แด่พระเถรานุเถระผู้เคารพธรรมวินัย

 
hengworld
วันที่  10 ส.ค. 2548
หมายเลข  250
อ่าน  2,070

จำเดิมกระผมรู้สึกต่อต้านพระป่า พระธุดงค์ ว่าท่านไม่สนใจปริยัติ ก็น่าจะปฏิบัติผิดๆ ถูกๆ ในขณะที่พระที่ศึกษาปริยัตินั้นย่อมรู้หนทางถูกต้อง เพราะศึกษาผ่านพุทธพจน์ในคัมภีร์

กาลต่อมากระผมเองได้มีโอกาสเห็นว่ากลุ่มภิกษุผู้ปริยัตินั้นก็มีภาระกิจด้านการศึกษาทางนี้กันมาก และก็เน้นไปทางด้านการมุ่งแสวงหาสมณศักดิ์บ้าง ลาภ สักการะบ้าง ในพระธรรมวินัยให้เคารพกันตามพรรษา แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าพระคุณเจ้าทั้งหลายจะดูสมณศักดิ์เป็นสำคัญกว่านะครับ ฯลฯ

ผมเห็นหลายสิ่งหลายอย่างจนอกุศลจิตเพิ่มพูนและเริ่มรู้สึกว่า "ในสังคมพระทีไม่รู้จักขัดเกลากิเลสตนเองนั้น แทบไม่ต่างไปจากสังคมฆราวาสที่ดิ้นรนแข่งขันเลย" แล้วผมก็กลับมาระลึกถึงพระเถรานุเถระทั้งหลายอีกวาระหนึ่ง ท่านผู้สละซึ่งการแสวงหาลาภสักการะ สมณศักดิ์ ตาลปัตรพัดยศ มิได้จำกัดแค่พระธุดงค์นะครับ หมายรวมถึงพระคุณเจ้าทุกรูปที่มุ่งสละกิเลสและเคารพพระธรรมวินัยทุกรูป

กระทู้นี้หมายเพียงขอแสดงทรรศนะชาวพุทธคนหนึ่ง ที่คราหนึ่งเกือบจะสิ้นศรัทธาในพระภิกษุไปแล้ว แต่ได้สติจากการฟังพระธรรม ขอบพระคุณสำหรับการเผยแพร่พระธรรมด้วยความบริสุทธิ์ใจของทุกๆ ท่านที่จัดทำเว็บและมูลนิธิฯ ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 ส.ค. 2548

พระผู้มีพระภาคประทานพระธรรมวินัยที่ทรงแสดงแล้วไว้เป็นศาสดาแทนพระองค์เมื่อทรงดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พุทธบริษัทย่อมถวายความนอบน้อมสักการะพระธรรมอันประเสริฐสุดของพระผู้มีพระภาค ตามความรู้ความเข้าใจในพระธรรมวินัย

พระพุทธศาสนา คือ พระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามี ๓ ขั้น

๑. ขั้นปริยัติ ศึกษาพระธรรมวินัย

๒. ขั้นปฏิบัติ เจริญธรรมเพื่อบรรลุธรรมที่ดับกิเลสดับทุกข์

๓. ขั้นปฏิเวธ รู้แจ้งธรรมที่ดับกิเลส ดับทุกข์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 ส.ค. 2548

พุทธศาสนิกชนควรพิจารณาและศึกษาให้รู้ว่า ธรรมและความจริงที่พระองค์ตรัสรู้นั้นคืออะไร ความจริงที่พระองค์ทรงตรัสรู้ต่างกับความจริงที่เราคิดนึกหรือเข้าใจอย่างไรบ้าง ความจริงที่พระองค์ทรงตรัสรู้และทรงเทศนาสั่งสอนพุทธบริษัทให้เข้าใจและปฏิบัติตาม จนเห็นความจริงนั้นๆ ก็คือ สิ่งทั้งหลายที่ปรากฏนั้น เป็นธรรมแต่ละชนิดแต่ละประเภท ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล สภาพธรรมแต่ละชนิดแต่ละประเภทนั้นต่างกัน เพราะเกิดจากเหตุปัจจัยต่างๆ กัน การศึกษาพระธรรมไม่ใช่เพื่อลาภสักการะหรือคำสรรเสริญ แต่เพื่อเข้าใจ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 20 ต.ค. 2549

เป็นเช่นที่ท่านว่ามานั้นจริงๆ ครับ ชอบแล้ว

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pornpaon
วันที่ 9 ธ.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 26 เม.ย. 2554

"...พุทธศาสนิกชนควรพิจารณาและศึกษาให้รู้ว่า ธรรมและความจริงที่พระองค์ตรัสรู้นั้นคืออะไร ความจริงที่พระองค์ทรงตรัสรู้ ต่างกับความจริงที่เราคิดนึกหรือเข้าใจอย่างไรบ้าง..." และ

"...การศึกษาพระธรรมไม่ใช่เพื่อลาภสักการะหรือคำสรรเสริญ แต่เพื่อเข้าใจ..." เป็นประโยคที่ยังฝังอยู่ในใจจนบัดนี้ กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 30 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ