พุทธศาสนิกชน

 
chatchai.k
วันที่  8 ต.ค. 2557
หมายเลข  25617
อ่าน  4,756

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี พุทธศาสนิกชน แปลว่า คนที่นับถือพระพุทธศาสนา

ขอเรียนถามว่า มีความหมายเช่นเดียวกับ พุทธบริษัท หรือไม่ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 8 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พุทธศาสนิกชน แปลว่า คนที่นับถือพระพุทธศาสนา ส่วน พุทธบริษัท หมายถึง กลุ่มชนที่นับถือพระพุทธศาสนา

แท้ที่จริง พุทธศาสนิกชน และ พุทธบริษัท คือผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะเป็นที่พึ่งซึ่งพึ่งด้วยการเข้าใจพระธรรม ศึกษาพระธรรม จึงชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนและพุทธบริษัทจริงๆ ไม่ใช่เพียงเรียกชื่อเท่านั้น

การมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งได้นั้นต้องเป็นผู้ที่มีปัญญา และปัญญานี้จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยการฟัง การศึกษาพระธรรม ค่อยๆ อบรมความเข้าใจพระธรรม ค่อยๆ ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ โดยไม่ไปฟังคนอื่นที่มีความเห็นผิดคลาดเคลื่อนไปจากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง จึงแสดงให้เห็นว่าการมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งต้องเริ่มจากการศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เป็นปัญญาของตนเอง นั่นเอง ครับ.

คำบรรยายเรื่อง มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง โดยท่านอาจารย์ สุจินต์

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องบำเพ็ญพระบารมีนานแสนนานถึง ๔ อสงไขยแสนกัปที่สามารถจะรู้พระธรรม เพราะฉะนั้นพระธรรมที่ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษาอยู่ที่ไหน และเดี๋ยวนี้มีไหม และคนยุคนี้สามารถได้รับฟังและเข้าใจได้หรือเปล่า นี่เป็นความต่างกันของคนในยุคโน้นกับคนในยุคนี้

ถ้าเคยไปวัดฟังพระธรรม ก็จะรู้ว่าในอดีตกาลสมัยพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระอรหันต์มากมาย พระอรหันต์คือใคร ก็ไม่ใช่เพียงแต่ได้ยินและได้ยินอะไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าได้ยินแล้วต้องการเข้าใจ ก็ฟังพระธรรมจนกระทั่งสามารถค่อยๆ เข้าใจคำที่ได้ยินทีละเล็กทีละน้อย เช่น ถามว่าพระอรหันต์คือใคร พระอรหันต์คือผู้ดับกิเลสหมด ไม่มีกิเลสใดๆ เกิดขึ้นได้เลย

เพราะฉะนั้นจึงเป็นผู้ควรเคารพอย่างสูง เพราะว่าการดับกิเลสเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลยถ้ามีความเข้าใจถูกต้องว่าเมื่อเกิดมาทุกคนก็มีกิเลส และอยู่ไปวันๆ ทุกวันก็เต็มไปด้วยกิเลส เพราะฉะนั้นถ้าใครสามารถดับกิเลสได้ ผู้นั้นควรแก่การเคารพอย่างยิ่ง สมัยนี้มีไหมคะพระอรหันต์ แล้วจะรู้ได้อย่างไรคะว่า ใครเป็นพระอรหันต์ และใครไม่เป็นพระอรหันต์

นี่คือถ้าเราขาดความรู้ เราก็จะถูกหลอก เพราะเหตุว่าถ้าใครบอกว่าคนโน้นคนนี้เป็นพระอรหันต์ เราก็อาจจะเชื่อ แต่ตามความเป็นจริง ต้องเป็นความรู้ของเราเอง จึงสามารถเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามความเป็นจริง

ด้วยเหตุนี้เราจึงมีคำว่า มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่เราใช้กันบ่อยๆ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ มีใครเป็นที่พึ่งคะ มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ มีพระธรรมที่ทรงแสดงแล้วที่ทำให้ทุกคนสามารถหมดจดจากกิเลสได้เป็นที่พึ่ง เพราะถ้าไม่มีพระธรรม ใครก็หมดกิเลสไม่ได้ และก็มีพระสังฆรัตนะ คือ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ถึงพระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่ง ไม่ใช่ถึงผู้ที่ไม่ใช่อริยะแล้วก็เป็นที่พึ่งได้ แต่ต้องเป็นผู้สามารถเข้าใจธรรม จนสามารถช่วยคนอื่นให้เข้าใจในฐานะของสาวกด้วย ไม่ใช่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ทุกคนเคยพูดคำนี้ไหมคะ ๓ ประโยค พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิสังฆัง สรณัง คัจฉามิ แต่ขอเป็นที่พึ่งอย่างไร เพราะเหตุว่าแม้คำว่า “ที่พึ่ง” ก็ไม่รู้ว่าจะพึ่งพระรัตนตรัย พึ่งพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไร เพราะว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ไม่มีอีกเลย ที่จะไปเฝ้า สักการะ หรือจะขอเป็นที่พึ่ง แต่ยังพึ่งได้อยู่ เพราะเหตุว่าเป็นพระบรมศาสดาที่ทรงแสดงพระธรรมให้คนอื่นสามารถรู้สามารถเข้าใจได้

เพราะฉะนั้นการที่จะพึ่งพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็คือ พระองค์เป็นผู้มีพระปัญญาสูงสุดในสากลจักรวาล ไม่มีผู้ใดเปรียบได้เลย และทรงแสดงพระธรรมให้คนอื่นเข้าใจได้ เพราะฉะนั้นจะพึ่งพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าวันนี้ จะพึ่งอย่างไร หรือจะไม่พึ่ง หรือแต่เพียงกล่าวว่าพึ่ง แต่ไม่รู้จะพึ่งอย่างไร

เพราะฉะนั้นวันนี้เพียงแค่คำเดียวว่า “ธรรม” จะพึ่งธรรม จะพึ่งอย่างไร กำลังจะพึ่งเมื่อได้ฟังและเข้าใจ จึงจะพึ่งได้ ถ้าไม่เข้าใจ ไม่มีทางจะพึ่งเลย.

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 8 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พุทธศาสนิกชน หรือ ชาวพุทธ คือผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนา การที่จะเป็นชาวพุทธที่แท้จริงได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรม อันเป็นคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เรียกว่า พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนของผู้ทรงตรัสรู้ความจริงและมีความเข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ซึ่งเมื่อมีความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ ก็จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลให้ความดีประการต่างๆ ในชีวิตประจำวันเจริญยิ่งขึ้นด้วย ทำให้เป็นผู้มีศีล กระทำในสิ่งที่ควรทำ และงดเว้นในสิ่งที่ควรงดเว้นเป็นผู้ที่มีศรัทธา เลื่อมใสในพระรัตนตรัย เมื่อมีความเข้าใจถูกก็ไม่เป็นผู้เชื่อมงคลตื่นข่าว แต่มีความมั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรม เมื่อมีความเข้าใจถูก ก็ทำให้ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอกพระพุทธศาสนาเนื่องจากว่าคำสอนที่จะทำให้พ้นจากทุกข์ได้นั้น มีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ไม่มีในคำสอนอื่น นอกจากนั้น ขณะที่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม มีความเข้าใจที่ถูกต้องพร้อมทั้งมีการเผยแพร่พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้ผู้อื่นได้เข้าใจด้วย ก็ได้ชื่อว่าทำการสนับสนุนในพระศาสนานี้แล้ว เป็นการดำรงรักษาไว้ซึ่งพระธรรมคำสอน ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง

ถ้าชาวพุทธไม่ได้ฟัง ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่มีความเข้าใจพระธรรม ก็ไม่ชื่อว่าเป็นชาวพุทธจริงๆ แล้วจะสืบทอดพระธรรมคำสอนซึ่งเป็นพระพุทธศาสนาได้อย่างไร? พระธรรมย่อมสูญแน่นอน ไม่มีการที่จะดำรงสืบต่อไปได้ เพราะฉะนั้นแล้ว จึงขึ้นอยู่กับชาวพุทธ คือ ผู้นับถือพระพุทธศาสนาที่เข้าใจพระธรรม ซึ่งก็เป็นแต่ละบุคคลจึงควรอย่างยิ่งที่ทุกคนจะศึกษาพระธรรมด้วยความเคารพนอบน้อม พร้อมทั้งมีความจริงใจและมีความตั้งใจมั่นที่จะประพฤติปฏิบัติตาม และประการที่สำคัญ จุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรม ไม่ใช่เพื่อเก่งไม่ใช่เพื่อได้ลาภ สักการะ หรือแม้แต่เพียงการชมเชย เพราะถ้าศึกษาเพื่อต้องการสิ่งดังกล่าวนั้น จะไม่ได้สาระจากพระธรรม (นอกจากจะเพิ่มกิเลสให้กับตนเองเท่านั้น) แต่ควรเป็นผู้ที่ศึกษาเพื่อประโยชน์จริงๆ คือเพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก และขัดเกลากิเลสของตนเอง ซึ่งมีมากและสะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์

สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง คือ ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรม ความเข้าใจ ที่ถูกต้องย่อมเกิดไม่ได้ เมื่อไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว ย่อมทำให้เป็นผู้มีความเห็นผิดเมื่อเห็นผิด การปฏิบัติก็ผิด ผิดคนเดียวยังไม่พอ ยังอาจเผยแพร่ความเข้าใจผิดให้แก่ผู้อื่นอีกด้วย ซึ่งเป็นอันตรายมากทั้งแก่ตัวผู้เผยแพร่และแก่ผู้อื่น ถ้าเป็นอย่างนี้ จิตใจย่อมเสื่อมจากคุณธรรมเสื่อมจากความดี นั่นหมายความว่า เป็นเหตุให้ศาสนาเสื่อมเร็วขึ้น ดำรงอยู่ได้ไม่นาน แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าชาวพุทธศึกษาพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบ มีความเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้องไปตามลำดับ พร้อมทั้งน้อมปฏิบัติตามด้วยความจริงใจ กล่าวได้ว่าเป็นผู้ที่มีความเห็นถูกตรงตามพระธรรมคำสอน เมื่อมีความเห็นถูก กาย วาจา ใจ ก็จะเป็นไปในทางที่ถูกยิ่งขึ้น ต่อจากนั้นก็แนะนำบุคคลอื่นให้ตั้งอยู่ในความเห็นถูกด้วย ผู้ที่ถูกแนะนำมีความเข้าใจถูกตามที่ผู้แนะนำได้แสดงถ้าเป็นอย่างนี้ได้ พระพุทธศาสนาก็สืบทอดต่อไปได้นาน ดำรงอยู่นาน ทั้งหมดทั้งปวงนั้น ก็เพราะชาวพุทธมีความเข้าใจที่ถูกต้องและน้อมประพฤติ ปฏิบัติตามคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเป็นสำคัญ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 8 ต.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 8 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nopwong
วันที่ 9 ต.ค. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ประสาน
วันที่ 9 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
peem
วันที่ 9 ต.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
thilda
วันที่ 10 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 14 ต.ค. 2557

ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ