พูดเกี้ยวหญิง

 
พระบวชใหม่
วันที่  11 ก.ย. 2557
หมายเลข  25509
อ่าน  7,023

ขอสอบถามหน่อยครับคือหนังสือวินัยมุขเล่ม 1 สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 3 มีข้างล่างเขียน

ไว้ว่า

การพูดเกี้ยวหญิงของอินเดียในสมัยนั้นอาจจะเป็นอย่างนี้ลักษณะการใช้ถ้อยคำที่มีลักษณะเป็นการเกี้ยวหญิงย่อมนับเข้าในข้อนี้ หมายความว่าอย่างไรครับ

ถ้าอย่างงั้นผมบอกว่าคิดถึงบ้างรักบ้าง จะต้องอาบัติป่าวครับคือเคยอ่านกระทู้หนึ่งบอกว่าไม่อาบัติ แต่อ่านเห็นตัวนี้เลยงง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 11 ก.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับการที่จะต้องอาบัติสังฆาทิเสส สิกขาบทที่ ๓ ที่ว่าด้วยการพูดเกี้ยวหญิงนั้น มุ่งหมายถึงการพูดพาดพิงถึงวัจจมรรค (ทวารหนัก) ปัสสาวมรรค (ทวารเบา) พาดพิงเมถุนธรรม (การกระทำของบุคคลคู่ระหว่างชายกับหญิง) ถ้ามีการกล่าวคำพูดอย่างนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส เป็นการกระทำไม่เหมาะสม ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชนทั้งหลาย ส่วนการพูดอย่างคำถามที่ได้ยกขึ้นมาถามนั้น ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส เพราะไม่ได้พูดพาดพิงวัจจมรรค ปัสสาวมรรคและเมถุนธรรม แต่ก็เป็นวาจาที่ไม่เหมาะสม สำหรับเพศบรรพชิต ซึ่งจะต้องมีการสำรวมระวังอย่างยิ่งทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิดสิกขาบทข้อใด ก็มีโทษสำหรับผู้ล่วงละเมิดทั้งนั้น การได้ศึกษาพระวินัย ในแต่ละสิกขาบทให้เข้าใจ ย่อมเกื้อกูลได้มากทีเดียว ที่จะทำให้ได้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ผิด อะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อที่จะได้ละเว้นไม่กระทำในสิ่งที่ผิด และเพื่อที่จะได้น้อมประพฤติเฉพาะในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น ครับ

สำหรับต้นบัญญัติสังฆาทิเสส สิกขาบทที่ ๓

ขอเชิญคลิกอ่านโดยตรงจากพระวินัยปิฎก ครับ

พูดเกี้ยวหญิง อาบัติสังฆาทิเสส [มหาวิภังค์]

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 11 ก.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
พระบวชใหม่
วันที่ 12 ก.ย. 2557

ตอบผมหน่อยสิครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kullawat
วันที่ 13 ก.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ