เหตุการณ์นี้เจ้าของหวงไหมครับ
ขอนอบน้อมครับ
เหตุการณ์มีอยู่ว่า ผมได้ไปหยิบทิชชู่พระรูปอื่นมาใช้ 1แผ่น หลังจากนั้น ได้สอบถามว่าทิชชู่ อันนี้ใช้ได้ไหมครับ จึงตอบมาว่า หยิบใช้ได้ แบบนี้ เป็นการลักโมยไหมครับ ถึงขนาดปาราชิกไหม เพราะ ได้ทราบมาว่า 5มาสก เท่ากับ 1บาท โดย ไม่เปลี่ยนตามยุคสมัย
จากเหตุการณ์ที่กล่าวมา ผมไม่สบายใจ เพราะ นำมาใช้โดยไม่ได้ขอก่อน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ
ทิชชู่ เจ้าของไม่ได้หวงแหน จึงไม่ต้องอาบัติปาราชิกแต่อย่างใด ครับ และ พระอีกรูปก็บอกว่าใช้ได้ และที่สำคัญ ตัวผู้ขอ ก็ไม่ได้มีเจตนาลักขโมยเลย แต่เจตนาถาม เพื่อขออนุญาต จึงต่างจากเจตนาลักขโมยอย่างสิ้นเชิง จึงไม่ต้องอาบัติปาราชิก เพราะไม่มีเจตนาลักขโมย และ เจ้าของก็ไม่ได้หวงแหน ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพครับ
ไม่มีเจตนาขโมย ไม่เป็นอาบัติแต่ประการใด ประเด็นที่จะได้สนทนาเพิ่มเติม คือ การถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ มีมูลค่า ๕ มาสก ต้องอาบัติปาราชิก คือ ขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที แสดงว่าต้องมีมูลค่าสูง คือ ยุคนั้น ทางบ้านเมืองกำหนดโทษของผู้ที่ขโมยของผู้อื่น สิ่งของนั้นจะต้องมีมูลค่า ๕ มาสก ขึ้นไป สำหรับทางธรรมก็เช่นกัน จะต้องโทษหนัก วัตถุที่ขโมยต้องมีมูลค่า ๕ มาสก จึงเป็นวัตถุแห่งปาราชิก
สำหรับการเทียบราคาในปัจจุบัน ถือเป็นมาตรฐานทุกยุค คือ น้ำหนักทองคำกับข้าวเปลือก ๒๐ เมล็ด คือ เอาข้าวเปลือก ๒๐ เมล็ดมาชั่ง ได้น้ำหนักเท่าไหร่ น้ำหนักทองคำเท่านั้นตีเป็นเงินออกมา ก็เท่ากับ ๕ มาสก ดังนั้น ในยุคนี้ ๕ มาสก มีมูลค่าหลายร้อยบาททีเดียว ไม่ใช่ ๑ บาทไทย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...