เอหิปัสสิโก

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เอหิปัสสิโก หมายถึง ควรเรียกให้มาดู หรือ ท่านจงมาดูธรรมนั้น นั่นคือ สภาพธรรมที่มีจริงที่เป็นโลกุตตรธรรม 9 มี มรรค 4 ผล 4 และ พระนิพพาน ซึ่งในวิสุทธิมรรค อธิบายว่า เอหิปัสสิโก ควรเรียกให้มาดู เพราะสภาพธรรมนั้นมีอยู่ ควรเรียกให้มาดู เพราะสภาพธรรมที่มีอยู่นั้นประเสริฐ บริสุทธิ์ ปราศจากกิเลส เพราะฉะนั้น จึงควรเรียกให้มาดู คือพระนิพพาน และ มรรค 4 ผล 4 ครับ

ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีเราที่จะไปดู แต่แสดงให้เห็นความจริงของสภาพธรรมที่ประเสริฐที่เป็น โลกุตตรธรรม 9 ว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ ควรเรียกให้มาดู ให้คนอื่นประจักษ์แจ้งตามความเป็นจริงในสิ่งที่ประเสริฐ ซึ่งพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง และได้อ่าน ได้ศึกษา ฟัง สนทนา ขณะที่เข้าใจ ปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้น แม้ไม่มีใครเรียกให้ดูแต่ก็ค่อยๆ น้อมเข้าไปสู่การรู้ความจริงในขณะนั้น ครับ ขออนุโมทนา

วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 296

[แก้บท เอหิปสฺสิโก]

ธรรมชื่อ เอหิปสฺสิกะ เพราะควรซึ่งเอหิปัสสวิธีอันเป็นไปโดยความว่า " ท่านจงมาดูธรรมนี้ " ดังนี้ ถามว่าก็เพราะเหตุไร ธรรมนั้นจึงควรซึ่งวิธีนั้น ตอบว่า เพราะธรรมนั้นเป็นสภาพมีอยู่ด้วย เพราะธรรมนั้นเป็นสภาพบริสุทธิ์ด้วย แท้จริงใครๆ แม้จะพูด (ลวง) ได้ว่าเงินหรือทองก็ตามมีอยู่ในกำมือเปล่า (แต่) ก็ไม่กล้าเรียก (ผู้อื่น) ว่า " จงมาดูเงินหรือทองนี้ซิ " เพราะอะไร เพราะเงินหรือทองนั้นไม่มีอยู่ และคูถหรือมูตรก็ตามแม้มีอยู่ใครๆ ก็หาอาจเรียก (ผู้อื่น) ว่า " จงมาดูคูถหรือมูตรนี้ เพื่อ (ให้) ร่าเริงใจซิ " โดยเผยความที่มันเป็นของน่าฟูใจ (ให้เขาดู) ได้ไม่ เพราะอะไร เพราะคูถหรือมูตรนั้น เป็นของโสโครก ส่วนโลกุตตรธรรมทั้ง ๙ นี้โดยสภาพเป็นของมีอยู่ด้วยเป็นของบริสุทธิ์ดุจดวงจันทร์เพ็ญ ในอากาศอันปราศจากเมฆ และเปรียบดุจแก้วมณีแท้อันเขาวางไว้ที่ผ้ากัมพลเหลืองฉะนั้นด้วย เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าเอหิปัสสิกะ เหตุว่าควรซึ่งเอหิปัสสวิธี เพราะความที่เป็นสภาพมีอยู่ และเพราะความเป็นสภาพบริสุทธิ์ด้วย

ขออนุโมทนา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอนจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

"สุ. เป็นสิ่งที่ควรจะดู ที่ว่าควรจะเรียกให้มาดู หมายความว่า เมื่อเป็นสิ่งที่มีคุณค่าแล้วอย่าทิ้ง ควรที่ทุกคนจะเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่ควรจะดู, โอปนยิโก น้อมเข้ามาในตน เวลาจะดู จะดูที่ไหน ไม่ใช่ดูที่คนอื่น ธรรมทั้งนั้นเลย คนนั้นก็อิสสา คนนั้นริษยานั่นไม่ใช่ค่ะ แต่ว่าที่ควรจะดู หรือว่าที่ควรจะน้อมเข้ามาดูที่ตนเอง แล้วจึงจะเป็นปัจจัตตัง หมายความว่ารู้ได้เฉพาะตน

สมพร ให้ท่านอาจารย์ช่วยอธิบายอีกนิดหนึ่งนะครับ คำว่า เอหิปัสสิโก ควรเรียกให้มาดูหรือเห็น มันเป็นอย่างไร

สุ. ค่ะ เป็นคุณของโลกุตตรธรรม ซึ่งต้องมีคุณมาก สมควรแก่การที่จะดู หรือที่จะประจักษ์แจ้ง เพราะเหตุว่าทุกคนมักจะอยากดูอย่างอื่น อยากจะรู้อย่างอื่น แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ควรดูอย่างยิ่ง หรือควรที่จะเห็น ควรที่ประจักษ์อย่างยิ่งนั้นก็คือโลกุตตรธรรม

ด้วยเหตุนี้โลกุตตรธรรมจึงเป็นสิ่งที่ควรที่จะดู ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่มีค่า หรือไม่ใช่เป็นสิ่งซึ่งไม่มีประโยชน์เลย ไม่ว่าเราจะเห็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ได้ฟังได้ยินเรื่องวิชาการอย่างหนึ่งอย่างใด ต้องไม่ลืมว่าวิชาการที่สูงที่สุด ที่เป็นประโยชน์ที่สุด ที่ควรที่สุด ที่จะได้เห็นได้ดูนั้นก็คือ โลกกุตตรธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงๆ แล้วเราก็กำลังพยายามอยู่ ที่จะได้เข้าไปดูโลกุตตรธรรม แล้วก็คงจะไม่ท้อถอย เพราะเหตุว่าเป็นพระธรรมที่มีประโยชน์มาก แล้วก็เริ่มจากการฟัง ให้เข้าใจสภาพที่เป็นอภิธรรมก่อน"

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นรัตนะเป็นของมีค่า ควรเรียกให้มาดู มาฟังธรรมและปัญญาทำแทนกันไม่ได้ ต้องศึกษาเอง ต้องฟังเอง ต้องพิจารณาเอง ค่ะ

บางท่านเอาง่ายๆ ชอบให้สวดมนต์ แต่อธิบายอรรถะให้เข้าใจยาก เพราะฉะนั้นขาดการฟังไม่ได้เลย

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขอบพระคุณ สาธุ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

ด้วยความเคารพยิ่ง

จาก ใหญ่ราชบุรี – ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี

เริ่มจากการฟัง ให้เข้าใจสภาพที่เป็นอภิธรรมก่อน

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ