(เกือบ) ถอดใจ ... ที่อินเดีย 4 พระวิหารเชตวันในสายฝน

 
kanchana.c
วันที่  28 ต.ค. 2557
หมายเลข  25696
อ่าน  2,504

พระวิหารเชตวันในสายฝน

ระหว่างทางจากลัคเนาว์มาสาวัตถี วิทยากรประจำรถบัสคันที่ 4 สีเขียว รศ.สงบ เชื้อ ทอง ได้นำสวดมนต์นอบน้อมพระรัตนตรัยในดินแดนพุทธภูมิ (ซึ่งทำเป็นกิจวัตรทุกครั้งที่ออก เดินทาง) และอธิบายที่มาของการสวด นโม ตัสสะ ภควโต อรหโต สัมมาสัมพุทธัสสะ พร้อม ทั้งอธิบายบทสวดบูชาพระรัตนตรัยเป็นภาษาไทยให้ผู้ร่วมเดินทางเข้าใจความหมาย เพื่อให้เกิดกุศลจิตมีศรัทธาในพระรัตนตรัยยิ่งขึ้น แล้วได้บรรยายถึงประวัติและความสำคัญของ สถานที่ต่างๆ ที่จะได้ดูได้ชมในสาวัตถี ตั้งแต่พระวิหารเชตวัน บ้านท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี บ้านปุโรหิตบิดาของท่านพระองคุลีมาล สถานที่พระเทวทัตถูกธรณีสูบ สถานที่แสดงยมก ปาฏิหาริย์ วัดบุพพารามของท่านวิสาขามหาอุบาสิกา (รายละเอียดเล่าไว้แล้วใน “อินเดีย ... แดนพุทธภูมิ อ่านได้จาก www.dhammahome.com หนังสือ - Ebook - เส้นทางสายธรรม ซึ่งค้นมาจากพระไตรปิฎกและอรรถกถา คนหนึ่งเล่า อีกคนหนึ่งเขียน ข้อมูลมาจาก แหล่งเดียวกัน ไม่ได้คิดเอง อย่ารังเกียจที่จะฟังหรือจะอ่านเลยค่ะ)

เมื่อไปถึงสาวัตถี เข้าไป พักที่โรงแรมนิคโก้โลตัสรับประทานอาหารกลางวันแล้ว ก็เตรียมตัวไปเวียนเทียนที่พระ คันธกุฎี ในพระวิหารเชตวันตอนบ่ายสามโมง แต่ฝนยังตกอยู่ คิดว่าอาจจะเลื่อนไปเป็นวันรุ่ง ขึ้น แต่ท่านอาจารย์ยืนยันด้วยความเมตตาคนมาใหม่ว่า โปรแกรมเหมือนเดิม เพราะถ้ากลัว ฝน พรุ่งนี้ฝนอาจจะตกอีก คนที่ไม่เคยมาพระเชตวันก็จะไม่ได้เข้าไปกราบและเวียนเทียนรอบ พระคันธกุฎี จึงเตรียมตัวไปกัน จะเห็นศรัทธาของแต่ละท่านนั้นไม่เหมือนกัน บางท่านขึ้นรถ ไปดูก่อนว่า ไปถึงพระเชตวันฝนอาจจะหยุด แต่บางท่านไม่ยอมขึ้นรถเลย ขอนอนพักที่ โรงแรม

เราเป็นกลุ่มศรัทธาปานกลาง ขึ้นรถไปวิหารพระเชตวันก่อน ไปถึงแล้วก็ว่ากันใหม่ว่า จะลงหรือไม่ลงจากรถ จากโรงแรมนิกโก้โลตัสใช้เวลาไม่นานก็ถึงวิหารพระเชตวัน แต่คราวนี้ รถไม่จอดตรงประตูทางเข้าที่เคยจอด วิ่งอ้อมไปอีกทางหนึ่ง แล้วก็จอดตรงกำแพงสีน้ำตาล มีป้อมยามเล็กๆ ไม่มีขอทานและร้านขายของมากมายเหมือนที่เคยมาเลย คิดเอาเองว่า ฝนตกหนัก มีพายุ ทุกคนคงอยู่ในแต่ในบ้าน พอไปถึงมีผู้สื่อข่าวประจำรถมาบอกว่า ท่านอาจารย์ เวียนเทียนประทักษิณรอบพระคันธกุฎีท่ามกลางสายฝน ผู้มีศรัทธาแรงกล้าลงจากรถเกือบหมด แต่เราผู้มีศรัทธาคลอนแคลนหวั่นไหวลังเลใจ แต่พอบอกให้ถอดรองเท้าในรถ เราถอดรองเท้าแล้วเดินลงไปสัมผัสพื้นเฉอะแฉะเย็นเฉียบ เลยเปลี่ยนใจกลัวเป็นไข้หวัด สละร่มให้ผู้ มีศรัทธาแก่กล้าไปเวียนเทียนแทน แล้วก็นั่งชะเง้อคอดูท่านทั้งหลายในพระวิหารเชตวัน

คอยนานพอสมควร ท่านอาจารย์ก็ออกมาขึ้นรถเป็นคนแรกด้วยท่าทางหน้าตาแจ่มใส คนอื่นขึ้นรถ มาบอกว่า ดีมากๆ เวียนเทียนท่ามกลางสายฝน ไม่หนาวเย็นเลย รู้สึกชุ่มชื่นเหมือนเทวดา รดน้ำมนต์ให้ ฟังแล้วอนุโมทนาในศรัทธาที่แรงกล้าของท่าน และก็เสียดายที่จิตไม่มั่นคง พอที่จะตากฝน เพราะหาได้ยากมากที่มาพระเชตวันแล้วจะเจอฝนตก แล้วยังได้เวียนเทียนอีก ปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็มาเวียนเทียนตอนเช้าอยู่ดี เห็นความเป็นอนัตตาของ สภาพธรรมะทั้งหลายไหมว่า อยากจะทำแต่ก็ไม่ได้ทำ

โคมประทีปที่คุณโจ จรัญ และคุณสายฝน ปานุราช มอบให้มูลนิธิฯมาเจริญกุศลที่ อินเดีย ก็ได้นำมาบูชาคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเป็นแห่งแรกที่พระวิหารเชต วัน พวกเราทุกคนขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณโจและคุณฝน ขอให้กุศลนี้เป็นปัจจัยให้ทั้ง สองท่านเจริญมั่นคงในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปเทอญ

นอกจากนั้นน้องแอ๊ว นภา จันทรางศุ นางฟ้าใจดีประจำบัส 4 ยังนำช่อดอกไม้มา ตบแต่งโคมประทีปให้สวยงามยิ่งขึ้น จิตของเธอช่างวิจิตรในการเจริญกุศลจริงๆ มิน่าล่ะ ถึง ได้งามทั้งกายและใจอย่างนี้เอง อนุโมทนาในกุศลที่ทั้งแจกอาหารว่างในรถ ดอกไม้ประดับ โคม และร้องเพลงขับกล่อมค่ะ มีอีกหลายท่านที่นำอาหารว่างมาแจก เช่น น้องเบญจวรรณ รัศมีสุวรรณกุล เป็นต้น นักร้องก็มีอีกหลายท่าน เช่น น้องตู๋ น้องน้อย พัทนารี คุณหน่อย คุณธร คุณสุดใจเป็นต้น

วันรุ่งขึ้นท่านอาจารย์สนทนาธรรมที่โรงแรมปาวันพาเลซที่ท่านและคณะ 75 คนพัก อยู่ บางกลุ่มก็ไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญ และเวียนเทียนรอบพระคันธกุฎี คงเดาได้ว่า เราอยู่ กลุ่มไหน ต้องทำหน้าที่รายงานข่าวจึงต้องสำรวจสถานที่แม้ว่าจะมาหลายครั้งแล้วก็ตาม แต่ ทุกอย่างไม่เที่ยง เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้งพระวิหารเชตวันด้วย จึงได้เห็นว่า พระ เจดีย์สีทององค์ใหญ่ที่ศรัทธาของคนไทยมาสร้างไว้ ส่วนทางเข้าพระเชตวันนั้นเป็นด้าน หลัง เดินเข้าไปก็ถึงธัมมสภาทางด้านซ้าย พระคันธกุฏีทางด้านขวา และต้นโพธิ์พระอานนท์ ก็ต้องเดินไกลออกไปทางประตูที่เคยเป็นทางเข้า ไม่มีร้านขายของหรือคนขอทานเลย ทั้งๆ ที่ วันนี้ฝนไม่ตก ดูเงียบสงบกว่าทุกครั้งที่ไป ทางการอินเดียคงจัดการให้เป็นระเบียบขึ้น (อันนี้ คิดเอาเอง เพราะแม้แต่ยามก็บอกว่า ผมเป็นยาม พร้อมแบมือขอเงิน)

คุณแอ๊ว นภา จันทรางศุ นางเอกประจำบัส 4 หลังฝนตกท้องฟ้าแจ่มใส อากาศก็สดชื่น ไม่มีฝุ่นละอองมากเหมือนเดิม ได้เดินประ ทักษินรอบพระคันธกุฎีด้วยความปีติที่ได้มากราบพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกครั้งหนึ่งที่ พระวิหารเชตวันที่ทรงจำพรรษาอยู่ถึง ๑๙ พรรษา ทรงแสดงพระธรรมวินัยมีผู้บรรลุคุณวิเศษ เป็นพระอริยบุคคลมากมาย ทั้งเทวดาและมนุษย์ วิทยากรได้เล่าพระสูตรสำคัญที่แสดงที่ธัมม สภา พระวิหารเชตวัน เช่น มงคลสูตร พระสูตรสำคัญที่ชาวพุทธทุกคนต้องเคยได้ยินได้ฟัง เป็นภาษาบาลี อาจจะไม่เข้าใจความหมายและที่มาของพระสูตรนี้ ขออนุญาตเล่าย่อๆ ให้ฟัง นะคะ

ในสมัยที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้แล้วนั้น ผู้คนต่างพากันถามว่าอะไรเป็นมงคล ท่านหนึ่งถือว่า รูปที่เห็นแล้วเป็นมงคล อีกท่านถือว่า เสียงที่ได้ยินแล้วเป็นมงคล อีก ท่านถือว่า อารมณ์ที่ทราบแล้วเป็นมงคล ทั้ง 3 ท่านไม่สามารถทำให้ความเห็นของตนป็นที่ ยอมรับของคนอื่นได้ ปัญหาเรื่องมงคลจึงแพร่ขยายไปทั่วชมพูทวีป ชาวบ้านก็แบ่งกันถือ ความเห็นเรื่องมงคลเป็นพวกๆ จนถึงเทวดาและพรหม ไม่มีใครตอบปัญหาเรื่องมงคลได้ เป็น มงคลโกลาหลถึง 12 ปี จึงพากันไปหาท้าวสักกะจอมเทพให้ตัดสิน

ข้อความในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ มงคลสูตร มีว่า

ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ครั้นปฐมยามล่วงไปเทวดาตนหนึ่งมีรัศมีงาม ยิ่งนัก ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวาย บังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า

(น้องหนิงและหลานวิไลกราบพระพุทธเจ้า ณ สถานที่แสดงยมกปาฏิหาริย์)

เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก ผู้หวังความสวัสดี ได้พากันคิดมงคลทั้งหลาย ขอ พระองค์จงตรัสอุดมมงคล

พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถาตอบว่า

การไม่คบคนพาล ๑ การคบบัณฑิต ๑ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๑ เป็นอุดมมงคล

การอยู่ในประเทศอันสมควร ๑ ความเป็นผู้มีบุญอันกระทำแล้วในกาลก่อน ๑ การตั้งตนไว้ ชอบ ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

พาหุสัจจะ ๑ ศิลปะ ๑ วินัยที่ศึกษาดีแล้ว ๑ วาจาสุภาษิต ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

การบำรุงมารดาบิดา ๑ การสงเคราะห์บุตรภรรยา ๑ การงานอันไม่อากูล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

ทาน ๑ การประพฤติธรรม ๑ การสงเคราะห์ญาติ ๑ กรรมอันไม่มีโทษ ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

การงดการเว้นจากบาป ๑ ความสำรวมจากการดื่มน้ำเมา ๑ ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

ความเคารพ ๑ ความประพฤติถ่อมตน ๑ ความสันโดษ ๑ ความกตัญญู ๑ การฟังธรรมโดย กาล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

ความอดทน ๑ ความเป็นผู้ว่าง่าย ๑ การได้เห็นสมณะทั้งหลาย ๑ การสนทนาธรรมโดยกาล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

ความเพียร ๑ พรหมจรรย์ ๑ การเห็นอริยสัจ ๑ การกระทำนิพพานให้แจ้ง ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

จิตของผู้ใดอันโลกธรรมทั้งหลายถูกต้องแล้วย่อมไม่หวั่นไหว ๑ ไม่เศร้าโศก ๑ ปราศจากธุลี ๑ เป็นจิตเกษม ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายทำมงคลเช่นนี้แล้ว เป็นผู้ไม่ปราชัยในข้าศึกทุกหมู่เหล่า ย่อมถึง ความสวัสดีในที่ทุกสถาน นี้เป็นอุดมมงคลของเทวดาและมนุษย์เหล่านั้น ฯ

จบมงคลสูตร

เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงตรัสตอบมงคลปัญหาแล้ว มงคลโกลาหลก็ยุติลง แต่ละคำที่ทรง แสดงเป็นสัจจะ ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจหรือปัญญาของแต่ละคน บางท่าน อาจเข้าใจว่า ได้ฟังหรือสวดมงคลสูตรแล้วก็จะถึงความสวัสดี แต่นั่นเป็นมงคลภายนอก ต้อง น้อมเข้ามาในตน คือ ประพฤติปฏิบัติตามมงคลทั้ง ๓๘ นี้ได้ ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทุก สถานและในกาลทุกเมื่ออย่างแน่นอน

จะเห็นว่า ไม่มีใครเมตตาหวังดีต่อสรรพสัตว์ ต้องการให้พบแต่ความปลอดภัยสวัสดี เท่าพระ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกแล้ว

นโม ตัสสะ ภวคโต อรหโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ขอนอบน้อมต่อพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

... อ่านตอนต่อไป ...

(เกือบ) ถอดใจ ... ที่อินเดีย 5

... อ่านย้อนหลัง ...

(เกือบ) ถอดใจ ... ที่อินเดีย 3

(เกือบ) ถอดใจ ... ที่อินเดีย 2

(เกือบ) ถอดใจ ... ที่อินเดีย 1


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 28 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 28 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่แดง (พลอากาศตรีหญิงกาญจนา เชื้อทอง) สำหรับเรื่องเล่าจากใจ ที่เกือบจะถอดใจ ของพี่แดงครับ อ่านสนุก มีสาระธรรมเช่นเคยครับ และ ขอกราบอนุโมทนาในกุศลศรัทธาของพี่ฝนและพี่โจ สำหรับ ประทีปทองอันงดงามยิ่ง ที่ ณ กาลครั้งหนึ่ง ได้ส่องแสงสว่างไสว ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี พระนครสาวัตถี อันรุ่งเรืองด้วยแสงแห่งพระธรรม ในอดีต

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 28 ต.ค. 2557

อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 28 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Boonyavee
วันที่ 28 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิต ของคุณพ่อทางธรรม รศ.สงบ เชื้อทอง เมื่อครั้งที่ได้มีโอกาสไปนมัสการ 4 สังเวชนียสถานเมื่อปี 2554 คุณพ่อจะบรรยายธรรมและประวัติความเป็นมาของแต่ละสถานที่ต่างๆ ที่ไปเยือนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ทำให้การเดินทางบนรถครั้งนั้นที่ดูแสนจะยาวนาน กลับเพลิดเพลินไปด้วยเรื่องราวธรรม และทำให้ทุกท่านที่ร่วมเดินทางเกิดความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น ระลึกถึงพระมหากรุณาคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอัครสาวกทั้งหลายที่ท่านได้ฝากพระธรรมไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษา การฟังธรรมนั้นจึงเป็นมงคลอย่างยิ่ง และหากไม่ได้พบกัลยาณมิตรที่ช่วยชี้แนะทางที่ถูกต้องให้ ชีวิตก็คงมืดมิดเหมือนกับเทียนที่ไม่มีไฟแห่งปัญญาคอยส่องทาง จึงขอกราบขอบพระคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่กรุณาคอยตักเตือน สั่งสอนและชี้แนะให้เดินทางในสังสารวัฎนี้ด้วยหนทางที่ถูกต้องคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pulit
วันที่ 29 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ประสาน
วันที่ 29 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
siraya
วันที่ 29 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
j.jim
วันที่ 29 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
jariya.tr
วันที่ 29 ต.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

กราบเท้าบูชาคุณอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

กราบขอบพระคุณอาจารย์วิทยากรทุกท่าน

ขอบพระคุณพี่แดงและขออนุโมทนาในกุศลของทุกๆ ท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 29 ต.ค. 2557

ขอพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ปวีร์
วันที่ 29 ต.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
เมตตา
วันที่ 29 ต.ค. 2557

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่แดง อย่างยิ่งค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของคุณฝน และคุณโจ สำหรับ โคมประทีปทอง และ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านที่มีส่วนร่วมในการเจริญกุศลทุกๆ ประการค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
wirat.k
วันที่ 30 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
peem
วันที่ 30 ต.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
สิริพรรณ
วันที่ 2 พ.ย. 2557

กราบอนุโมทนาในกุศลจิต อ.กาญจนา เชื้อทองค่ะ ได้อ่านเรื่องเล่าไปอินเดียเล่มก่อนๆ ก็สนุกมาก ได้สาระเพื่อการเจริญปัญญาด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
yupaporn
วันที่ 5 พ.ย. 2557

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ