ศึกษาพระธรรมเพื่ออะไร เพื่อจำ หรือ เพื่อปฏิบัติตาม
เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
"ศึกษาพระธรรมเพื่ออะไร เพื่อจำ หรือ เพื่อปฏิบัติตาม" พจนาท่านอาจารย์ "เพื่อปฏิบัติตาม" ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยอธิบายในประโยคนี้เพื่อความกระจ่างด้วยครับ
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ศึกษาพระธรรมเพื่ออะไร เพื่อจำ หรือ เพื่อปฏิบัติตาม
การศึกษาพระธรรม เพื่อให้เข้าใจถูกตามความเป็นจริงในจุดประสงค์ที่ถูกต้อง ที่ไม่ใช่เพื่อจำ แต่ เพื่อประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ซึ่งความเข้าใจเกิดขึ้นเท่าใด ก็ประพฤติปฏิบัติตามเท่านั้น ซึ่งการประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมที่ถูกต้องตามความเป็นจริง คือ การรู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ซึ่งการจำชื่อ ไม่ใช่การรู้ความจริงของสภาพธรรมที่เป็นลักษณะ แต่ การศึกษาชื่อ เพื่อการรู้ความจริงของตัวสภาพธรรมที่กำลังมีในขณะนี้ ซึ่งขณะที่รู้ลักษณะ ขณะนั้น ก็ชื่อว่าประพฤติปฏิบัติตาม โดยไม่มีเราที่ประพฤติตาม แต่สติและปัญญาที่เกิดขึ้นระลึกรู้ในขณะนั้น ชื่อว่าเป็นธรรมที่ประพฤติปฏิบัติตาม ตามพระธรรม ตามความเข้าใจที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่ถูกต้อง อันเป็นการเดินในหนทางที่ถูก ที่เป็น อริยมรรคมีองค์ 8 อันเป็นทางสายกลาง ครับ ซึ่งจะต้องอาศัยการฟัง การศึกษาพระธรรมในเรื่องสภาพธรรมที่ไม่ต้องอาศัยการจำชื่อ แต่ฟังเพื่อเข้าใจความจริงไปทีละน้อย สังขารขันธ์ก็จะปรุงแต่ง และ พร้อมเกิดปัญญาเข้าใจความจริงในขณะนี้ในอนาคต ซึ่งการประพฤติปฏิบัติตามก็เป็นไปตามลำดับ ขณะที่เข้าใจขั้นการฟัง ปัญญาเกิดขึ้น ก็ประพฤติปฏิบัติ ตามระดับความเข้าใจขั้นการฟัง เพื่อไปถึง ธรรมที่ปฏิบัติตาม น้อมไปสู่สภาพธรรมในขณะนี้ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น แต่ธรรมเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีใครทำอะไรให้เกิดขึ้นได้ มีแต่ความเป็นไปของสภาพธรรมที่มีจริงเท่านั้นเอง
ในการฟังในการศึกษาพระธรรม ต้องอาศัยคำ ต้องอาศัยชื่อของธรรม มิฉะนั้นก็จะไม่สามารถเข้าใจได้ว่ากล่าวถึงอะไร แต่ไม่ใช่เพื่อจำชื่อ แต่เพื่อเข้าใจความจริงของสภาพธรรมตามความเป็นจริง
การฟังพระธรรมให้เข้าใจในสิ่งที่กำลังฟังบ่อยๆ เนืองๆ สังขารขันธ์ย่อมปรุงแต่งน้อมไปให้เข้าใจในสิ่งที่กำลังปรากฏ ไม่ใช่ตัวตนที่ไปประพฤติตาม ตามเป็นธรรมที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ซึ่งต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาไปตามลำดับเท่านั้น ที่จะเป็นไปเพื่อยังกุศลทั้งหลายให้ถึงพร้อมได้ในชีวิตประจำวัน ที่น่าพิจารณาคือแม้ว่ายังไม่ได้ดับกิเลสอะไรเลย ยังเป็นผู้มีกิเลสอยู่ แต่ก็มีความจริงใจที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ และน้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม เพื่อละคลายกิเลสที่ได้สะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ให้เบาบางลง จนกระทั่งสามารถดับได้อย่างเด็ดขาดในที่สุด ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ไม่ใช่แค่รู้ชื่อ แต่ เป็นความเข้าใจ ที่รู้ตัวจริงของธรรม ว่าแม้ขณะเห็น ได้ยิน เดี๋ยวนี้ ขณะนี้ก็เป็นธรรม ค่ะ