พระโสดาบันเจริญธรรมใด
พระโสดาบันเจริญธรรมใดเพื่อละกามราคะ และปฏิฆะ
ขอบพระคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประเด็นเรื่องพระโสดาบัน ก่อนอื่นควรที่จะได้เข้าใจว่า พระโสดาบัน คือใคร? พระโสดาบัน คือ ผู้ที่ถึงพระนิพพาน เป็นครั้งแรก ซึ่งก็คือ เป็นพระอริยบุคคลขั้นที่ ๑ ที่ได้ประจักษ์แจ้งพระนิพพานดับกิเลสได้ในระดับหนึ่ง ดับกิเลสได้เพียงบางส่วนตามสมควรควรแก่มรรคที่ท่านได้ ยังไม่สามารถดับได้ทั้งหมด พระโสดาบันดับความเห็นผิดทุกประการ ดับความลังเลสงสัยในสภาพธรรม ดับความตระหนี่ ดับความริษยา ดับกิเลสอย่างหยาบที่จะเป็นเหตุให้ไปเกิดในอบายภูมิ เพราะพระโสดาบันเป็นผู้ไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิอีกต่อไป ท่านเกิดอีกอย่างมาก ไม่เกิน ๗ ชาติ เป็นผู้แน่นอนที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระอริยบุคคลขั้นสูงๆ ขึ้นไป กล่าวคือ บรรลุเป็นพระสกทาคามี พระอนาคามี จนกระทั่งถึงความเป็นพระอรหันต์ในที่สุด
ส่วน กามราคะ คือ โลภเจตสิกที่ติดข้อง ยินดีพอใจ ในรูป เสียง กลิ่น รส สิ่งที่กระทบสัมผัส เป็นต้น ซึ่งจะต้องถึงความเป็นพระอนาคามี จึงจะละได้ แม้ พระสกทาคามี ที่สูงกว่า พระโสดาบัน ท่านก็ยังมีกามราคะอยู่ ครับ
ปฏิฆะ เมื่อกล่าวโดยศัพท์แล้ว ปฏิ (เฉพาะ) + หน ธาตุ แปลงเป็น ฆ (เบียดเบียน กระทบ, ฆ่า, ตี) กระทบเฉพาะ, กระทบกระทั่ง หมายถึง โทสเจตสิก ซึ่งมีลักษณะที่ตรงกันข้ามกับโลภเจตสิก โทสะเป็นสภาพที่ขุ่นเคือง ไม่พอใจและประทุษร้ายอารมณ์ ซึ่งปฏิฆะนั้นมีหลายระดับ ทั้งที่เป็นเพียงอนุสัยกิเลสที่เป็นปฏิฆานุสัยรวมทั้งสภาพธรรมที่กระทบกระทั่งที่เป็นโทสะแล้วที่มีกำลัง ก็จัดเป็นปฏิฆะ ซึ่ง ปฏิฆะ จะดับได้เมื่อถึงความเป็นพระอนาคามี ซึ่ง พระสกทาคามี ที่สูงกว่าพระโสดาบัน ก็ยังไม่สามารถดับปฏิฆะได้เลย ครับ
ซึ่ง พระโสดาบัน จะดับ กามราคะ และ ปฏิฆะได้จริงๆ จนหมดสิ้น ก็คือ จะต้องอบรมปัญญาต่อไป จนถึงความเป็นพระอนาคามี ซึ่งหนทางเดียว ก็คือ การเจริญสติปัฏฐานต่อไป ไม่มีหนทางอื่น เพราะ เป็นหนทางที่จะทำให้ถึงความเป็นพระสกทาคามี พระอนาคามี และ พระอรหันต์ การเจริญสมถภาวนา ไม่สามารถละกามราคะ และ ปฏิฆะได้จริง เพียงสงบจากกิเลสเท่านั้น ชั่วขณะที่ได้ฌาน ครับ เพราะฉะนั้น พระโสดาบัน ท่านก็ยังฟังพระธรม ศึกษาพระธรรมต่อไปและ เจริญสติปัฏฐานระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ จนบรรลุธรรมขั้นต่างๆ และ เมื่อถึงความเป็นพระอนาคามี ก็ดับกามราคะ และ ปฏิฆะได้จริงๆ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระโสดาบัน เป็นพระอริยบุคคลขั้นแรก ที่สามารถดับกิเลสได้ในระดับหนึ่ง ดับได้เป็นเพียงบางประเภท ยังไม่สามารถดับได้ทุกประการ เพราะผู้ที่จะดับกิเลสได้อย่างหมดสิ้น ไม่มีเหลือนั้น คือ พระอรหันต์ การเป็นพระอริยบุคคลทุกขั้น เป็นได้ด้วยปัญญาและต้องดำเนินตามหนทางที่เป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์หมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลายคือ อริยมรรค มีองค์ ๘ ที่เริ่มด้วย ความเห็นที่ถูกต้อง กิเลสที่ดับได้แล้วจะไม่เกิดอีกในสังสารวัฏฏ์ กิเลสที่พระโสดาบันยังดับไม่ได้ ก็ต้องมีการอบรมเจริญปัญญาต่อไปอีก จนกว่าจะมีปัญญาสามารถที่จะดับกิเลสนั้นๆ ได้ ทำให้ถึงความเป็นพระอริยบุคคลในขั้นต่อไป และในที่สุดแล้ว ก็จะสามารถดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้นถึงความเป็นพระอรหันต์
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้และทรงแสดงนั้น มีความละเอียดลึกซึ้งยากที่จะตรัสรู้ตามได้ เป็นธรรมอันบัณฑิตเท่านั้นที่จะรู้ได้ ธรรมจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะกว่าที่พระผู้มีพระภาคเจ้าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั้น พระองค์ต้องใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมีตลอดระยะเวลาสี่อสงไขยแสนกัปป์ ถ้าไม่ฟังไม่ศึกษาเลย ปัญญาย่อมไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้เลย เหตุที่จะทำให้ปัญญาเจริญขึ้น ก็คือ ฟังพระธรรม ด้วยความเคารพ ไตร่ตรองพิจารณาในเหตุในผลของธรรม ธรรม ไม่พ้นไปจากชีวิตประจำวันเลย ไม่ว่าจะฟังพระธรรมส่วนไหน ก็ไม่พ้นไปจากเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีในขณะนี้ สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีจริงในขณะนี้จริงๆ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...