ธรรมวาทีและอธรรมวาที

 
natural
วันที่  6 เม.ย. 2557
หมายเลข  24682
อ่าน  3,775

ธรรมวาทีและอธรรมวาที หมายถึงอะไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 6 เม.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมวาที หมายถึง ผู้ที่กล่าวแสดงธรรมที่ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง เรียกว่า ธรรมวาที

อธรรมวาที หมายถึง ผู้ที่กล่าวธรรมไม่ถูกต้อง คลาดเคลื่อน ไม่ตรงตามความเป็นจริง

ดังข้อความในพระไตรปิฎก

[เล่มที่ 29] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ หน้า 91

ข้อความตอนหนึ่งจาก...

ธรรมวาทีปัญหาสูตร

ว่าด้วยปัญหาผู้เป็นธรรมวาที

[๔๙๙] ปริพาชกชื่อว่าชัมพุขาทกะ ถามท่านพระสารีบุตร ว่า "ดูก่อนท่านพระสารีบุตรใครหนอเป็นธรรมวาทีในโลก ใครหนอเป็นผู้ปฏิบัติดีในโลก ใครหนอเป็นผู้ไปดีแล้วในโลก".

ท่านพระสารีบุตรตอบว่า "ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ท่านผู้ใดแสดงธรรมเพื่อละราคะ โทสะ โมหะ ท่านผู้นั้นเป็นธรรมวาทีในโลก อนึ่ง ผู้ใดปฏิบัติ เพื่อละราคะ โทสะ โมหะ ท่านผู้นั้นเป็นผู้ปฏิบัติดีในโลก ราคะ โทสะ โมหะ อันท่านผู้ใดละได้แล้ว ถอนรากเสียแล้ว ทำให้เป็นดังตาลยอดด้วน กระทำมิให้มีในภายหลัง ไม่ให้เกิดขึ้นต่อไปเป็นธรรมดา ท่านผู้นั้น เป็นผู้ไปดีแล้วในโลก"

ผู้ที่เป็นธรรมวาที ยิ่งกว่า ธรรมวาทีในโลก พร้อมทั้งเทวโลก คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่ตรัสรู้ความจริง แสดงธรรม ที่เป็นวาจาสัจจะ ที่เป็น วาที วาจาที่ทำให้สัตว์โลกเกิดปัญญา และละกิเลสได้ในที่สุด ครับ

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ

ธรรมวาที และ อธรรมวาที [วินัยปิฎก]

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 6 เม.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น เพื่อให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริง ตามความเป็นจริง ที่สุดแล้วก็เพื่อที่จะให้ละราคะ โทสะ โมหะ ผู้ใดกล่าวหรือแสดงเรื่องของการละราคะ โทสะ โมหะ ผู้นั้นก็เป็นผู้ที่แสดงธรรมดีแล้ว เป็นธรรมวาที แต่ถ้าไม่ได้กล่าวถึงสิ่งที่มีจริง แต่กล่าวในสิ่งที่ผิด ไม่ทำให้ความเข้าใจถูกเห็นถูกเกิดขึ้นก็ไม่ธรรมวาที ย่อมเป็นอธรรมวาที เพราะไม่ได้กล่าวให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง และคำสอนดังกล่าวนั้น เป็นคำสอนที่ผิด ไม่ได้เป็นคำจริงเลยแม้แต่น้อย

บุคคลผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ซึ่งเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันเป็นวาจาสัจจะ แสดงให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง แล้วมีความเข้าใจไปตามลำดับ ก็จะเห็นพระคุณของพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงว่า ถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดงสภาพธรรมพร้อมด้วยเหตุและผลอย่างละเอียดแล้ว สัตว์โลกทั้งหลายย่อมไม่สามารถพ้นไปจากความเห็นผิด และความไม่รู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏตลอดจนถึงกิเลสประการอื่นๆ ได้ เพราะฉะนั้น เครื่องปัองกันความเห็นผิดและความไม่รู้ เป็นต้น ก็คือ ความเข้าใจพระธรรม ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 6 เม.ย. 2557

ธรรมวาที่คือผู้ที่กล่าวธรรมที่ถูก มีหลักฐาน มีที่อ้างอิง มีที่สุด ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
natural
วันที่ 7 เม.ย. 2557

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
papon
วันที่ 7 เม.ย. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
j.jim
วันที่ 8 เม.ย. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 19 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

ด้วยความเคารพยิ่ง จาก ใหญ่ราชบุรี – ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 31 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ