สอบถามเกี่ยวกับการส่งผู้ตายสู่สุคติภูมิครับ

 
สืบต่อพุทธ
วันที่  14 ก.ย. 2557
หมายเลข  25530
อ่าน  4,626

เรียนสอบถามท่านอาจารย์ เกี่ยวกับการส่งผู้ตายครับ ถ้าผู้ตายไม่ชอบไหว้พระสวดมนต์ ชอบไหว้แต่เทพเจ้า และแถมมีอคติเหมารวมพระสงฆ์ รวมทั้งเป็นผู้เป็นห่วงลูกหลาน เราจะใช้วิธีใดส่งผู้ตายไปสุขคติภูมิ นึกถึงเทพเจ้า สิ่งดีที่ทำ ไม่ต้องสวดมนต์ เปิดเทปฟังธรรม ใช่ไหมครับ

แนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 14 ก.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอความในขุททกนิกาย ปญจกนิบาตชาดก อัทฒวรรค ทีฆีติโกสลชาดก มีขอความวา

"..ขาแตพระราชา เวนสุจริต และวาจาสุภาษิตเสีย เหตุอยางอื่นจะปองกันไดในเวลาใกลมรณกาล ไมมีเลย..."

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา แม้แต่จิตขณะต่อไป ก็ไม่ทราบได้เลยว่าจิตอะไรจะเกิดขึ้น กุศล หรือ อกุศล และ ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา บังคับไม่ได้ อยากให้กุศลเกิด กุศล ก็ไม่ได้เกิดตามใจ ไม่เช่นนั้น ทุกคนก็คงไม่ไปทุคติ ไม่ไปอบายภูมิเลย ถ้าทำได้ เพราะฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงเป็นไปตามกรรม ตามเหตุปัจจัย ตามการสะสมมาของแต่ละคน ก็สามารถพูดอธิบาย ในกุศลที่บุคคลนั้นได้ทำมา ส่วนจะเกิด กุศล อกุศลก่อนตาย อย่างไร ก็ตามกรรมของสัตว์โลก ครับ

ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อความบางตอน

จากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

"...ความจริง ความตายเร็วที่สุด ก่อนตายอาจจะนอน ป่วย ไข้ หรือ สนุกสนานร่าเริง แต่พอถึงเวลาตายก็ตายได้ แม้ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยก็ตายได้ เพราะฉะนั้น ความตายตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้ชั่วขณะจิต ดังนั้นใครจะรู้ว่าเมื่อใด ถ้าคิดว่าก่อนตายจะทำอย่างไร จงทำเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ แต่ว่าไม่มีใครจะไปทำอะไรได้ เพราะปกติ คนอยากจะมีกุศลทุกวัน แต่ตามเหตุ พอมีเหตุของอกุศล อกุศลก็เกิด... และไม่ต้องคร่ำครวญว่าอกุศลมากเหลือเกินเพราะเหตุว่า ถ้ารู้เรื่องเหตุและผลแล้ว และรู้ว่ากุศลน้อย ก็ต้องอบรมเจริญกุศลโดยไม่ประมาท เพราะฉะนั้น ถ้ากลัวเกิดในอบายภูมิ ต้องเป็นผู้ไม่ประมาทในการอบรมเจริญกุศล โดยเฉพาะการเจริญปัญญา เพราะพระอริยบุคคลเท่านั้นที่จะไม่เกิดในอบายภูมิ แต่ถ้าไม่เป็นพระอริยบุคคล อกุศลกรรมที่มี ที่ได้กระทำแล้ว ไม่เฉพาะที่ทำในชาตินี้ ...อาจจะเป็นชาติไหนๆ ก็ได้ จากอดีตหลายแสนโกฏิกัปป์ ก็อาจจะมาทำให้เกิดในชาตินี้ได้ แต่เรื่องที่จะทำอะไรก่อนตาย ไม่มีใครทำได้จริงๆ เหมือนกับขณะนี้จะรอทำไมให้ถึงก่อนตาย ทำเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ทำให้จิตเป็นกุศลเสียเดี๋ยวนี้ ให้ปัญญาเกิดเสียเดี๋ยวนี้ แทนที่จะไปรอทำก่อนตาย..."

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 14 ก.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ไม่มีใคร ส่งให้ใครไปเกิด ณ ที่่ใด ได้ แต่ละคนมีกรรมเป็นของของตน ขึ้นอยู่กับว่ากรรมใดจะนำเกิด ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ถ้ากรรมดีให้ผลนำเกิด ก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ เกิดเป็นมนุษย์ หรือเกิดเป็นเทวดา แต่ถ้าเป็นกุศลกรรมนำเกิด ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ โดยไม่มีใครทำให้เลย

ข้อที่น่าพิจารณา คือ คนที่ทำอกุศลกรรมประการต่างๆ แม้จะมีคนมาแวดล้อมสวดอ้อนวอนว่า ขอให้คนผู้นี้ตายไปแล้วไปเกิดในสุคติภูมิ ก็ไม่สามารถที่จะเป็นไปได้ เพราะถ้าอกุศลกรรมให้ผลนำเกิด ก็ต้องเกิดในอบายภูมิ ไม่ใช่สุคติภูมิ ในทางตรงกันข้าม คนที่สะสมกุศล ทำกุศลกรรม ความดีต่างๆ แม้จะมีคนมาวิงวอนขอร้องให้คนนี้เกิดในอบายภูมิ อย่าได้เกิดในสุคติภูมิเลย ก็ไม่สามารถเป็นไปได้ เพราะถ้าถึงคราวที่กุศลกรรมให้ผลนำเกิด ก็ต้องทำให้เกิดในสุคติภูมิ ดังนั้น ไม่ขึ้นอยู่กับผู้อื่นเลย แต่ขึ้นอยู่กับกรรมที่ตนเองได้กระทำแล้วเป็นสำคัญ

ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย ไม่ว่าจะไปไหน หนีไปอยู่ ณ ที่ใดก็ไม่พ้น เพราะสัตว์โลกถูกความตายครอบงำไว้ และจะต้องพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักทั้งปวงอย่างหนีไม่พ้น นี้คือ สัจจธรรม ที่ทุกคนควรรู้ ความจริงเป็นอย่างไร ก็ต้องเป็นอย่างนั้น จะไปเปลี่ยนแปลงความจริงให้เป็นอย่างอื่น ก็ไม่สามารถที่จะเป็นไปได้เลย

ไม่มีอะไรที่จะเป็นที่พึ่งสำหรับชีวิตอย่างแท้จริง นอกจากปัญญา ความรู้ ความเข้าใจซึ่งความจริงเท่านั้น ถึงแม้ว่าชีวิตประจำวันอาจจะมีพ่อแม่ พี่น้อง ได้คอยช่วยเหลือในกิจการงานต่างๆ บ้าง แต่ในที่สุดแล้ว ก็จะต้องทิ้งกันและกันอยู่ดี ด้วยความตายที่เกิดขึ้น ท่านเหล่านั้นไม่สามารถติดตามไปช่วยเหลืออะไรในภพหน้าได้ แต่ความดีที่ได้สะสมไว้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ปัญญาที่เกิดจากการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในแต่ละครั้งในชีวิตประจำวันนั้น ไม่สูญหายไปไหน สะสมสืบต่ออยู่ในจิตทุกขณะ และจะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงสำหรับชีวิต ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 14 ก.ย. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nopwong
วันที่ 15 ก.ย. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
tanrat
วันที่ 15 ก.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 15 ก.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
แต้ม
วันที่ 5 ก.พ. 2558

น้อยมากหรือแทบไม่มีเลยที่จะอธิบายให้เข้าใจแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะต้องบอกตามที่ท่านได้ถามมาแทบทั้งนั้น คือ ส่งดวงวิญญาณไปสู่สุขคติบ้าง ก่อนตายฟังเสียงสวดมนต์บ้าง นำพระมาให้ได้เห็นบ้าง เป็นต้น แต่ก็ยังทำกันอยู่ทุกวันนี้ ในขณะที่มีความเป็นปกติดี สุขภาพดี กลับไม่รีบเร่งทำกุศลให้เกิดขึ้นในใจ นี่ความประมาทของคนหลายคน

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ms.pimpaka
วันที่ 14 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Chalee
วันที่ 6 มิ.ย. 2558

สาธุ (อนุโมทนาบุญค่ะ) เป็นบุญที่ได้้รู้ธรรม.

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ