กรรมบถ

 
natural
วันที่  26 ก.ย. 2557
หมายเลข  25574
อ่าน  2,021

ขอรบกวนเรียนถามความหมายของคำว่า กรรมบถ และโดยสภาพธรรมกรรมบถเกี่ยวข้องกับการให้ผลของกรรมอย่างไรคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 26 ก.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ต้องเข้าใจก่อนว่า กรรมมีจริงๆ เป็นธรรม ว่าโดยสภาพธรรมแล้วคือเจตนาเจตสิก เกิดกับจิตทุกขณะ ไม่มีเว้นเลย แต่กรรมที่จะเป็นเหตุในภายหน้าต้องสำเร็จเป็นกุศลกรรมหรืออกุศลกรรมบถ เช่น ถ้าเป็นกุศลกรรม ก็อย่างเช่น ให้ทาน รักษาศีล การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น เป็นต้น แต่ถ้าเป็นทางฝ่ายอกุศลกรรม เช่น ฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์ ลักทรัพย์ผู้อื่นเป็นต้น เมื่อเหตุมีแล้ว ก็ย่อมจะเป็นเหตุให้เกิดผลในภายหน้าได้ แต่ถ้าเป็นเพียงอกุศลจิตที่เกิดขึ้น เช่น ขุ่นเคืองใจ หรือ ติดข้องยินดีพอใจ โดยไม่ได้ล่วงออกมาเป็นอกุศลกรรมบถประการต่างๆ เช่น ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เป็นต้น ก็ไม่เป็นเหตุให้เกิดผลคือวิบากในภายหน้า แต่ก็เป็นการสะสมสิ่งที่ไม่ดี เพราะถ้าสะสมมากขึ้น ก็อาจจะล่วงเป็นอกุศลกรรมบถได้ เพราะฉะนั้นจะประมาทกำลังของกิเลสไม่ได้เลย ที่ชื่อว่า กรรมบถ เพราะความเป็นทางของทุคติและสุคติทั้งหลาย ได้แก่ เจตนาที่เป็นไปทางกาย ๓ ทางวาจา ๔ และทางใจ ๓ รวมเป็น ๑๐

ซึ่งกรรมบถเกี่ยวข้องกับการให้ผลของกรรม คือกรรมที่ทำครบองค์กรรมบถย่อมทำให้เกิดในอบายภูมิ มี นรก เป็นต้นได้ หรือในฝ่ายกุศลก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิได้ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ประสาน
วันที่ 27 ก.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
natural
วันที่ 27 ก.ย. 2557

เรียนถามเพิ่มเติมว่า ความเป็นไปที่เป็นอยู่เรื่อยๆ นี้ เป็นการสะสมกิเลส? หรือผลของกรรมที่ไม่ครบกรรมบถที่ให้ผลอยู่? หรืออย่างไรคะ กรรม กิเลส สั่งสมวิบาก หมายความว่าอย่างไรคะ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 27 ก.ย. 2557

เรียนความเห็นที่ 3 ครับ

จิตเป็นสภาพธรรมที่สะสม สะสมทั้งฝ่ายดี และ ฝ่ายไม่ดี ซึ่งขณะที่กุศลจิต อกุศลจิตที่ไม่ครบองค์กรรมบถ ก็สะสมเป็นอุปนิสัยต่อไป แต่ไม่ให้ผลของกรรมที่ทำให้เกิดในสุคติภูมิ อบายภูมิ ครับ

ขอเชิญอ่านคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ได้ที่นี่ ครับ

ความจริงแห่งชีวิต...ตอนที่ ๙๓ จิตตสังเขป (กิเลส กรรม วิบาก)

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 27 ก.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ที่จะเป็นเหตุให้เกิดในอบายภูมิ มี นรก เป็นต้น ก็ต้องเป็นเฉพาะอกุศลกรรมบถเท่านั้น การเกิดในอบายภูมิ และการได้รับที่ไม่ดีไม่น่าปรารถนา ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ เป็นไปด้วยอำนาจของอกุศลกรรมเท่านั้น ไม่ใช่กุศลกรรม

อกุศลกรรมบถ ๑๐ แสดงถึงความเป็นไปของการกระทำอกุศลกรรม ได้แก่ทางกาย ๓ ได้แก่ ปาณาติบาต การฆ่าสัตว์มีชีวิต ๑, อทินนาทาน การถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ ๑, กาเมสุมิจฉาจาร การประพฤติผิดในกาม ๑ ทางวาจาก็มี ๔ คือ มุสาวาท พูดสิ่งที่ไม่จริง ๑, ผรุสวาจา พูดคำหยาบ ๑, ปิสุณาวาจาพูดคำส่อเสียด ๑, สัมผัปปลาปวาจา คือพูดคำเพ้อเจ้อ คำที่ไม่มีประโยชน์ ๑ นี่เป็นวจีกรรม ๔ ซึ่งหักราญ ตัดประโยชน์ของผู้อื่น มโนกรรม ๓ คือ อภิชฌา การเพ่งเล็งอยากได้ของของคนอื่นมาเป็นของของตน ๑, พยาปาท การเบียดเบียนประทุษร้ายผู้อื่น ๑ และมิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิดจากความเป็นจริงของธรรม ๑

ที่น่าพิจารณา สิ่งที่ควรเว้นไม่ได้มีเพียงเว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการลักทรัพย์ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากการพูดเท็จ เว้นจากการดื่มสุราเท่านั้น แต่ก็ควรที่จะได้เว้นจากสิ่งที่ไม่ดีประการอื่นๆ ด้วย เพราะสิ่งที่ไม่ดีที่เป็นอกุศลนั้นเป็นโทษโดยส่วนเดียว

-กุศลกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการ มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เป็นต้น เป็นเหตุให้ไปเกิดในบายภูมิ มีนรก เป็นต้น เท่านั้น ไม่ใช่สุคติภูมิ เพราะการจะไปเกิดในสุคติภูมิซึ่งเป็นภพภูมิที่ดี กล่าวคือมนุษย์ภูมิและสวรรค์ ต้องเป็นผลของกุศลกรรมฝ่ายเดียว การกระทำอกุศลกรรมบถ ซึ่งเป็นความประพฤติเป็นไปของคนที่ไม่ดี มีกิเลสที่สะสมมาจนมีกำลัง มีโลภะ โทสะ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นเรื่องที่จะประมาทไม่ได้เลยทีเดียว เพราะกิเลสที่มีมาก มีกำลัง ก็เนื่องมาจากการสะสมไปทีละเล็กทีละน้อยนี้เองครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 27 ก.ย. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
tanrat
วันที่ 28 ก.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 29 ก.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ