พระพุทธเจ้าทรงสอนธรรมอย่างไร.

 
pdharma
วันที่  18 ก.ค. 2557
หมายเลข  25122
อ่าน  4,745

ในปัจจุบัน การสอนหรือเผยแพร่ธรรมมีหลายรูปแบบ เช่น การสอนให้รู้จักองค์ประกอบก่อน เช่น ให้รู้จักจิต เจตสิก รูป นิพพาน สอนให้รู้จักจิต ๘๙ ประเภทบ้าง ๑๒๑ ประเภทบ้าง สอนให้รู้จักธรรมแต่ละอย่างบ้าง โดยสอนแบบเดียวกันให้กับผู้ฟังทุกประเภท

อยากเรียนถามว่า ในสมัยพุทธกาลนั้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีแนวทางการสอนธรรมที่พระองค์ทรงค้นพบอย่างไร เช่น เมื่อจะโปรดผู้ใด พระพุทธเจ้าทรงเริ่มอย่างไรเพื่อให้ผู้นั้นเข้าใจในธรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 18 ก.ค. 2557

อนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงธรรมตามที่พระองค์ทรงตรัสรู้ ตามความเป็นจริง ดั่งที่ปรากฏในพระไตรปิฎกนั่นเอง ที่เป็นพระวินัย พระสูตร พระอภิธรรม

- พระวินัยปิฏก ส่วนใหญ่เกี่ยวกับข้อประพฤติปฏิบัติ ที่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิต เพราะอัธยาศัยของคนในโลกนี้ต่างกัน พุทธบริษัทจึงมี ๒ พวก คือ บรรพชิต และ คฤหัสถ์

บรรพชิต เป็นผู้ที่เห็นโทษในกามทั้งหลายและสะสมอุปนิสัยที่จะประพฤติปฏิบัติธรรมตามแบบอย่างของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คืออบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมโดยละอาคารบ้านเรือน เว้นชีวิตความเป็นอยู่ของคฤหัสถ์ที่คลุกคลีด้วยกามโดยประการทั้งปวง

แต่ผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ที่สะสมอุปนิสัยเป็นผู้ครองเรือนมา ก็สามารถอบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมใน เพศคฤหัสถ์ ได้ ดังเช่น ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีและนางวิสาขามิคารมารดา เป็นต้น

แสดงให้เห็นว่าแต่ละคนต่างอัธยาศัยจริงๆ ตามการสะสม

- พระสุตตันตปิฏก เป็นพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ตามอัธยาศัยของสัตว์โลก ที่พระวิหารเชตวัน พระวิหารเวฬุวัน พระวิหารนิโครธาราม เป็นต้น หรือ เมื่อพระองค์เสด็จไปสู่ที่ต่างๆ และสนทนาธรรมกับบุคคลต่างๆ ตามกาลเทศะ ตามควรแก่อุปนิสัยของผู้ฟัง

- พระอภิธรรมปิฏก เป็นส่วนที่กล่าวถึงธรรมซึ่งเป็นความจริงที่ละเอียดลึกซึ้ง โดยสภาวะ ที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน แสดงให้เข้าใจถึงธรรมคือทุกสิ่งทุกอย่างที่มีจริงๆ และการที่จะเข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ได้ถูกต้องนั้น มีหนทางเดียว คือ ศึกษาพระอภิธรรม เพราะทุกขณะของชีวิตไม่พ้นไปจากอภิธรรมเลยไม่พ้นไปจากตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ซึ่งเป็นธรรมที่มีจริงทั้งหมด

ดังนั้น พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่พ้นไปจากพระไตรปิฎก ที่เป็นความจริง เพียงแต่ทรงแสดงหลายพระสูตร หลายเรื่อง ตามอัธยาศัยของสัตว์ที่ไม่เหมือนกัน ครับ

แต่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม ก็ไม่พ้นการแสดงความจริงของสภาพธรรมในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
j.jim
วันที่ 18 ก.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 18 ก.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลกทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โปรดเวไนยสัตว์ ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา สิ่งที่พระองค์ทรงแสดง ก็ไม่พ้นไปจากสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ทรงพร่ำสอนอยู่บ่อยๆ เนืองๆ ก็เพื่อให้ผู้ฟังมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง พร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตาม ในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม จนกระทั่งถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลสได้ในที่สุด

จึงเห็นได้ว่า สิ่งที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงในชีวิต คือ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจตามความเป็นจริง เป็นไปเพื่อการเจริญขึ้นของปัญญา เพื่อขัดเกลากิเลสจนหมดสิ้น ถ้าไม่ได้อาศัยพระธรรม ไม่มีการอบรมเจริญปัญญาแล้ว สังสารวัฏฏ์ก็จะดำเนินไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น ดังนั้น จึงต้องเริ่มสะสม อบรมเจริญปัญญา ด้วยตนเอง เห็นประโยชน์สูงสุดของปัญญา เพิ่มพูนความเข้าใจถูกเห็นถูกขึ้นไปตามลำดับ ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 18 ก.ค. 2557

พระพุทธเจ้าทรงรู้อุปนิสัยของแต่ละคนสะสมมาไม่เหมือนกัน การแสดงธรรมก็ตามการสะสมที่ต่างกัน เพราะบางคนฟังธรรมเพียงหัวข้อก็บรรลุมรรค ผล นิพพาน บางคนก็ถึงแค่สรณะ มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ต้องอบรมบารมีต่อไปอีกมากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nopwong
วันที่ 19 ก.ค. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Dechachot
วันที่ 19 ก.ค. 2557

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 8 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ