พระโสดาบัน ละ....โดยนัยยะของสังโยชน์
เรียน ท่านอาจารย์ครับ
เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีโอกาสฟังธรรมตอนหนึ่งที่มีผู้ถามท่านอาจารย์สุจินต์ เกี่ยวกับการละกิเลสของพระโสดาบัน ด้วยข้อความดังนี้
พระโสดาบันดับ ความเห็นผิด สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาสะ และ ละ อิจสา มัชริยะ "โดยนัยของสังโยชน์"
เข้าใจว่า ระดับขั้นของพระโสดาบัน มีปัญญา ถึงขั้นการดับกิเลสบางประการได้ แต่พึ่งจะเคยได้ยินเรื่องของ นัย ต่างๆ จึงอยากสอบถามท่านอาจารย์ว่า การละกิเลสต่างๆ มีตามนัยใดบ้างครับ?
ขอขอบพระคุณ และ อนุโมทนา
อกุศลธรรม ๙ กอง เป็นชื่อของอกุศลเจตสิกทั้ง ๑๔ ประเภทที่ทำกิจหน้าที่แตกต่างกัน มีความละเอียดลึกซึ้งแตกต่างกัน และมีอาการที่ปรากฏของอกุศลเหล่านั้นแตกต่างกัน จึงได้ชื่อที่แตกต่างกันไปเป็น ๙ ชื่อ คือ อาสวะ ๔ โอฆะ ๔ โยคะ ๔ คันถะ ๔ อุปาทาน ๔ นิวรณ์ ๖ อนุสัย ๗ สังโยชน์ ๑๐ และกิเลส ๑๐
ซึ่งพระโสดาบันก็ละกิเลส อกุศลธรรมแต่ละกอง ตามแต่ประเภท ของอกุศลธรรม ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สังโยชน์ เป็นกิเลสอกุศลธรรม ที่ผูกมัดเหล่าสัตว์ไว้ ในสังสารวัฏฏ์ ไม่ให้พ้นไปจากสังสารวัฏฏ์ ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ ย่อมไม่พ้นไปจาก การถูกผูกไว้ด้วยกิเลสประการนั้นๆ ไม่ปล่อยให้เป็นกุศล ไม่ปล่อยให้ออกไปจากสังสารวัฏฏ์
ไม่ว่าจะกล่าวถึงสิ่งใด ก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้เลย สิ่งที่มีจริงๆ นั่นแหละ คือ ธรรม มีจริง เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจริง มีจริง นั้น ตรงตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงทุกประการ รวมถึงสังโยชน์ และ การดับสังโยชน์ ด้วย
ข้อความจาก พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ หน้าที่ ๓๓๐
... ถามว่า สังโยชน์ ๑๐ นั้นไม่เกิดต่อไป เพราะเหตุใด.
... ตอบว่า ก่อนอื่น สังโยชน์ ๕ คือ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส อิสสา (ริษยา) และ มัจฉริยะ (ความตระหนี่) ไม่เกิดต่อไป ด้วยโสดาปัตติมรรค.
สังโยชน์ ๒ คือ กามราคะ ปฏิฆะ อย่างหยาบไม่เกิดต่อไปด้วยสกทาคามิมรรค.
สังโยชน์ ๒ คือ กามราคะ ปฏิฆะ อย่างละเอียดไม่เกิดต่อไปด้วยอนาคามิมรรค.
สังโยชน์ ๓ คือ มานะ ภวราคะ และ อวิชชา ไม่เกิดต่อไปด้วยอรหัตตมรรค
ประโยชน์ของการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็เพื่อเข้าใจธรรมตามความเป็นจริง กุศล ก็เป็นธรรม อกุศลก็เป็นธรรม สิ่งที่ไม่ใช่ทั้งกุศล และ ไม่ใช่ทั้งอกุศล ก็เป็นธรรม ไม่ใช่เราเลย เป็นแต่เพียงธรรม ที่เมื่อมีเหตุปัจจัยก็เกิดขึ้น ทำกิจหน้าที่ ไม่มีเราแทรกอยู่ในสภาพธรรมเหล่านั้นเลย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...