เวรสูตร ... วันเสาร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๗
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺสพุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิสงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ•••..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••
... สนทนาธรรมที่ ...
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)
พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ
วันเสาร์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ
เวรสูตร
(ว่าด้วยภัยเวร ๕ ประการ)
จาก [เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ หน้า ๓๗๐
...นำสนทนาโดย...
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร
[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ หน้า ๓๗๐
๔. เวรสูตร
(ว่าด้วยภัยเวร ๕ ประการ)
[๑๗๔] ครั้งนั้น ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาค
เจ้าได้ตรัสว่า ดูกร คฤหบดี อุบาสกไม่ละภัยเวร ๕ ประการ เราเรียกว่าผู้ทุศีลด้วย
ย่อมเข้าถึงนรกด้วย ภัยเวร ๕ ประการเป็นไฉน? คือ การฆ่าสัตว์ การ
ลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม การพูดเท็จ การดื่มน้ำเมาคือสุราเมรัยอันเป็น
ที่ตั้งแห่งความประมาท ดูกร คฤหบดี อุบาสกผู้ไม่ละภัยเวร ๕ ประการนี้แล
เราเรียกว่า ผู้ทุศีลด้วย ย่อมเข้าถึงนรกด้วย
ดูกร คฤหบดี อุบาสกผู้ละภัยเวร ๕ ประการ เราเรียกว่าผู้มีศีลด้วยย่อม
เข้าถึงสุคติด้วย ภัยเวร ๕ ประการเป็นไฉน? คือ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์
การประพฤติผิดในกาม การพูดเท็จ การดื่มน้ำเมาคือสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความ
ประมาท ดูกร คฤหบดีอุบาสกผู้ละภัยเวร ๕ ประการนี้แล เราเรียกว่า ผู้มีศีลด้วย
ย่อมเข้าถึงสุคติด้วย.
ดูกร คฤหบดี อุบาสกผู้ฆ่าสัตว์ ย่อมประสบภัยเวรใด ทั้งในปัจจุบันทั้ง
ในสัมปรายภพ ย่อมเสวยทุกขโทมนัสใดแม้ทางจิต เพราะเหตุแห่งการ
ฆ่าสัตว์ อุบาสกผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ย่อมไม่ประสบภัยเวรนั้น ทั้ง
ในปัจจุบันและในสัมปรายภพ ย่อมไม่เสวยทุกขโทมนัสนั้นแม้ทางจิต ภัยเวรนั้น
ของอุบาสกผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ย่อมสงบระงับด้วยประการฉะนี้ อุบาสก
ผู้ลักทรัพย์ . . . ประพฤติผิดในกาม. . . พูดคำเท็จ . . . ดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ย่อมประสบภัยเวรใด ทั้งในปัจจุบันและสัมปรายภพ
ย่อมเสวยทุกขโทมนัสใดแม้ทางจิต เพราะเหตุแห่งการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอัน
เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท อุบาสกผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอัน
เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ย่อมไม่ประสบภัยเวรนั้นทั้งในปัจจุบันและใน
สัมปรายภพ ย่อมไม่เสวยทุกขโทมนัสแม้ทางจิต ภัยเวรนั้น ของอุบาสก
ผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ย่อมสงบระงับด้วยประการฉะนี้.
นรชนใดย่อมฆ่าสัตว์ ถือเอาสิ่งของ
ที่เจ้าของมิได้ให้ในโลก คบชู้ภรรยาของ
ผู้อื่น กล่าวคำเท็จ และประกอบการดื่ม
สุราเมรัยเนืองๆ นรชนนั้นไม่ละเวร ๕
ประการแล้ว เราเรียกว่า เป็นผู้ทุศีล
มีปัญญาทราม ตายไปแล้วย่อมเข้าถึงนรก.
นรชนใด ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ถือเอาสิ่งของ
ที่เจ้าของมิได้ให้ในโลก ไม่คบชู้ภรรยา
ของผู้อื่น ไม่กล่าวคำเท็จและไม่ประกอบ
การดื่มสุราและเมรัย นรชนนั้นละเวร ๕
ประการแล้ว เราเรียกว่าเป็นผู้มีศีล
มีปัญญา เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติ.
จบเวรสูตรที่ ๔
อรรถกถาเวรสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในเวรสูตรที่ ๔ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ภยานิ ได้แก่ ภัยอันทำให้จิตสะดุ้งแล้ว. บทว่า เวรานิ
ได้แก่ อกุศลเวรบ้าง บุคคลเวรบ้าง. บทว่า เจตสิกํ ได้แก่ ทุกข์อาศัย
จิต. บทว่า ทุกฺขํ ได้แก่ทุกข์มีกายประสาทเป็นวัตถุที่ตั้ง. บทว่า
โทมนสฺสํ ได้แก่ โทมนัสเวทนา. ในสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสการละ
ด้วยวิรัติ เจตนางดเว้น.
จบอรรถกถาเวรสูตรที่ ๔
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความโดยสรุป
เวรสูตร (ว่าด้วยภัยเวร ๕ ประการ)
พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสกับท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีว่า อุบาสกผู้ไม่ละภัยเวร ๕
ประการ คือ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ ดื่มสุราเมรัยอันเป็น
ที่ตั้งแห่งความประมาท ย่อมเป็นผู้ทุศีล เมื่อตายไปย่อมย่อมถึงนรก
ส่วนอุบาสกผู้ละภัยเวร ๕ ประการได้แล้ว ย่อมเป็นผู้มีศีล เมื่อตายไปย่อมเข้า
ถึงสุคติ
ผู้ที่ละภัยเวร ๕ ไม่ได้ ประสบภัยเวรในปัจจุบันและในสัมปรายภพ เป็นผู้มีความ
ทุกข์ โทมนัส เพราะเหตุแห่งภัยเวรใด อุบาสกผู้เว้นจากภัยเวร ๕ ได้แล้ว
ย่อมไม่ประสบภัยเวร นั้น ในปัจจุบันและในสัมปรายภพ ไม่เป็นผู้มีความทุกข์โทมนัส
ภัยเวร ย่อมเป็นอันสงบระงับไป
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
ภัยที่น่ากลัว คือ ความชั่วที่เราทำ
ภัยเวรที่แท้จริงคืออะไร [ภัยภายใน...ตอนที่ ๑]
ภัยเวรที่แท้จริงคืออะไร [เห็นเป็นภัยหรือเปล่า...ตอนที่ ๒]
ภัยเวรที่แท้จริงคืออะไร [ผู้ไม่เห็นภัยจึงก่อเวร...ตอนที่ ๓ จบ]
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...