เรียนสอบถามเกี่ยวกับการแบ่งบุญครับ

 
สืบต่อพุทธ
วันที่  11 ต.ค. 2557
หมายเลข  25630
อ่าน  969

ไม่ทราบว่ามีการแบ่งบุญไหมครับ ไม่ว่าภพภูมิไหนใช่ไหมครับ
ขอบคุณครับอนุโมทนาสาธุสาธุสาธุครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 11 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ควรเข้าใจแม้แต่คำว่า บุญ คือ อะไร? บุญ เป็นธรรม เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ อยู่ที่จิต ย่อมหมายรวมถึงโสภณเจตสิก (สภาพธรรมฝ่ายดีที่เกิดร่วมกับจิต เช่น ศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ เป็นต้น) ที่เกิดร่วมด้วย ถ้าหากไม่มีจิตและไม่มีโสภณเจตสิกแล้ว บุญก็เกิดไม่ได้ จิตเกิดขึ้นเป็นกุศลขณะใด ขณะนั้นเป็นบุญ เป็นการชำระจิตจากอกุศลการทำบุญก็ควรที่จะเป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความอยากติดข้องต้องการหวังผลของบุญ

การแบ่งบุญ บุญของใครก็ของคนนั้น เพราะบุญเกิดขึ้นที่จิต จะยกบุญ แบ่งบุญไม่ได้ คำว่า สัตว์มีกรรมเป็นของๆ ตน ก็คือ บุญของใคร อกุศลของใคร ก็ของคนนั้นเพราะฉะนั้น การที่จะแบ่งบุญจึงไม่มี มีแต่เกิดจิตอนุโมทนาในกุศลของผู้อื่น เมื่อมีผู้อื่นบอกว่าทำกุศลอะไรมา ก็ไม่ใช่บุญคนอื่นมาให้ แต่เพราะอาศัยเหตุปัจจัยจากการได้รับฟังในเรื่องการทำกุศลของผู้อื่น จึงเกิดจิตอนุโมทนา ก็คือ กุศล บุญที่เกิดขึ้นของตนเองในขณะนั้นเป็นสำคัญครับ

ดังนั้น จึงไม่มีตัวตนหรือไม่มีบุญที่จะแบ่ง หากแต่บุญนั้นเกิดขึ้นและดับไป ไม่มีรอมาอยู่ให้แบ่ง หากแต่ว่าการบอกคุณความดีที่ทำมาเพื่อให้ผู้อื่นอนุโมทนา อย่างนั้นไม่ได้เป็นการแบ่งบุญ แต่เป็นการให้ผู้อื่นเกิดกุศลจิตในกุศลที่เราได้ทำมาครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 12 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ตั้งต้นที่การเข้าใจก่อนว่า บุญคืออะไร บุญคือสภาพธรรมที่ดีงามที่เป็นเครื่องขัดเกลา ชำระล้างกิเลสอกุศลธรรม ซึ่งไม่พ้นไปจากความดีงาม ทั้งทาน ศีล การอบรมเจริญปัญญา บุญเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ใครสะสม ใครเจริญให้เกิดมี ก็เป็นบุญของผู้นั้น โดยไม่ปะปนกันกับคนอื่น แต่สำหรับผู้ที่มีจิตเป็นกุศล แม้ว่าตนเองจะได้เจริญกุศลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นไปในเรื่องทาน การให้ การสละวัตถุสิ่งของ เพื่อประโยชน์สุขของคนอื่น รวมไปถึงแม้การฟังพระธรรม ก็ยังสามารถเกิดกุศลจิตได้อีก ด้วยการบอกหรืออุทิศให้ผู้อื่นเพื่อประโยชน์คือความเกิดขึ้นของกุศลธรรม คือ การอนุโมทนาของคนอื่น ซึ่งจะเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นจริงๆ เป็นการเกื้อกูลให้เกิดกุศลจิตอนุโมทนาชื่นชมในคุณความดี ซึ่งก็จะเป็นบุญของผู้อนุโมทนา เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ผู้ที่เห็นคุณของกุศล เห็นคุณของความดี ก็จะไม่ละเลยโอกาสที่จะให้คุณความดีเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไปในเรื่องใดๆ ก็ตาม ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 12 ต.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ประสาน
วันที่ 13 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
tanrat
วันที่ 13 ต.ค. 2557

ความเข้าใจถูกนี่มันยากจริงๆ กราบแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์และท่านอาจารย์วิทยากรทุกท่าน ที่มีความกรุณาบรรยายความถูกต้องของธรรมะทั้งปวง สาธุค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ