สังคมออนไลน์ สังคมก้มหน้า กับ กุศลออนไลน์
โลกยุคนี้หนีไม่พ้นสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนๆ บนรถเมล์ รถลอยฟ้า รถไฟใต้ดิน บนเครื่องบิน และที่อื่นๆ แต่ละคนเอาแต่ก้มหน้า อยู่หน้าจอ จนเรียกกันติดปากว่าเป็น สังคมก้มหน้า ไม่มีใครสนใจใคร เอาแต่ก้มหน้าอยู่ที่หน้าจอ ที่จริงสังคมก้มหน้า ทำให้คนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เพื่อนบางคนไม่พบกันมานาน ก็มีโอกาสได้พบกันออนไลน์ ในไลน์บ้าง หรือในสังคมออนไลน์รูปแบบอื่นๆ
สังคมออนไลน์ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้ทำกุศลออนไลน์ เกื้อกูลกันทางธรรม เคยได้ยินว่า การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง เป็นพระพุทธพจน์หรือไม่ครับ หากผิดพลาดก็ขอท่านวิทยากรกรุณาช่วยแก้ไข เพื่อความถูกต้องครับ
วิธีการให้ธรรมะทางไลน์ ผู้รับสามารถเปิดอ่านได้ทันที จากลิงค์ที่ท่านส่งให้ทางไลน์ แต่ท่านควรเขียนหัวข้อธรรมะแนบไปกับลิงค์นะครับ ผู้รับจะได้ทราบหัวข้อธรรมก่อนที่จะเปิดอ่าน เช่น
ทุกวันนี้ ท่านเป็นคนดีของแม่หรือยัง
//www.dhammahome.com/webboard/topic/25279
ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของทุกท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สังคมก้มหน้า แท้จริงก็ไม่พ้นจากสภาพธรรมที่มีจริงทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ คือ เป็นสภาพธรรมที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจในขณะนี้ จะกล่าวสมมติอย่างไรก็ตามว่าสังคมก้มหน้าอันดูจากการนึกคิดว่ากำลังก้มหน้า แต่ขณะที่ก้มก็ต้องมีธรรม มีสิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นต้น และคิดนึกเป็นเรื่องราวจากสิ่งที่ได้เห็น ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าสิ่งที่ได้เห็น สิ่งที่ได้ยิน สิ่งที่ได้ทราบอันใด ทำให้เกิดกุศล เกิดปัญญา เรากล่าวว่าควรเห็น ควรได้ยิน เพราะฉะนั้น โดยมาก สังคมอาศัยเครื่องมือสื่อสารเสพคุ้นในสิ่งที่ไม่มีสาระ ไม่ทำให้เกิดปัญญา ไม่ทำให้เกิดกุศล แต่ผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรม ก็ใช้ชีวิตเป็นปกติของปุถุชน ที่เป็นเพศคฤหัสถ์ ก็ใช้เครื่องมือสื่อสารเช่นกัน และก็เกิดอกุศลเป็นปกติ แต่เพราะได้อบรมความเข้าใจ เห็นคุณค่าของพระธรรม ก็อาศัยเครื่องมือสื่อสารในทางที่ถูกต้องด้วยก็ได้เช่น การส่งพระธรรม ส่งวาจาสัจจะ คำจริงให้ผู้อื่นได้อ่าน อันเป็นการให้ธรรมทาน ให้ความเข้าใจกับผู้ที่ได้อ่าน ได้รับ ไม่มากก็น้อย ตามการสะสมมาของแต่ละคน เพราะฉะนั้น การเงยหน้าย่อมไม่มีประโยชน์เลย หากเงยหน้าแล้ว เห็นแล้ว จิตเป็นอกุศล โดยนัยเดียวกันก้มหน้าจะไม่เป็นประโยชน์เลย หากก้มแล้วเห็นจิตเป็นอกุศล แต่ถ้าก้มหน้าแล้ว ได้ความเข้าใจจากการอ่าน ฟัง ที่สมมติว่า เป็นมือถือ เป็นต้น ได้เกิดกุศลจากการอ่านพระธรรม การก้มหน้านั้นก็ประเสริฐ ประเสริฐเพราะเกิดกุศล เกิดความดี เกิดปัญญาในขณะนั้น ครับ ขออนุโมทนา
สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
สพฺพํ รสํ ธมฺมรโส ชินาติ
สพฺพํ รตึ ธมฺมรตี ชินาติ
ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชนาติ.
" ธรรมทาน ย่อมชนะทานทั้งปวง,
รสแห่งธรรม ย่อมชนะรสทั้งปวง,
ความยินดีในธรรมย่อมชนะความยินดีทั้งปวง,
ความสิ้นไปแห่งตัณหาย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง."
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปกติอกุศลก็มากอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน การใช้เครื่องมือสื่อสาร ก็มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งการสะสมอกุศลและกุศลตามเหตุปัจจัยจริงๆ แต่ถ้าใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ เกี่ยวกับเรื่องธรรม ก็ย่อมเป็นการดี นอกจากจะเป็นประโยชน์กับตนเองแล้ว ยังเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่นได้อีกด้วย สำหรับการเผยแพร่พระธรรม ตามกำลังปัญญาของตนเองนั้น ตรงตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ได้นั้น ก็ต้องมาจากการศึกษาด้วยความเคารพ เห็นประโยชน์ ตั้งใจฟัง ตั้งใจศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ ไม่ประมาทพระธรรมว่าง่าย ศึกษาเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกจริงๆ เพื่อน้อมประพฤติปฏิบัติขัดเกลาละคลายกิเลสจนกว่ากิเลสทั้งปวงจะถูกดับจนหมดสิ้น
เมื่อเข้าใจแล้วก็มีการเผยแพร่ประกาศพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามกำลังปัญญาของตนเอง จะด้วยการกล่าวธรรม การแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับธรรม การสนทนาถาม - ตอบ เป็นต้น ก็ได้ทั้งนั้น ทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น ไม่ใช่เพื่อลาภ สักการะ สรรเสริญ แต่เพื่อประโยชน์สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้รับฟังเป็นสำคัญ ได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ได้ฟัง อันเป็นความจริง เป็นสิ่งที่มีจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง
แต่ถ้ากล่าวธรรม แสดงธรรม ด้วยการตั้งจิตไว้ไม่ชอบ ซึ่งก็คือ ตั้งจิตไว้ผิด (เป็นอกุศล) มุ่งลาภ สักการะ สรรเสริญ ย่อมไม่บริสุทธิ์เลย เป็นการเพิ่มอกุศลให้กับตนเองมากยิ่งขึ้น ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
