การให้กำลังใจผู้ป่วยหนัก

 
chatchai.k
วันที่  23 ส.ค. 2557
หมายเลข  25379
อ่าน  2,739

หากท่านวิทยากรไปเยี่ยมผู้ป่วยหนัก ท่านวิทยากรจะกล่าวอย่างไรเพื่อให้กำลังใจครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 23 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมไม่สาธารณะ กับ สัตว์โลก การให้ธรรม ควรให้กับบุคคลที่สนใจ เพราะฉะนั้น การให้ธรรมทาน ก็ควรที่จะแนะนำในกาลที่เหมาะสม ขณะที่ป่วยหนัก ก็ยากที่จะเข้าใจ เพราะฉะนั้น ทางที่ดีก็ควรเปิดธรรมให้ผู้ป่วยฟังเบาๆ น่าจะเป็นประโยชน์กว่า เพราะอาจจะมีช่วงเวลาที่เขาได้ยินได้ฟัง และเกิดเข้าใจเพียงเล็กน้อย ก็เป็นประโยชน์ ครับ

การเจ็บปวย จึงเป็นเครื่องเตือน หรือ เรียกวา เป็นเทวทูต ใหเห็นวา เป็นเพราะอกุศลกรรมที่ไดทํา จึงพิจารณาวา ไมควรกระทําอกุศล อันเป็นธรรมที่มีโทษ นํามาซึ่งสิ่งที่ไมดีทั้งปวง มีความเจ็บปวย เป็นตน จึงคอยๆ เห็นโทษและลดละที่จะทําอกุศล และเห็นประโยชนของการเจริญกุศล เพื่อจะสะสมไปในภายภาคหนา อันนําความสุขมาให และที่สําคัญ ปญญาเทานั้นที่ประเสริฐสุด จึงควรแบงเวลาในการฟงพระธรรมในบางโอกาสครับ ที่สําคัญที่สุดโชคดีแลวที่ไดเกิดเป็นมนุษยพบพระพุทธศาสนา มีโอกาสฟงพระธรรมก็เป็นขณะที่ประเสริฐแลว และขณะนี้ก็ยังมีชีวิตอยูชีวิตที่เหลือ ไมวาจะนอยหรือมากประการใด ก็ควรทําใหดีที่สุด คือ สะสมความดี เทาที่ทําได โดยเฉพาะ ฟงพระธรรม ครับ ก็มี ปญญา ความเขาใจทีเกิดขึ้นของคุณจะเป็นกําลังใจที่ดีของคุณเอง และมารดา ครับ ขออนุโมทนาที่รวมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
peem
วันที่ 23 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 23 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กำลังใจจริงๆ คือ ความเข้าใจถูก เห็นถูก ดังนั้น กล่าวคำจริง เกื้อกูลเท่าที่จะเป็นไปได้

เมื่อมีรูปร่างกายแล้ว ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงความเจ็บไข้ได้ป่วยได้ เนื่องจากว่าร่างกายเป็นรังของโรค เป็นบ่อเกิดแห่งโรค การเจ็บไข้ได้ป่วย ก็เป็นผลของกรรม ซึ่งไม่มีผู้ใดจะบังคับได้เลย วันนี้แข็งแรงดี พรุ่งนี้อาจจะเจ็บป่วยก็ได้ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญญาที่ได้อบรมมาแล้ว ถึงแม้ในขณะที่วิบากซึ่งเป็นผลของกรรมคือการเจ็บป่วยเกิดขึ้น เป็นเครื่องเตือนได้ว่า เป็นเวลาที่ไม่ควรประมาท ไม่ประมาทในการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาและไม่ประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ เป็นธรรมที่จะเป็นที่พึ่ง ต่อไปในภายหน้า ความกลัว ความทุกข์ใจ ก็เป็นธรรมที่มีจริงที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีตัวตนที่จะไปห้าม หรือไปบังคับ เมื่อได้เหตุได้ปัจจัย ก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ไม่ใช่เราเลย เป็นแต่เพียงธรรม และที่สำคัญ เป็นเรื่องของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่อย่างแท้จริง เพราะผู้ที่หมดทุกข์ใจ หมดโรคทางใจ คือกิเลสแล้ว มีเพียงบุคคลเดียวเท่านั้น คือ พระอรหันต์ ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 23 ส.ค. 2557

ต้องดูว่าเขาฟังธรรมะไหวไหม เขามีศรัทธาที่จะฟังไหม เพราะบางคนเจ็บหนัก ฟังธรรม ก็ช่วยให้เขาลืมความเจ็บได้ชั่วขณะ หรือพูดธรรมะให้เขาฟัง เช่น พระพุทธเจ้าเป็นใหญ่ในโลก เป็นศาสดาของเทวดา และ มนุษย์ทั้งหลาย พระองค์ก็ยังเจ็บป่วยไม่สบายเลย ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wirat.k
วันที่ 11 ก.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
tanrat
วันที่ 11 ก.ย. 2557

การสะสมการฟังพระธรรม น้อมจิตฟังแล้ว พิจารณาโดยแยบคาย แล้วประพฤติปฏิบัติตาม นับว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐยิ่ง แต่ถ้าระลึกสติได้หรือสติเกิดขณะนั้น ก็จะเข้าใจได้ว่าเป็นธรรมะ ไม่ใช่มีตัวตนไปกระทำให้เกิดขึ้น

เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ