนิพพานจึงไม่ใช่สัตว์ บุคคล แต่เป็นสภาพธรรมที่มีจริง และที่สำคัญ บังคับบัญชาไม่ได้ด้วยครับ จึงเป็นอนัตตา ตามที่กล่าวมา ไม่ใช่อัตตา ดังนั้น เรียกพระนิพพานว่าพระนิพพานได้ และพระนิพพานก็เป็นอนัตตาด้วยครับ ซึ่งขอแสดงข้อความในพระไตรปิฎก ที่แสดงว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตาและพระนิพพานก็เป็นอนัตตาด้วยครับ
เพราะฉะนั้น นิพพานจึงเป็นสภาพธรรมที่ไร้รูป ไร้นาม ไร้จิต เจตสิก รูปเกิดขึ้น ถูกต้องแล้วครับ อนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่มีจริงๆ เป็นธรรม ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นๆ เป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น สิ่งที่มีจริงนั้น ประมวลเป็นประเภทใหญ่ๆ มี ๔ ประเภท ที่เรียกว่า ปรมัตถธรรม ๔ ได้แก่
♢ จิต สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์
♢ เจตสิก สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต ตามความแก่จิตประเภทนั้นๆ ดับพร้อมกับจิตและรู้อารมณ์เดียวกันกับจิตด้วย
♢ รูป สภาพธรรมที่ไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ใช่ธาตุรู้ แต่มีจริงๆ
♢ พระนิพพาน เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นสภาพธรรมที่ดับทุกข์ดับกิเลส เป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ พระนิพพาน มีลักษณะที่สงบจากกิเลส เป็นสภาพธรรมที่ตรงกันข้ามกับสภาพธรรมที่เกิดดับอย่างสิ้นเชิง พระนิพพานไม่ใช่สภาพธรรมที่รู้อารมณ์ ไม่เหมือนกับจิตและเจตสิกที่เกิดขึ้นและรู้อารมณ์ แต่ก็ไม่ใช่รูปธรรม ดังนั้น พระนิพพาน เป็นนามธรรม แต่เป็นนามธรรมที่ไม่รู้อารมณ์
สิ่งที่มีจริงๆ ไม่พ้นจากปรมัตถธรรม ๔ อย่างนี้เลย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...