ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๔๙
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๔๙
ประโยชน์ของการฟังพระธรรมที่ทรงอนุเคราะห์ถึงที่สุด คือ ดับกิเลสหมดไม่เหลือเลย เพราะว่าผู้ที่สามารถแสดงธรรมจนถึงดับกิเลสได้หมด ต้องเป็นผู้มี
ปัญญาจริงๆ เพราะว่าใครจะดับกิเลสได้ ในเมื่อไม่รู้ แต่เมื่อทรงรู้หนทางและ
รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงจึงทรงแสดงหนทางที่สามารถดับกิเลสได้เป็น
สมุจเฉท (ถอนขึ้นได้อย่างเด็ดขาด)
เมื่อกุศลจิตเกิดแล้ว ไม่มีการยับยั้ง เมื่อถึงเหตุการณ์ที่จะช่วย ถ้ากุศลจิตเกิดก็ช่วย ถ้าควรที่จะช่วย แล้วไม่ช่วย ขณะนั้นเป็นอะไร? ก็เป็นอกุศล
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง นั้น “สังขาร” ไม่ได้หมายความถึงร่างกายอย่างเดียวอย่างที่เคยเข้าใจกัน แต่สังขาร
หมายความถึงธรรมทุกอย่างที่เกิดเพราะมีปัจจัย มีปัจจัยจึงเกิดได้ เมื่อเกิด
แล้วก็ดับไป
การฟังธรรมก็เพื่อให้เข้าใจมั่นคงขึ้นในแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัส เช่น ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ก็เริ่มเข้าใจว่า ไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาให้สิ่ง
หนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นได้เลย ต่อเมื่อมีปัจจัยเหมาะควรแก่สิ่งใดที่จะเกิด สิ่งนั้นก็เกิด
เกิดแล้วก็ดับไป
ถ้ารู้ความจริงของธรรม ถ้าเกิดพลัดพรากจากคนที่เป็นที่รัก จะเดือดร้อนไหม เป็นธรรมดาหรือเปล่า พลัดพรากมาแล้วนานเท่าไร ชาติก่อนๆ ก็พลัดพรากจากชาติก่อนหมดเลย ไม่เหลือเลย ชาตินี้ก็พลัดพรากอยู่ทุกขณะ จนกว่าจะถึงขณะสุดท้าย ซึ่งไม่เหลืออีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็พลัดพรากโดยตลอด เดือดร้อนไหมถ้าเข้าใจถูกต้องว่า เป็นธรรมซึ่งต้องเป็นอย่างนี้ ไม่เป็นอย่างอื่น?
ความไม่ดีของคนอื่น เหมือนกับความไม่ดีของเราที่กำลังโกรธไม่พอใจคนอื่นหรือเปล่า?
ส่วนมากคิดว่า ท่านโกรธคนชื่อโน้น ชื่อนี้ แต่ตามความเป็นจริง
ท่านโกรธอกุศล ที่ท่านเรียกว่าอกุศลนั้นว่า ชื่อนั้น ชื่อนี้ ถูกไหม? ที่จริงแล้ว
อกุศลไม่ได้ชื่ออย่างนั้น อกุศลเป็นอกุศล ไม่มีชื่อเฉพาะ แต่เวลาที่ท่านโกรธ
ท่านคิดว่าท่านโกรธคนนั้นคนนี้ ความจริงท่านโกรธสภาพที่เป็นอกุศล
แล้วท่านเรียกชื่อ ตั้งชื่ออกุศลธรรมนั้นว่าชื่อต่างๆ เป็นคนนั้น คนนี้
ซึ่งไม่มีประโยชน์ที่จะไปโกรธอกุศลธรรม
ถ้าโกรธใคร จะนอนหลับเป็นสุขไหม ลองคิดดู แต่เวลาที่ไม่โกรธใคร ไม่มีเวรกับใครๆ อภัยให้หมดทุกคนได้ ในขณะนั้น หลับเป็นสุขจริงๆ เพราะไม่เกิดอกุศลจิตที่เร่าร้อนก่อนจะหลับ ถ้าโกรธใครค้างอยู่ในใจ พอตื่นขึ้นมาเป็นอย่างไร จิตใจเศร้าหมอง หมกมุ่น ไม่ลืมเรื่องนั้นเลย
คนอื่นสามารถเพียงแค่ทำร้ายกาย แต่สำหรับใจของท่าน อกุศลของ
ท่านเองจะทำร้ายจิตใจของท่าน
สัตว์ที่ยังเหลืออยู่ในโลกนี้ ที่ยังเห็นๆ กันอยู่ ยังเหลืออยู่ในโลกนี้ด้วยกันยังไม่ได้ไปที่อื่น เพราะฉะนั้น ก็ควรที่จะเมตตาเอ็นดูกัน ชั่วระหว่างที่ยังเหลืออยู่
ด้วยกันในโลกนี้ เพราะคนที่ตายไปแล้วก็จากไปๆ อยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้น
ส่วนที่ยังเหลืออยู่ด้วยกัน ก็ควรจะเอ็นดูกัน
ธรรม เป็นทั้งเห็น เป็นทั้งได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสทางกาย คิดนึก ขณะนี้ เป็นธรรม เพราะฉะนั้น ไม่มีอะไรเลยที่พ้นจากธรรม
ศึกษาพระธรรมทั้งหมด เพื่อให้รู้ความจริงว่า เป็นธรรม มีปัจจัยก็เกิด เป็นไปตามปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้
สะสมการโกรธบ่อยๆ วันหนึ่งก็ต้องโกรธง่าย
มีสภาพธรรมที่ปรากฏแล้วเราไม่รู้ เพราะฉะนั้นการฟังพระธรรมก็เพื่อที่จะให้เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏจนกระทั่งสามารถที่จะเข้าใจขึ้นๆ แล้วก็ประจักษ์ความจริงได้
การที่แต่ละคนละค่อยๆ ละคลายกิเลส ก็จะต้องอาศัยปัญญาเพราะเหตุว่าไม่มีสภาพธรรมใดเลยที่จะละคลายหรือดับกิเลสได้ นอกจากปัญญา
ชาวพุทธ ควรจะได้ระลึกถึงหน้าที่ของตนในฐานะของชาวพุทธ คือต้องเข้าใจว่าเป็นชาวพุทธ โดยเข้าใจคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า
และก็เห็นว่าเป็นคำสอนที่ประเสริฐยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ที่ควรจะศึกษาให้เข้าใจถูกต้อง
แล้วประพฤติปฏิบัติตามด้วย
ผู้ที่มีบุญ ศึกษาคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะผู้นั้นสะสมมาที่จะรู้ว่า มีค่าที่สุด ประเสริฐที่สุด เป็นรัตนะที่สูงที่สุด ถ้าเราได้ลาภเป็นเพชร
นิลจินดา หายได้ไหม ตกน้ำได้ไหม ขโมยลักได้ไหม โจรปล้นได้ไหม แต่ความรู้
ของเรา ใครจะเอาไปได้ ไม่มีทางที่ใครจะเอาไปได้เลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ประเสริฐ
ที่สุดสูงที่สุดไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง การได้ที่ประเสริฐ ก็คือ การได้มีโอกาส
ฟังและเข้าใจพระธรรม
สัจจธรรมเปลี่ยนแปลงไม่ได้แน่นอน สัจจะ คือความจริง ความดีต้องเป็นความดี ความชั่ว ต้องเป็นความชั่ว
ถ้าเราไม่เคยทำกรรมอย่างนั้น สิ่งนั้นจะเกิดกับเราไม่ได้ และไม่ใช่คนอื่นทำให้ด้วย กรรมของเราทำ เมื่อถึงคราวถึงโอกาสที่กรรมจะให้ผล สิ่งนั้นก็ต้องเกิดเปลี่ยนแปลงอะไรก็ไม่ได้ ไม่มีใครมาทำเลย เราทำเองทุกอย่างได้ ตกบันได ได้ มีดบาดได้
ถ้าเป็นผู้เข้าใจธรรมตามความเป็นจริง จะรู้ได้ว่า ธรรมฝ่ายใดเป็นฝ่ายดี ธรรมฝ่ายใดเป็นฝ่ายไม่ดี และถ้าเรามีธรรมฝ่ายดีเพิ่มขึ้น เราก็สามารถลดคลายทางฝ่ายอกุศลได้
ผู้ที่กล่าวว่า พระพุทธศาสนามีประโยชน์มาก อาจจะยังไม่เริ่มศึกษาพระพุทธศาสนาเลย เพียงแต่คิดๆ ว่า จะต้องมีประโยชน์แน่ๆ แต่ถ้าทุกคนเป็นอย่างนี้ก็คือ ไม่มีใครศึกษาพระพุทธศาสนา แต่เพียงกล่าวว่า พระพุทธศาสนาดี แต่ถ้าดีจริงต้องเริ่มศึกษา เพื่อที่จะได้รู้ว่า สมจริงอย่างที่เรากล่าวว่า พระพุทธศาสนาดี แล้วก็จะเห็นพระคุณของพระธรรมเพิ่มขึ้น
เคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฟังพระธรรมหรือเปล่า?
แม้พระธรรมยังไม่ฟัง ว่าง่ายหรือว่ายาก?
ฟังพระธรรมโดยเคารพ คือ ไม่คิดเอง.
ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๔๘ [สัปดาห์ที่ ๑๔๘]
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น และทุกๆ ท่านค่ะ...
ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณคำปั่น อักษรวิลัย เป็นอย่างยิ่งครับ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ด้วยความเคารพยิ่ง จาก ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี (ใหญ่ราชบุรี)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของอาจารย์คำปั่น ค่ะ
ถ้าโกรธใคร จะนอนหลับเป็นสุขไหม ลองคิดดู แต่เวลาที่ไม่โกรธใคร ไม่มีเวรกับใครๆ อภัยให้หมดทุกคนได้ ในขณะนั้น หลับเป็นสุขจริงๆ เพราะไม่เกิดอกุศลจิตที่เร่าร้อนก่อนจะหลับ ถ้าโกรธใครค้างอยู่ในใจ พอตื่นขึ้นมาเป็นอย่างไร จิตใจเศร้าหมอง หมกมุ่น ไม่ลืมเรื่องนั้นเลย น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ