พูดล้อเล่นว่าภิกษุนั้นเป็นหมอผี อาบัตสังฆาทิเสสไหม
ผมเป็นพระบวชใหม่แล้วการพูดเล่นว่าพระภิกษุรูปนั้นเป็นหมอผี เป็นอาบัติสังฆาทิเสสไหมครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
นมัสการเรียน พระคุณเจ้า ที่เคารพ
การพูดล้อเล่น ของพระภิกษุ เช่น พูดว่าพระรูปนั้นเป็นหมอผี ย่อมไม่สมควรสำหรับบรรพชิต ทำให้ต้องอาบัติทุพภาษิตได้ ครับ ไม่ถึงกับต้องอาบัติสังฆาทิเสส ครับ
...ตัวอย่างการพูดไม่สำรวมมีโทษสำหรับพระภิกษุ...
[เล่มที่ 4] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ทุติยภาค เล่ม ๒ - หน้าที่ 85
พูดล้อประชดกระทบการงาน
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสันบันมีการงานทราม ด้วยกล่าวกระทบการงานอุกฤษฎ์ คือ พูดกะอุปสัมบันเป็นช่างไม้ ... เป็นคนเทดอกไม้ ว่าท่านทำงานไถนา ว่าท่านทำงานค้าขาย ว่าท่านทำงานเลี้ยงโคดังนี้เป็นต้น
ต้องอาบัติ ทุพภาสิต ทุกๆ คำพูด
พูดล้อยกยอกระทบการงาน
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่น จึงพูดกะอุปสัมบันมีการงานอุกฤษฏ์ ด้วยกล่าวกระทบการงานอุกฤษฏ์ คือ พูดกะอุปสัมบันเป็นชาวนา ... เป็นพ่อค้า ... เป็นคนเลี้ยงโคว่า ท่านทำงานไถนา ว่าท่านทำงานค้าขาย ว่าท่านทำงานเลี้ยงโค ดังนี้ เป็นต้น
ต้องอาบัติ ทุพภาสิต ทุกๆ คำพูด
พูดล้อกดกระทบศิลปะ
อุปสัมบันไม่ปรารถนาจะด่า ไม่ปรารถนาจะสบประมาทอุปสัมบัน ไม่ปรารถนาจะทำให้อัปยศ แต่มีความประสงค์จะล้อเล่นจึงพูดกะอุปสัมบันมีวิชาการช่างทราม ด้วยกล่าวกระทบวิชาการช่างทราม คือ พูดกะอุปสัมบันมีวิชาการช่างจักรสาน ... มีวิชาการช่างหม้อ ... มีวิชาการช่างหูก ... มีวิชาการช่างหนัง ... มีวิชาการช่างกัลบกว่าท่าน มีวิชาการช่างจักรสานว่า ท่านมีวิชาการช่างหม้อ ว่าท่านมีวิชาการช่างหูก ว่าท่านมีวิชาการช่างหนัง ว่าท่านมีวิชาการช่างกัลบก ดังนี้เป็นต้น
ต้องอาบัติ ทุพภาสิต ทุกๆ คำพูด
...ขออนุโมทนา ครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
นมัสการเรียน ความคิดเห็นที่ ๔ ครับ
อาบัติดังกล่าว สามารถปลงได้ ด้วยการแสดงอาบัติต่อหน้าพระภิกษุด้วยกัน แสดงถึงความจริงใจว่า จะสำรวมระวัง ไม่กระทำในสิ่งที่ไม่สมควรอย่างนั้นอีก
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
เพศพระภิกษุเป็นเพศที่จะต้องขัดเกลาเป็นอย่างยิ่ง ให้สมกับที่สละอาคารบ้านเรือน สละทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อเข้าสู่เพศที่สูงยิ่ง ซึ่งจะต้องได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้มีความเข้าใจจริงๆ ในส่วนของพระวินัยบัญญัติ ซึ่งเป็นสิกขาบท ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ก็จะต้องได้ศึกษา เพราะถ้าไม่ศึกษา ก็จะไม่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำเมื่อไม่รู้ ก็จะทำให้ทำผิดพระวินัย ต้องอาบัติได้ และเมื่อต้องอาบัติก็เป็นโทษกับผู้นั้นโดยส่วนเดียว ถ้าไม่กระทำคืนให้ถูกต้องตามพระวินัยก็เป็นเครื่องกั้นการบรรลุธรรม และถ้ามรณภาพลงในขณะนั้น ก็จะเป็นผู้มีอบายภูมิเป็นที่ไปในเบื้องหน้า แม้ว่าการกล่าวว่าพระภิกษุรูปนั้นๆ เป็นหมอผี จะไม่ได้ทำให้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส เป็นอาบัติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ควรที่จะได้พิจารณาว่า ควรหรือไม่ที่จะกล่าวอย่างนั้น ไม่มีประโยชน์เลย แม้แต่น้อย ควรพูดเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์เท่านั้น เมื่อได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว จะไม่มีเหตุที่จะทำให้เกิดความเดือดร้อนใจในภายหลังเลยแม้แต่น้อย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
คำว่าหมอผี เป็นเดรัจฉานวิชา ใช่ไหมครับ แล้วอาบัติสังฆาทิเสสที่ว่า พระกล่าวหาว่าภิกษุรูปนั้นอวดอุตริมนุสสธรรม ต้องมีเจตนา และความพยาบาทใช่ไหมครับ ถ้าเป็นการพูดล้อเล่นไม่เป็นอาบัติสังฆาทิเสส คือผมเข้าใจถูกใช่ไหมครับ
นมัสการเรียน ความคิดเห็นที่ ๘ ครับ
หมอผี เป็นวิชาที่ขัดขวางทางสวรรค์ และนิพพาน เป็นดิรัจฉานวิชา ส่วนอุตตริมนุสสธรรม หมายถึงธรรมที่เหนือมนุษย์ ได้แก่ ฌาน มรรค ผล นิพพาน ดังนั้น การกล่าวว่า ภิกษุรูปอื่นเป็นหมอผีไม่ได้เกี่ยวกับการกล่าวหาว่าท่านนั้นได้อวดอุตตริมนุสสธรรม เพราะหมอผีกับอุตตริมนุสสธรรมไม่ใช่อย่างเดียวกัน แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจึงไม่ได้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ข้อว่า โจทก์ภิกษุอื่นว่าเป็นอาบัติปาราชิก ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ...