อารมณ์
สิ่งที่จิตรู้ทางประสาททั้ง 5 เป็นรูป คำถามคือสิ่งที่จิตนึกคิดทางมโนเป็นรูปหรือนามครับ
ขอขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูงครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อารมณ์หมายถึงสิ่งที่ถูกจิตและเจตสิกรู้ ซึ่งจิตและเจตสิก สามารถรู้ หรือมีอารมณ์ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนามธรรมและรูปธรรม คือ รู้จิต เจตสิก รูป และนิพพานได้ รวมทั้งจิตก็สามารถรู้บัญญัติได้ด้วยครับ
ส่วนทางใจ สามารถมีอารมณ์ได้ทั้งรูปและนาม และ บัญญัติด้วย ครับ ซึ่งอารมณ์ทางใจ เรียกว่า ธัมมารมณ์
ธัมมารมณ์ เป็นอารมณ์ที่จิตรู้ได้เฉพาะทางใจทางเดียวเท่านั้น มี ๖ อย่าง
๑. จิต ๘๙
๒. เจตสิก ๕๒
๓. ปสาทรูป ๕
๔. สุขุมรูป ๑๖
๕. นิพพาน
๖. บัญญัติ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ที่ควรจะได้เข้าใจเป็นเบื้องต้น คือ จิต เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ (อารมณ์คือ สิ่งที่ถูกจิตกำลังรู้) เมื่อจิตเกิดขึ้น ก็ต้องรู้อารมณ์หนึ่งอารมณ์ใด ตามควรแก่จิตประเภทนั้นๆ เช่น จิตที่เกิดขึ้นทางตาทั้งหมด ก็ต้องมีสีเป็นอารมณ์ ที่เรียกว่ารูปารมณ์ จิตที่เกิดขึ้นทางหูทั้งหมด ก็ต้องรู้เสียงเป็นอารมณ์ที่เรียกว่าสัททารมณ์ เป็นต้น ถ้าเป็นทางใจ แล้ว กว้างมาก รู้ได้ทั้งรูปธรรม นามธรรม และบัญญัติเรื่องราวต่างๆ ด้วย
เมื่อกล่าวถึงสภาพธรรมที่น้อมไปสู่อารมณ์แล้ว ไม่พ้นไปจากนามธรรม ๒ ประเภท คือ จิต และเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วย แสดงถึงความเป็นจริงของธรรม ที่มีจริงๆ ความเป็นจริงเป็นอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น พระธรรมที่ได้ยินได้ฟังทั้งหมดเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกว่า เป็นธรรมที่มีจริงๆ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
อารมณ์ หมายถึง สิ่งที่จิตรู้ เช่น สีแดง เป็นอารมณ์ของจิตเห็น ค่ะ
ถัาไม่มีอารมณ์ จิตและเจตสิกก็เกิดไม่ได้ ไม่พ้นขณะนี้เอง ถ้าไม่มีสิ่งที่ปรากฏทางตา เห็นก็เกิดไม่ได้ ถ้าไม่มีเสียงปรากฏทางหู ได้ยินก็เกิดไม่ได้ เรื่องราวมากมายในความคิดก็เพราะจิตและธรรมะที่เกิดกับจิต เกิดขึ้นรู้ทางใจ ไม่มีเราสักขณะเดียว มีแต่ธรรมะที่เกิดแล้วเพราะปัจจัย
เรียนถาม
ปสาทรูป ๕ เป็นรูปหยาบ รู้ได้ทางใจ เป็นธัมมารมณ์ และธัมมารมณ์รู้ได้ทั้งรูปที่หยาบและละเอียด ดิฉันกล่าวถูกต้องหรือไม่คะ
ขอบพระคุณค่ะ