อยากสอบเกี่ยวกับการต่อว่าครับ

 
สืบต่อพุทธ
วันที่  22 มิ.ย. 2557
หมายเลข  25008
อ่าน  1,588

ผมได้อ่านพระสูตร เรื่องที่นางอัมพปาลีที่เกิดเป็นโอปปาติกะจากโคนต้นมะม่วง. แล้วในอดีตชาติได้ล่วงเกินพระอรหันต์เถรีที่ได้ถ่มน้ำลายที่ลานเจีดย์ที่นางกำลังทำทักษิณาอยู่ว่าหญิงแพศยา ทำให้นางเกิดเป็นโสเภณีหลายร้อยชาติ.

ผมสงสัยว่าพระอรหันต์เถรีทำไมท่านถึงถ่มน้ำลายที่ลานเจดีย์ได้ครับ เพราะเป็นการไม่เหมาะสมนี่ครับ

และกรณีถ้าเราเห็นทำไม่ถูก แล้วเราต่อว่า. แต่ผู้นั่นมีบุญรักษาศีล เราก็มีวิบากไม่ดีเหรอครับเหมือนนางหรือไม่ครับ

แล้วกรณีที่ชาวบ้านติเตียนพระสงฆ์แล้วไปกราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าพระท่านไม่เหมาะสม ผู้มีเจตนาดีจะได้รับวิบากไม่ดีไหมครับ

หรือถ้าการตินั่นเป็นเจตนาดี จะมีวิบากไม่ดีไหมครับ

ขอบคุณ สาธุ สาธุสาธุครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 22 มิ.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถา เล่ม ๒ ภาค ๔ - หน้าที่ 358

อรรถกถาวีสตินิบาต

๑. อรรถกถาอัมพปาลีเถรีคาถา

ในวีสตินิบาต คาถาว่า กาฬกา ภมรวณฺณสทิสา เป็นต้น

เป็นคาถาของ พระอัมพปาลีเถรี มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.

พระเถรีแม้รูปนี้ ก็ได้บำเพ็ญบารมีมาในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ สร้างสมกุศล อันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานมาในภพนั้นๆ บรรพชาอุปสมบทในศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิขี สมาทานสิกขาบทของภิกษุณีอยู่ วันหนึ่ง ไหว้พระเจดีย์ ทำประทักษิณเวียนขวา เมื่อพระขีณาสวเถรีเดินไปก่อน พลันถ่มน้ำลาย ก้อนน้ำลายก็ตกไปที่ลานพระเจดีย์ พระขีณาสพเถรีไม่เห็นก็เดินไป ภิกษุณีรูปนี้. เดินไปข้างหลังเห็นก้อนน้ำลายนั้นก็คำว่า อีแพศยาชื่อไรนะ ถ่มน้ำลายลงที่ตรงนี้ ภิกษุณีรูปนี้ รักษาศีลในเวลาเป็นภิกษุณี เกลียดการเข้าอยู่ในครรภ์ ก็ตั้งจิตไว้ให้อยู่ในอัตภาพเป็นอุปปาติกะ. ด้วยการตั้งจิตนั้น ในอัตภาพสุดท้าย ภิกษุณีรูปนั้น ก็บังเกิดเป็นอุปปาติกะ ที่โคนต้นมะม่วง ในพระราชอุทยาน กรุงเวสาลี.

» การที่พระอรหันต์เถรี ยังถ่มน้ำลาย ก็เป็นวาสนา อุปนิสัยที่สะสมมา แต่ ท่านถ่มน้ำลายด้วยจิตที่ไม่มีกิเลส ไม่ใช่อกุศลจิตเลย ครับ แต่เป็นอุปนิสัยที่สะสมมาที่ไม่สามารถละได้ที่เรียกว่า วาสนา ดั่งเช่น ท่านพระปิลินถวัจฉะ ที่มักพูดคำว่าคนถ่อย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

★ และกรณีถ้าเราเห็นทำไม่ถูก แล้วเราต่อว่า. แต่ผู้นั่นมีบุญรักษาศีล เราก็มีวิบากไม่ดีเหรอครับเหมือนนางหรือไม่ครับ

» ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาครับ ถ้าเจตนาหวังดี ติเตียนด้วยหวังดี ไม่ใช่การว่าร้าย ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าด่าว่า คนนั้นด้วยโทสะ และล่วงออกมาทางวาจา ก็ไม่ดี ทำให้ได้รับวิบากไม่ดีได้ ครับ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

★ แล้วกรณีที่ชาวบ้านติเตียนพระสงฆ์แล้วไปกราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าพระท่านไม่เหมาะสม ผู้มีเจตนาดีจะได้รับวิบากไม่ดีไหมครับ

» ถ้าเจตนาดี วิบากก็ต้องดี ไม่ใช่วิบากไม่ดี ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 22 มิ.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

-ที่จะเป็นประโยชน์จริงๆ คือ พระอรหันต์ คือ ผู้ที่ดับกิเลสหมดสิ้นแล้ว ไม่มีกิเลสใดๆ เกิดขึ้นอีกเลยไม่มีความประพฤติเป็นไปใดๆ ที่จะเป็นไปเนื่องด้วยกิเลสเลย เพราะท่านได้ดับจนหมดสิ้นแล้วจิตของท่านมีเพียง ๒ ชาติเท่านั้น คือ วิบาก กับ กิริยา จนกว่าจะดับขันธปรินิพพาน

-จะเห็นได้ว่า สิกขาบทต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระวินัย นั้น มีต้นบัญญัติ มีผู้กระทำไม่เหมาะสม จะเป็นชาวบ้านหรือ เป็นพระภิกษุ ที่เห็นความประพฤติเป็นไปนั้น แล้วติเตียน โพนทะนา ว่าเป็นความประพฤติที่ไม่เหมาะสม และในที่สุดพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงติเตียน แสดงให็เห็นตามความเป็นจริง ว่า ไม่เหมาะสม แล้วประชุมสงฆ์ทรงบัญญัติสิกขาบทเพื่อให้พระภิกษุได้ศึกษา ได้สำรวม และงดเว้นในสิ่งที่ผิด จึงกล่าวได้ว่า การกระทำใดๆ ก็ตามถ้าเป็นสิ่งที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ เป็นไปเพื่ออนุเคราะห์แล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่สมควร เพราะไม่ได้มุ่งที่ทำร้ายบุคคลหนึ่งบุคคลใดเลย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
peem
วันที่ 22 มิ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ประสาน
วันที่ 24 มิ.ย. 2557

การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ