พระนามของพระพุทธเจ้า

 
วิริยะ
วันที่  25 ส.ค. 2557
หมายเลข  25389
อ่าน  18,544

พระสมณโคดมเป็นพระนามของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า อยากทราบว่าพระศรีศากยมุนีเป็นพระนามของพระองค์ด้วยเช่นกันหรือไม่อย่างไรคะ

ขอบพระคุณอย่างสูง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 25 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นี้ คือ พระสมณโคดม ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลาสี่อสงไขยแสนกัปป์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานอย่างยิ่งเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งจะได้เกื้อกูลสัตว์โลกให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลก จึงทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โปรดเวไนยสัตว์ ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษาทรงพร่ำสอนอยู่บ่อยๆ เนืองๆ ก็เพื่อให้ผู้ฟังมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง จนกระทั่งสามารถดับกิเลสทั้งปวงได้ในที่สุด มีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง มากมาย นับไม่ถ้วน ครับ ซึ่ง พระนามของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ มีมากมาย แม้พระศากยมุนี หรือ พระศรีศากยมุนี ก็เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ เพราะพระองค์เกิดในตระกูลศากยะและเป็นมุนี ผู้สงบจากกิเลสประกอบด้วยคุณธรรมที่ถึงความเป็นมุนี จึงมีพระนามว่าพระศรีศากยมุนีได้ ครับ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ ๒๔๗

บทว่า สกฺยมุนี ได้แก่ ชื่อว่า ศากยะ เพราะทรงเป็นโอรสของสกุลศากยะ ชื่อว่า มุนี เพราะประกอบด้วย โมเนยยธรรมมุนีคือศากยะ ชื่อว่า พระศากยมุนี.

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ ๒๖๕

ข้อว่า เพื่อความหมดจดของสัตว์ทั้งหลาย หมายความว่าเพื่อประโยชน์แก่ความหมดจดของสัตว์ทั้งหลายผู้มีจิตเศร้าหมอง เพราะมลทินทั้งหลายมีราคะ เป็นต้น และเพราะอุปกิเลสทั้งหลาย มีอภิชฌาวิสมโลภะ เป็นต้น เป็นความจริง สัตว์เหล่านี้คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นอเนกตั้งต้นแต่พระพุทธเจ้าพระนามว่า ตัณหังกร เมธังกร สรณังกร ทีปังกร ซึ่งปรินิพพานในกัปเดียวเท่านั้น เบื้องต้นแต่ ๔ อสงไขยแสนกัปป์ แต่กัปป์นี้ลงมาจนถึงพระพุทธเจ้าพระนามว่า ศากยมุนี เป็นที่สุด

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 25 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้สภาพธรรมที่ควรรู้ ตามความเป็นจริงได้จนหมดสิ้น ไม่มีเหลือ จึงได้ทรงมีพระนามว่า พระศากยมุนี

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงด้วยพระองค์เอง พระบารมีทั้งหมดที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมา ก็เพื่อที่จะอุปการะเกื้อกูลแก่สัตว์โลก พระองค์จึงมีวาจาสัจจะ มีคำจริง ทรงแสดงความจริง เพื่อให้สัตว์โลกผู้ที่ตั้งใจฟัง เข้าใจความจริง

พระธรรมแต่ละคำ มีค่า เพราะทำให้ผู้ได้ฟังรู้ความจริง จากที่เคยถูกปกปิดหุ้มห่อด้วยความไม่รู้มานานแสนนาน ความเข้าใจก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับด้วยปัญญา อันเกิดจากการได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงควรค่าแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่ง นี้แหละ คือสิ่งที่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วิริยะ
วันที่ 25 ส.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
mild
วันที่ 25 ส.ค. 2557

ทุกพระนามของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ล้วนแสดงถึงการสรรเสริญ ซึ่งได้มาจากการบำเพ็ญพระบารมีอย่างที่สุดของพระองค์ เป็นพระคุณนาม ไม่มีผู้ใดในสากลจักรวาลจักเสมอด้วยพระองค์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nopwong
วันที่ 25 ส.ค. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 26 ส.ค. 2557

พระคุณของพระพุทธเจ้าที่สรรเสริญ ท่านเปรียบเหมือนน้ำที่ลอดจากรูเข็มในมหาสมุทรเพียงเล็กน้อย พระคุณที่ไม่ได้สรรเสริญมีมากกว่านั้น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Dechachot
วันที่ 27 ส.ค. 2557

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ต.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ