อากาสานัญจายตนะ
อรูปฌาณที่ 1 อากาสานัญจายตนะถืออากาศเป็นอารมณ์ อากาศในที่นี้เป็นอย่างไรครับ เป็นนามประเภทใดครับ
ขอขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อากาสานัญจายตนฌาน
อากาส (อากาศ) + อนันต (ไม่มีที่สุด) + อายตน (ที่เกิด) + ฌาน (สภาพที่เพ่งอารมณ์ , เผาปฏิปักษ์ธรรม)
ที่เกิดของฌานจิตและสัมปยุตตธรรมคือความไม่มีที่สุด หมายถึง อรูปาวจรจิต ดวงแรก หรืออรูปฌานที่ ๑ ซึ่งมี ๓ ดวง ๓ ชาติ คือ ...
๑. อากาสานัญจายตนกุศลจิต เป็นอรูปฌานกุศลดวงที่ ๓
๒. อากาสานัญจายตนวิบากจิต เป็นอรูปฌานวิบากดวงที่ ๓
๓. อากาสานัญจายตนกิริยาจิต เป็นอรูปฌานกิริยาดวงที่ ๓
ผู้ที่จะอบรมเจริญอรูปฌานกุศลจิต ต้องอบรมรูปฌานกุศลจิตจนกระทั่งได้ปัญจมฌานที่เป็นกสิณ ๙ กองแล้ว (ยกเว้นอากาศกสิณ ไม่สามารถนำมาเพิกได้) เพราะต้องมีการเพิกกสิณ คือไม่ใส่ใจในดวงกสิณ แต่ใส่ใจในอากาศที่ว่าเปล่าจากการเพิกกสิณแล้ว อากาศที่เพิกจากกสิณซึ่งเป็นอารมณ์ซึ่งเกิดจากการน้อมนึก และพิจารณาด้วยสติสัมปชัญญะ
อากาศในที่นี้ จึงเป็น อากาศที่ว่างเปล่า ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เรื่องฌานขั้นต่างๆ เป็นเรื่องของการอบรมเจริญความสงบของจิต คือ สมถภาวนา ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากกว่าจะถึงการได้ฌานขั้นต่างๆ แม้ในสมัยพุทธกาลเอง ผู้ที่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลโดยที่ได้ฌานด้วย มีน้อยกว่าพระอริยบุคคลที่ไม่ได้ฌาน
เรื่องฌาน จึงเป็นเรื่องไกลตัวมาก แต่ หนทางที่ควรเดิน คือ การอบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ไม่ขาดการฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งจะเป็นหนทางที่จะทำให้เข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงที่กำลังปรากฏในขณะนี้ จนกระทั่งสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสได้ตามลำดับขั้นได้ เพราะการอบรมเจริญสมถะไม่สามารถทำให้ถึงการดับกิเลสได้ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...