รูปและวิบากจิต

 
wit46
วันที่  13 ต.ค. 2557
หมายเลข  25640
อ่าน  953

การเห็นรูปไม่ดี เป็นผลของอกุศลกรรม แล้วจักขุปสาทรูปที่จักขุวิญญาณจิตเกิดเห็นรูปไม่ดีในขณะนั้น จักขุปสาทรูปนั้นเป็นผลของอกุศลกรรมเดียวกันที่ทำให้เกิดหรือเปล่าครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 13 ต.ค. 2557

จักขุวิญญาณ หรือ จิตเห็นสภาพรู้แจ้งอารมณ์ทางตา หมายถึง อเหตุกวิบากจิต ๒ ดวง ซึ่งเกิดที่จักขุวัตถุ (จักขุปสาท) ทำทัสสนกิจ (เห็น) คือ รับรู้รูปารมณ์ที่กระทบทางตา (เห็น) เป็นกุศลวิบาก ๑ ดวงรับรู้สีที่ดี เป็นอกุศลวิบาก ๑ ดวงรับรู้สีที่ไม่ดี จักขุวิญญาณเกิดร่วมกับ อุเบกขาเวทนาทั้ง ๒ ดวง

จักขุปสาทรูป
จกฺขุ (ทางตา) + ปสาท (ใส , ผ่องใส) + รูป (รูป) รูปที่มีความผ่องใสคือตา หมายถึง รูปที่เกิดจากกรรมที่มีความผ่องใสเหมือนกระจกเงาสามารถรับกระทบกับสีต่างๆ ตั้งอยู่ในกลางตาดำ มีเยื่อตา ๗ ชั้นซึมซับอยู่ ประดุจสำลีที่อาบด้วยน้ำมันชุ่มอยู่ทั้ง ๗ ชั้น มีสัณฐานโตประมาณเท่าหัวเล็น ทำหน้าที่ได้ ๒ อย่าง คือ
๑. เป็นจักขุวัตถุ ที่เกิดของจักขุวิญญาณ ๒ ดวง
๒. เป็นจักขุทวาร
ทางรู้อารมณ์ของจักขุทวารวิถีจิต

ซึ่งจักขุปสาทรูปไม่จำเป็นจะต้องเป็นกรรมเดียวกับจิตเห็นครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 13 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กล่าวถึงสภาพธรรมที่มีจริงๆ คือ เห็น กล่าวในภาษาไทยธรรมดาๆ คือ "เห็น"ก็เข้าใจธรรมในภาษาของคนไทย เห็น เป็นสิ่งที่มีจริงๆ เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยไม่ใช่เราที่เห็น เมื่อเห็นเกิดขึ้นก็ต้องเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น จะไปเห็นอย่างอื่นไม่ได้ จะไปเห็น เสียง กลิ่น รสโผฏฐัพพะ ไม่ได้ นี้คือ ความเป็นจริงของเห็น และเห็นจะเกิดขึ้นเองลอยๆ ไม่ได้ เห็นเกิดเพราะเหตุปัจจัยหลายอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมีกรรมเป็นปัจจัย จึงทำให้มีการเห็นเกิดขึ้น ถ้าเป็นผลของกรรมดีก็ทำให้เห็นสิ่งที่ดีน่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจ แต่ถ้าเป็นผลของกรรมชั่วก็ทำให้เห็นสิ่งที่ไม่ดีไม่น่าปรารถนา นอกจากนั้น ก็ต้องมีเจตสิกธรรม เกิดร่วมด้วยมีสิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นอารมณ์ และมีที่เกิดของจิตเห็น คือ จักขุปสาทะ ด้วยซึ่งเป็นรูปที่เกิดจากกรรม ซึ่งยากที่จะรู้ได้ว่ามาจากกรรมไหนในชาติไหนและถ้าจักขุปสาทะจะเป็นที่เกิดของจิตเห็น ก็ต้องเกิดก่อนจิตเห็น เมื่อค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกอย่างนี้ ก็พอจะเข้าใจได้ว่า ไม่มีเราแทรกอยู่ในสภาพธรรม "เห็น" เลย เพราะเห็นเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน และไม่มีเราแทรกอยู่ในจักขุปสาทะเลย ความเข้าใจ ก็จะต้องค่อยๆ มั่นคงขึ้น จนกว่าจะประจักษ์แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 13 ต.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ประสาน
วันที่ 14 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
wit46
วันที่ 14 ต.ค. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
papon
วันที่ 14 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ