มีคำถามค่ะ

 
Stamp
วันที่  30 มิ.ย. 2557
หมายเลข  25045
อ่าน  1,428

หนูได้ฟังธรรมมาสักพักแล้วแต่ก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง พองานเยอะไม่ได้ฟังก็ลืม จะทิ้งงานมาฟังธรรมก็คงจะไม่ได้ ก็เกิดความคิดที่ว่าไม่อยากจะทำงานเลยวันๆ นึง ต้องรีบตื่นเช้าเพื่อเรียนกลับมาก็ต้องทำงานอีก ถึงจะไม่อยากทำแต่ถ้าไม่เรียนไม่ทำงานก็คงจะไม่ได้อีก ถ้ารอจนกว่าจะเกษียณก็คงจะไม่ทัน เพราะไม่รู้ว่าเราจะมีชีวิตอยู่อีกนานแค่ไหน ชีวิตมันก็ไม่ได้แน่นอน ยิ่งทุกวันนี้โลกก็อยู่ยากมากเลยค่ะ ถ้าเราไม่แข่งขันก็ไม่มีงานทำ ช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 30 มิ.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การอบรมปัญญาในพระพุทธศาสนาเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ไม่ได้แยกไปจากชีวิตประจำวันเลย เพราะ ธรรมมีเป็นปกติ เกิดในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น อุบาสก อุบาสิกา ในอดีต สมัยพุทธกาล ไม่ได้ละทิ้งการงาน มาศึกษาพระธรรม แต่ท่านก็ประกอบอาชีพ เป็นปกติของท่าน ตามการสะสม ตามการเป็นไปของสภาพธรรม หากแต่ว่า ผู้ที่สนใจพระธรรม ย่อมแบ่งเวลา ยามว่าง ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นสิ่งที่สำคัญ สมกับความจริงที่ว่า สิ่งใดที่เราเห็นค่า มีประโยชน์ ให้ความสำคัญ เราย่อมมีเวลาให้เสมอ เพราะฉะนั้น เมื่อสาระของชีวิต คือ ความดี และ ปัญญาที่จะติดตัวและเป็นประโยชน์กับ การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ในชาตินี้ เมื่อเสร็จภารกิจการงาน และ งานบ้านต่างๆ ก็แบ่งเวลาเพียงเล็กน้อย ตามโอกาสที่เหมาะสม ด้วยการฟังพระธรรม อ่านพระธรรม แม้แต่การศึกษาในโลกโซเชียล เน็ทเวิร์ค ที่มีเวปไฟต์ธรรม บ้านธัมมะ ก็มีไฟล์เสียง กระทู้สนทนาธรรม ก็สามารถอ่าน และ สอบถาม สนทนาและ ฟังธรรมในยามที่ว่างจากภารกิจการงานได้ ครับ ซึ่ง อุบาสก อุบาสิกา ในอดีต สมัยพุทธกาล เมื่อเสร็จกิจการงาน ก็ไปเฝ้าฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า เจริญกุศล ไม่ได้ละทิ้งการงาน แต่ว่างท่านก็สะสมสิ่งที่เป็นสาระของชีวิต ที่เป็นการใช้ชีวิตที่เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ครับ

ที่สำคัญ แม้ในขณะที่ทำงาน ก็ไม่พ้นจากสภาพธรรมที่เกิดขึ้น คือ จิต เจตสิก รูป ก็สามารถเกิดความดี เกิด กุศลจิตในขณะที่ทำงาน ก็เป็นการปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน เพราะ บุญ กุศล ไม่ได้หมายถึง การฟังธรรมเท่านั้น ขณะที่มีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น ขณะที่คิดนึกถึงธรรมที่ได้ฟังที่ถูกต้อง ขณะนั้นก็เป็นกุศลจิต ที่เป็นการเจริญความดี และ ปัญญาในชีวิตประจำวัน แม้ในขณะที่ประกอบกิจการงาน เพราะฉะนั้น ผู้ที่เข้าใจถูกในหนทางการอบรมปัญญาในพระพุทธศาสนา ก็จะไม่แยกการปฏิบัติธรรมไปจากชีวิตประจำวัน เพราะ ธรรม กำลังมี กำลังปรากฏให้รู้ในขณะนี้ และ ความดี ก็คือ ขณะจิตที่ดีที่มีในชีวิตประจำวัน ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 30 มิ.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

(ภาพ : ดอกบัวบานหน้าอาคาร มศพ. บันทึก : ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๗)

การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม เป็นเรื่องที่เบาสบาย เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกอย่างแท้จริง ในแต่ละวันชีวิตของแต่ละบุคคลย่อมดำเนินไปแตกต่างกัน ยากที่พ้นไปจากอกุศล เพราะสะสมมามาก ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม แต่บางครั้งบางเวลามีโอกาสก็ได้ฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูกขึ้น ตามแต่โอกาสจะอำนวย เป็นชีวิตปกติ เพราะคงไม่มีใครสามารถฟังพระธรรมได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง มีกิจหน้าที่อะไรก็ทำตามนั้น เพราะธรรม คือ สิ่งที่มีจริงๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่ได้แยกไปจากชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นขณะไหนก็ตาม ก็คือธรรม ถ้าสะสมเหตุปัจจัยที่ดีมา ไม่ขาดการฟังพระธรรม สะสสมความเข้าใจถูกเห็นถูกบ่อยๆ เนืองๆ ก็สามารถเข้าใจความเป็นจริงของสภาพธรรมได้ ที่สำคัญที่สุด คือ ความเข้าใจ (ปัญญา) ชีวิตของแต่ละบุคคลที่ดำเนินไปตามการสะสมจริงๆ แต่สำหรับผู้ที่เห็นคุณประโยชน์ของพระธรรม ย่อมให้เวลากับพระธรรม เป็นผู้ใคร่ในการฟังพระธรรมอยู่เสมอ ไม่ละเลยโอกาสสำคัญที่สุดในชีวิต คือ โอกาสที่จะทำให้ตนเองได้เข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น แม้จะเล็กน้อยเพียงใดก็สำคัญ ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 30 มิ.ย. 2557

ถ้ามีปัญญาและเข้าใจธรรม ขณะที่ทำงานก็มีเย็น ร้อน อ่อน แข็ง มีสภาพธรรม ปัญญาเกิดได้ทุกที่ ไม่เว้น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ประสาน
วันที่ 1 ก.ค. 2557

พระธรรมไม่ได้แยกไปจากชีวิตประจำวันเลย พระธรรมคือเดี๋ยวนี้ (ถ้าไม่ลืม)

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pamali
วันที่ 1 ก.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Stamp
วันที่ 2 ก.ค. 2557

ขอบคุณมากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
kullawat
วันที่ 4 ก.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
mild
วันที่ 8 ก.ค. 2557

ฟังแล้วเข้าใจ เป็น อนัตตา ไม่เข้าใจ เป็นอนัตตา ฟังแล้วลืม เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ผู้ที่ได้ฟังธรรม ผู้ที่มีโอกาสได้ฟังธรรม ผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม มีน้อย เหตุเพราะต้องมีกุศลที่ได้สะสมมาดีแล้ว จึงยินดี ผ่องใสที่จะฟัง เห็นประโยชน์ของปัญญา ปัญญานั้นแหละจะนำไปในกิจอันสมควร คำถามนี้จะไม่มีเลยเมื่อเข้าใจแล้วว่าเป็นอนัตตา เพราะมีโมหะความไม่รู้จึงมีเราขณะนี้ เกิดดับสืบต่อ อยู่ในกรงของสังสารวัฏฏ์มานานแสนนาน แล้วต้องอยู่ต่อไป ตราบเมื่อรู้ว่าอะไรสมควร อะไรดี อะไรชั่ว อะไรถูกผิด จึงพอจะมีโอกาสที่จะออกจากทุกข์ได้ด้วยการฟังธรรม ตามกาล (ตามกาล คือเมื่อมีโอกาส มีเวลา ไม่เว้นเลยแม้เล็กน้อยก็คือกุศล)

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เสน่ห์
วันที่ 15 มิ.ย. 2565

กราบสาธุ ฟังพระธรรมจากบ้านธรรมะ บ่อยๆ มีประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างยิ่งค่ะ กราบขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 15 มิ.ย. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ