ทุกขณะจิตมีปัจจัยและปัจจยุบัน

 
papon
วันที่  4 เม.ย. 2557
หมายเลข  24676
อ่าน  2,130

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

"ทุกขณะจิตมีปัจจัยและปัจจยุบัน" ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยกรุณาอธิบายพจนานี้ด้วยครับ ขอ​อนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 5 เม.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปัจจัย เป็นสภาพธรรมที่อุปการะเกื้อกูลให้สภาพธรรมอื่นเกิดขึ้นหรือดำรงอยู่ตามควรแก่ประเภทของปัจจัยนั้นๆ ซึ่งเมื่อมีปัจจัย ก็ต้องมีผลของปัจจัยนั้น ในภาษาธรรมเรียกว่า ปัจจยุบบัน

ปัจจยุบบัน คือ ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพราะปัจจัย คือ ผลนั่นเอง หมายถึง สังขารธรรมซึ่งเป็นผลของปัจจัยได้แก่ จิต เจตสิก และรูปทั้งหมด

สภาพธรรมทั้งหลายเมื่อจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิดขึ้นเพราะปัจจัย แต่การเกิดขึ้นของสภาพธรรมอาศัยหลายๆ ปัจจัย ดังนั้นพระพุทธเจ้าแสดงปัจจัยว่ามี ทั้งหมด 24 ปัจจัย

ดังนั้น ทุกขณะจิตมีปัจจัยและปัจจยุบัน คือ เพราะการเกิดขึ้นของจิต จะต้องมีเหตุคือ ปัจจัยที่ทำให้จิตเกิดและมีผล ที่เป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเพราะปัจจัยนั้น เช่น ขณะที่เห็นเกิดขึ้น เห็น เป็นจิต อาศัยปัจจัยหลายๆ ปัจจัย มี สหชาตปัจจัย คือ การเกิดขึ้นพร้อมกัน ทำให้เกิดจิต และมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย เพราะฉะนั้น จิต จึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย และ เจตสิก ก็เป็น ปัจจยุบบัน เป็นผลของปัจจัยได้ โดยนัยปัจจัยต่างๆ ครับ

เชิญอ่านข้อความบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ได้ที่นี่ ครับ

การศึกษาเรื่องปัจจัย ๒๔ เพื่อพิจารณาให้เข้าใจ

สำหรับเรื่องของปัจจัยนี้ ท่านผู้ฟังจะได้ยินได้ฟังตั้งแต่ต้นทีเดียวว่า สภาพธรรมที่เป็นสังขารธรรมต้องอาศัยปัจจัยจึงเกิดขึ้น ถ้าไม่มีปัจจัยก็ไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้ ต้องเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย เพราะฉะนั้น ก็ได้ยินคำว่าปัจจัยบ่อย นับตั้งแต่ได้รู้ลักษณะของสังขารธรรม แล้วสำหรับปรมัตถธรรม มี ๔ คือ จิตปรมัตถ์ เจตสิกปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์ นิพพานปรมัตถ์

เพราะฉะนั้นสภาพธรรมที่เป็นปรมัตถธรรมนี้นั่นเอง เป็นปัจจัยที่ทำให้สภาพปรมัตถธรรมอื่นเกิดขึ้นพร้อมกันกับตน หรือว่าอาจจะเกิดขึ้นภายหลังที่สภาพธรรมที่เป็นปัจจัยดับไปแล้ว

ปัจจัยทั้งหมดมีโดยประเภทใหญ่ๆ ๒๔ ปัจจัย ไม่จำเป็นที่จะต้องฟังแบบท่องหรือว่าตั้งใจที่จะจำชื่อทั้งหมดหรืออะไร แต่ควรที่จะเพียงเริ่มพิจารณาศึกษาให้เข้าใจในเหตุผลของสภาพธรรมที่กำลังศึกษาให้ละเอียดขึ้น เพื่อเวลาที่ศึกษาต่อไป ปัจจัย ๒๔ แต่ละประเภทก็จะได้ศึกษาเมื่อถึงโอกาส เพราะเหตุว่าการที่จะศึกษาเรื่องปัจจัย จะต้องศึกษาถึงลักษณะของจิตแต่ละดวงซึ่งเกิดดับสืบต่อกัน ถ้ายังไม่ทราบว่า จิตดวงไหนเกิดแล้วดับไป แล้วเป็นปัจจัยอะไรที่จะทำให้จิตดวงต่อไปเกิดขึ้น

เพราะฉะนั้น การที่จะรู้ปัจจัยของจิต ก็จะต้องรู้ลักษณะของจิตแต่ละประเภทแต่ละดวง แล้วจะรู้ว่า ในจิตแต่ละประเภทแต่ละดวงนั้นเป็นปัจจัยอะไรแก่เจตสิกซึ่งเกิดร่วมกัน หรือว่าแก่สภาพของจิต เจตสิกซึ่งจะเกิดในภายหลัง

เพราะฉะนั้น ในการที่จะพูดถึงเรื่องของปัจจัย เป็นเรื่องย่อ เพียงแต่จะให้คุ้นเคยกับชื่อ และให้เข้าใจสภาพของปัจจัยนั้นๆ ตามควร

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 5 เม.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่เคยขาดจิตเลย ทุกขณะคือจิต (และเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วย) เกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอด และไม่ขาดสายด้วย และถ้ากล่าวถึงปัจจัย (เหตุที่ทำให้สภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นไป) และปัจจยุบบัน (ผลของปัจจัย) เป็นการแสดงถึงความเป็นไปของธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เป็นอนัตตา ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน จิตเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย สภาพธรรมที่เป็นเหตุให้จิตเกิดขึ้น เป็นปัจจัย จิตที่เหตุขึ้นเป็นผลของปัจจัยนั้น เรียกว่า ปัจจยุบบัน ขึ้นอยู่กับว่าจะกล่าวโดยปัจจัยใด และจิต ก็ยังเป็นปัจจัยให้จิตเกิดได้ด้วย แต่ไม่ใช่ในขณะเดียวกัน เช่น จิตขณะหนึ่งดับไป เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อโดยไม่มีระหว่างคั่นโดยอนันตรปัจจัย ยกตัวอย่าง จิตเห็นเป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อ คือสัมปฏิจฉันนจิต โดยอนันตรปัจจัย โดยที่จิตเห็นเป็นปัจจัย สัมปฏิจฉันนจิตเป็นปัจจยุบบัน คือ เป็นผลของปัจจัยนั้น นอกจากนั้น จิตเกิดดับสืบต่อกัน เป็นลำดับด้วยดี ไม่มีการสับลำดับกันตามความเป็นจริงของจิต เช่น เมื่อจิตเห็นดับไปแล้ว จิตขณะต่อไปจะเป็นจิตอื่นไม่ได้ ก็ต้องเป็นสัมปฏิจฏันนจิต ดังนั้น จิตเห็นเป็นปัจจัยแก่สัมปฏิจฉันนจิตโดยสมนันตรปัจจัย ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ในชีวิตประจำวัน ซึ่งยากที่จะเข้าใจได้ แม้ในขั้นการฟัง ก็เข้าใจว่า มีจริงๆ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรา กล่าวได้ว่า เป็นประโยชน์ตั้งแต่ในขั้นการฟัง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 5 เม.ย. 2557

จิตเกิดขึ้นต้องอาศัยเหตุปัจจัย เกิดขึ้นมาเองลอยๆ ไม่ได้ เช่น อาศัย เจตสิก จึงเกิดขึ้น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
napachant
วันที่ 7 เม.ย. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
j.jim
วันที่ 9 เม.ย. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ