สงสัยเรื่องการเชื่อเกี่ยวกับเรื่องฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ การขอพร

 
Stamp
วันที่  11 ก.ย. 2557
หมายเลข  25510
อ่าน  3,693

พี่ที่หนูรู้จักเขาทำมาหากิน และทุกๆ เช้าเขาก็จะไหว้และขอพรให้ขายได้ ล่าสุดเขาจะขายที่ เขาเลยจัดเตรียมอาหารมาเยอะแยะ มาไหว้ขอให้ขายที่ได้ แล้วเขาก็เรียกหนูให้ไปขอพรให้รวยๆ แต่หนูไม่ไปเพราะไม่เชื่อ เขาเลยว่าหนูว่า ลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะอย่างนี้ไงถึงไม่เจริญสักที ตอนที่พ่อหนูพาไปวัด พ่อหนูบอกว่าให้ไปขอพรเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น หายจากโรคภัยไข้เจ็บ หนูก็โดนพ่อด่าเพราะไม่เชื่อ

เลยอยากจะถามว่า การขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทาง หรือแม้แต่พระพุทธรูปก็ตาม จะช่วยเราได้จริงๆ หรือค่ะ เพราะหนูไม่เชื่อ เลยไม่เจริญจริงๆ หรือคะ แล้วการที่เราไปวัด ทำบุญทำทาน ถ้าเราขอพรจะช่วยอะไรได้ไหมค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 11 ก.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ในพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่สอนที่เป็นไปในเรื่องการขัดเกลากิเลส คือ ความไม่ติดข้อง ความโกรธ และการละคลายกิเลสประการต่างๆ ด้วยกุศลธรรม และด้วยปัญญาเป็นสำคัญ ดังนั้น สิ่งใดที่เป็นไปเพื่อการติดข้อง เพื่อได้ ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าและไม่ใช่พระพุทธศาสนา ครับ

ในความเป็นจริงแล้ว พระพุทธเจ้าทรงแสดงในเรื่องกรรม และผลของกรรม การทำกรรมดีย่อมได้ผลดี การทำกรรมชั่วย่อมได้ผลชั่ว แต่กรรม การให้ผลของกรรม ย่อมมีกาลเวลาในการให้ผล ไม่ใช่ว่าทำกรรมนี้แล้ว กรรมนั้นจะให้ผลทันที ไม่ได้ครับ นี่ประการหนึ่ง

อีกประการหนึ่ง กรรมดี คือ ขณะที่กุศลจิตเกิดขึ้นชื่อว่ากรรมดี ดังนั้น ขณะที่ไหว้พระขณะนั้น ไหว้ด้วยจิตที่ต้องการขอ ขณะนั้นไม่ได้น้อมระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า ขณะนั้น ไม่ใช่บุญ เพราะกำลังต้องการได้ผลตอบแทน เมื่อเป็นอกุศลจะให้ผล คือ ความสุข ความสำเร็จไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น เราจะต้องทราบจุดประสงค์ที่ถูกต้อง ในการมีพระพุทธรูปว่า การมีพระพุทธรูป ก็เพื่อน้อมระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า เพื่อประโยชน์ของตนเอง คือ กุศลจิต และเป็นเครื่องเตือนให้ทำความดี แต่ไม่ใช่มีไว้เพื่อขอ เพื่อเพิ่มอกุศลจิต คือ การได้สิ่งที่ปรารถนา เพราะการได้สิ่งที่ปรารถนา ไม่ได้อยู่ที่การขอ แต่อยู่ที่เหตุในอดีต คือ ทำกุศลกรรม หรือ กุศลกรรมนั้น จะให้ผลหรือไม่ เป็นสำคัญ เพราะแม้จะขอ หรือ ไม่ขอ หากกรรมดีให้ผล ก็ย่อมสำเร็จตามปรารถนา และจะขอหรือไม่ขอ หากกรรมชั่วให้ผล ก็ย่อมไม่สำเร็จตามที่ปรารถนา ครับ เพราฉะนั้น ก็ต้องมั่นคงในเรื่องของกรรม และจุดประสงค์ในการไหว้ และจุดประสงค์ในการมีพระพุทธรูปเพื่ออะไร ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ครับ

อีกประเด็นที่ควรจะเข้าใจ คือ ประเด็นเรื่องของ พร, พร ในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่การขอในสิ่งที่ตนอยากจะได้ แต่ พร คือ การนำมาซึ่งสิ่งที่ดี พร ในพระพุทธศาสนา คือการทำความดี ทำกุศลกรรม ขณะนั้นเป็นพรกับตัวเองแล้ว เพราะย่อมจะนำสิ่งที่ดีมาให้ในอนาคต เมื่อกรรมนั้นให้ผล เพราะฉะนั้น แทนที่จะขอพรจากใคร หรือ จากพระพุทธรูป ก็ทำความดี ทำกุศลก็เป็นพร และก็ทำหน้าที่ของตนในปัจจุบันให้ดีที่สุด คือ ตั้งใจเรียน อ่านหนังสือ ตามกำลังของตนเท่าที่จะทำได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว ส่วนการทุกข์ใจในเรื่องการสอบก็ย่อมมีเป็นธรรมดาสำหรับผู้ที่มีกิเลส แต่เมื่อมีกิเลสแล้ว ก็ควรพิจารณาให้ถูกว่า เหตุคืออะไร ที่ทำให้เกิดความทุกข์ใจ ก็ไม่พ้นจากิเลสของตนเอง และการจะสอบได้ ได้สิ่งที่ปรารถนา ก็ขึ้นอยู่กับกรรมเป็นสำคัญ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการขอพรจากพระพุทธรูป จากใคร เมื่อเข้าใจดังนี้เบาด้วยความเข้าใจ และสิ่งที่ได้สำคัญที่สุด คือ ความคิดถูกตามสัจจะความจริงที่จะติดตัวไปในภพหน้า ให้คิดถูกยิ่งขึ้น ครับ

ซึ่ง การให้พร การขอพร พระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสไว้ว่า ตถาคตเลิกให้พรแล้ว ดังนั้น ที่เราไปขอพรที่พระพุทธรูป ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไร เพราะพระองค์ทรงแสดงว่า พร คือ การทำความดีที่เป็นกุศลธรรมในขณะนั้น ครับ ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 11 ก.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมี เพื่อที่จะได้ทรงตรัสรู้ธรรมตามความเป็นจริง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้ความจริงแล้ว ก็ทรงแสดงความจริงให้คนอื่นได้ฟัง และที่สำคัญ ธรรมไม่ได้สาธารณะกับทุกคน ผู้ที่ได้สะสมบุญมาตั้งแต่ชาติปางก่อน มีศรัทธา เห็นประโยชน์ของพระธรรม เคยได้ยินได้ฟังพระธรรมมาแล้ว จึงมีโอกาสได้ฟังได้ศึกษาได้อบรมเจริญปัญญาต่อไป ผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม มีเป็นส่วนน้อย เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ที่เข้าใจธรรมตามความเป็นจริงจึงมีน้อย ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้ศึกษา เมื่อไม่ได้ศึกษาก็ไม่เข้าใจจึงมีความคิดเห็นผิดๆ มีลัทธิความเห็นต่างๆ หลากหลายมากมาย ก็เป็นเพราะไม่ได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง นั่นเอง

ดังนั้นสำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกจริงๆ ก็ขอให้ตั้งใจฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก และประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อไป มั่นคงในความเป็นจริง เราไม่สามารถจะรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม้ในขณะต่อไป กรรมใด จะให้ผลในขณะใด ก็ไม่สามารถจะรู้ได้ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 11 ก.ย. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
tanrat
วันที่ 12 ก.ย. 2557

จิตที่สะสมความเห็นผิดมีมาก จิตที่ท่องไปสู่อบายก็มากยิ่ง นรกจึงแออัดไปด้วยจิตที่ประพฤติผิดมาจากการเห็นผิด หรือไม่รู้เลย ไม่มีสิ่งใดจะมาดลบัลดาลให้แก่เราได้ เพราะไม่มีเรา มีแต่จิต เจตสิก รูป และนิพพาน พรคือการกระทำความดี ถ้าอยากได้ก็กระทำเอง กราบอนุโมทนาค่ะท่านอาจารย์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
kullawat
วันที่ 13 ก.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Stamp
วันที่ 13 ก.ย. 2557

ขอบคุณมากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Nataya
วันที่ 15 พ.ย. 2561

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Zei
วันที่ 20 ก.พ. 2566

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ