บันเทิงในธรรม ... ที่บ้านคุณโป๊ด

 
kanchana.c
วันที่  15 ธ.ค. 2557
หมายเลข  25900
อ่าน  2,037

วันที่ 12 ธ.ค. 57 มีโอกาสดีได้ลาภชิ้นใหญ่ คือ ยังมีชีวิตอยู่ มีสุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ มีมิตร ดี คือ คุณวันชัย ภู่งาม คุณปริญญา สีดาโสม และคุณเบญจมาส สุขสำราญ ที่เมตตาให้ติดรถ ไปบ้านคุณโป๊ด มีคุณโป๊ด เจ้าของบ้านที่เอื้อเฟื้อโอบอ้อมอารีให้โอกาสผู้สนใจธรรมไปร่วม สนทนาพร้อมเลี้ยงอาหารตลอดวัน และที่สำคัญที่สุดมีท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้ เป็นกัลยาณมิตรนำพระธรรมที่ท่านเข้าใจอย่างลึกซึ้งมาแบ่งปันให้ผู้สนใจได้เข้าใจตาม ถ้า ขาดท่านอาจารย์ไปท่านหนึ่ง สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดก็ไม่ใช่ลาภอันประเสริฐเลย

เคยไปบ้านคุณโป๊ดมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ 11 มี.ค. 54 ครั้งนั้นจำได้ไม่ลืม เพราะกลับมาบ้าน ตอนเย็น เปิดทีวีดูพบข่าวสะเทือนโลก คือ แผ่นดินไหวและเกิดสึนามิครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น ภาพ ผู้คน บ้านเรือน รถยนต์ เรือขนาดใหญ่ถูกคลื่นกวาดมารวมกันยังติดตา เป็นเวลาเดียวกับที่เรา กำลังเพลิดเพลินไปกับการฟังธรรมะ ในสถานที่น่ารื่นรมย์ที่คุณโป๊ดสร้างสรรค์ให้งดงามด้วย ดอกไม้และต้นไม้ในบ้าน เลยเขียนเรื่อง “โลกในวินัยของพระอริยเจ้า” ลงในกระดานสนทนา เพราะเห็นจริงว่า โลกของแต่ละคนก็เป็นแต่ละหนึ่งจริงๆ แล้วยังแยกย่อยไปในแต่ละหนึ่งคน นั่นอีกว่า เป็นโลกทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ไม่ปะปนกันเลย ถ้า สามารถแยกออกได้อย่างนี้จริงๆ ก็จะเห็นความเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด จึงจะเห็นความเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา เพราะจะหาความเป็นเราจากสิ่งที่เกิด แล้วดับไปทันที ไม่กลับมาอีกเลยจากที่ไหน

การสนทนาธรรมครั้งนี้ก็เหมือนกัน คือ บ้านคุณโป๊ดก็ยังมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นและภายในบ้านก็จัด บ้านด้วยดอกไม้สวยงามเหมือนเดิม อาหารก็ประณีตและอร่อยมาก แสดงถึงอัธยาศัยที่สะสม การทำกุศลที่ประณีต ขออนุโมทนาอีกครั้งค่ะ

ขอรวบรวมธรรมะที่ได้ฟังจากหลายที่ๆ มารวมกัน เพราะความจริงทุกอย่างเป็นธรรมะ และ ธรรมะทั้งหลายเกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย

มีคนถามเรื่อง “ลืม” ว่าเป็นอะไร ลืมไม่ใช่จิต จิตลืมไม่ได้ เพราะจิตทำหน้าที่รู้ ส่วนสัญญาที่ เกิดกับจิตทุกดวงทำหน้าที่จำทุกครั้งที่จิตรู้ ดังนั้นลืมจึงไม่ใช่สัญญาเจตสิก ลืม คือ วิตก เจตสิกที่ไม่ได้ตรึกถึงสิ่งที่ต้องการรู้ เพราะวิตกเจตสิกก็เป็นอนัตตาเช่นกัน หลายครั้งอยากจำ กลับลืม อยากลืมกลับจำ โดยเฉพาะอยากจำว่า ทุกอย่างเป็นธรรมะ แต่ก็ลืมเกือบตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนที่เพลิดเพลินไปกับรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และเรื่องราวที่คิดนึก

วิตกเกิดกับจิตเกือบทุกดวง ยกเว้นจิต 10 ดวง คือ ทวิปัญจวิญญาณ จิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้ กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสทั้งที่เป็นกุศลวิบากและอกุศลวิบาก ส่วน “หลงลืมสติ” คือสติไม่เกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมะตามความเป็นจริง

... ฟังธรรมะทำไม เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีว่า เป็นธรรมะและเป็นอนัตตาด้วย และเพื่อเข้าใจจริงๆ ในสิ่ง ที่มีอยู่เดี๋ยวนี้ ส่วนสิ่งที่เกิดมานานแล้วหรืออยู่แสนไกลนั้นไม่สามารถรู้ได้ ได้แต่เพียงคิดถึงสิ่ง นั้นนั่นเอง

... สิ่งที่ไม่ควรคิด คือ อจินไตย 4 ได้แก่ พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ฌานวิสัยของผู้ได้ ฌาน วิบากแห่งกรรม และความคิดเรื่องโลก เพราะคิดแล้วก็ไม่สามารถประจักษ์แจ้งสิ่งเหล่านี้ ได้ด้วยการคิด เมื่อคิดแล้วพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน ส่วนสิ่งที่ควรคิดคือสิ่งที่กำลัง ปรากฏเดี๋ยวนี้ ตามที่ทรงแสดงไว้ จนกว่าจะเป็นสิ่งกำลังปรากฏ ไม่ใช่เรา ถ้าฟังธรรมะแล้วคิด เอง ไม่ต้องฟังพระธรรมก็ได้ มีหลายอย่างที่ไม่สามารถประจักษ์แจ้งได้ด้วยตนเอง เพราะเป็น พระปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น วิถีจิต เป็นต้น แต่ฟังธรรมะเพื่อเห็นพระ ปัญญาคุณของพระองค์ที่สามารถประจักษ์สิ่งที่ละเอียดลึกซึ้งที่สุดอย่างจิตแต่ละขณะที่เกิด แล้วดับไปทันที

... ประเทศอันสมควร คือสถานที่ที่ทำให้เข้าใจธรรมะ พุทธบริษัทอยู่ที่ไหน ที่นั่นก็สมควรต่อ การระลึกถึงพระธรรม ขณะที่เข้าใจธรรมะ ขณะนั้นสมควรไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม และที่ได้อยู่ ในสถานที่สมควรเพราะสะสมบุญไว้แต่ปางก่อน ทำให้คบสัตบุรุษทั้งหลาย และตั้งจิตไว้ชอบ ด้วย ต้องฟังธรรมเพื่อคิดไตร่ตรองให้เข้าใจด้วย

หลังจบการสนทนาธรรมในวันนั้น คุณโป๊ดผู้มีจิตวิจิตรได้จัดให้มีการแสดงดนตรีขับกล่อมผู้ร่วม สนทนาธรรม โดยมีนักดนตรีอาชีพและสมัครเล่นหลายท่าน มีหลายท่านนอกจากร้องเพลง เพราะแล้ว ยังสนใจธรรมะอีกด้วย แสดงว่าท่านสะสมมาดีแล้ว ทำให้มีอัธยาศัยชอบฟังธรรม และได้รับผลของกุศลทำให้มีเสียงไพเราะ เช่น คุณวันชัย คุณเบญจมาศ คุณแด๊ส คุณโป๊ด เจ้าของบ้าน เป็นต้น

พวกเราเกือบทุกคนเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงที่ไพเราะ จนลืมพิจารณาว่า ขณะนั้นก็เป็น ธรรมะ แต่เป็นเราที่สนุกสนาน อยากให้คุณโป๊ดจัดให้มีสนทนาธรรมบ่อยๆ พร้อมกับเชิญนัก ร้องมาด้วยอย่างนี้อีก เกิดความต้องการอยากได้ขึ้นมาทันที (นี่คือชื่อ สภาพธรรมที่ เพลิดเพลินติดข้องเกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่รู้ เมื่อใส่ชื่อเรียกลงไป คิดว่ารู้สภาพธรรม แต่จริงๆ ก็ยัง ไม่รู้อยู่ดี เพราะยังเป็นเราที่ต้องการอยากให้มีอีก) เห็นความมากมายมหาศาลของโลภะที่ท่าน เปรียบเหมือนห้วงน้ำใหญ่ไหม ล่องลอยอยู่ในห้วงน้ำนี้เกือบตลอดเวลา มีเพียงไม่กี่ขณะที่ขึ้น ไปสู่เกาะที่แห้งจากน้ำ

นี่ก็ยังเป็นความคิดของเราอยู่ดี ส่วนใหญ่สนใจเรื่องราว แต่ไม่สนใจเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึกที่กำลังปรากฏ ทีละหนึ่ง ถ้ารวมกันก็ยังเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เป็น สิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นเรา ไม่ใช่เป็นธรรมะที่เป็นอนัตตา

วันนั้นบ้านคุณโป๊ดเป็นทั้งปฏิรูปประเทศสถานที่สมควร เพราะทำให้เข้าใจธรรมะเพิ่มขึ้น และ เป็นทั้งประเทศที่ไม่สมควร เพราะทำให้เกิดความติดข้อง เพลิดเพลินเกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ไม่ใช่ สถานที่ แต่เป็นเพราะจิตที่สะสมมาต่างๆ กัน เป็นปกติตามความเป็นจริง เป็นอย่างไรก็เป็น อย่างนั้น ถ้าเข้าใจธรรมะไม่ว่าขณะที่ฟังธรรมหรือฟังเพลงก็เป็นกุศล หรือเพลิดเพลินติดข้อง ในขณะที่ฟังธรรมหรือฟังเพลงก็เป็นโลภะ เป็นอกุศลที่แต่ละท่านก็จะทราบได้ด้วยตนเอง เพราะแต่ละขณะก็มีสภาพธรรมะกำลังปรากฏทางตา หรือทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจให้ระลึกรู้อยู่แล้วถ้าเข้าใจพอ ถ้ายังไม่เข้าใจก็ยังคงเป็นเราที่เพลิดเพลินติดข้องต่อไป ขออนุโมทนาในกุศลของคุณโป๊ดอีกครั้งค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 15 ธ.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณโป๊ด

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของอาจารย์กาญจนาเป็นอย่างยิ่ง ครับ

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Boonyavee
วันที่ 15 ธ.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิต ของคุณแม่และทุกๆ ท่าน เป็นอย่างยิ่งคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wirat.k
วันที่ 15 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
tanrat
วันที่ 16 ธ.ค. 2557

มีธรรมะปรากฎทุกที่ ฟังอย่างนี้ พิจรณาไหม พระปัญญาธิคุณที่ทรงแสดง สติเคยระลึกไหม หรือฟังแล้วขาดหายไปเหมือนรอยไม้ที่ขีดในน้ำ ค่อยๆ สะสมอบรมไป ขาดการฟังธรรมะไม่ได้เลยค่ะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pulit
วันที่ 16 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 16 ธ.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
สิริพรรณ
วันที่ 16 ธ.ค. 2557

ขอกราบนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยเศียรเกล้า

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิต ของคุณโป๊ด และผู้ร่วมสนทนาทุกท่าน

ทุกอย่างเป็นธรรม เกิด ดับ เพราะเหตุ ปัจจัย จึงไม่ใช่เรา ไม่มีเรา นี้คืออานิสงค์จากการศึกษาและเข้าใจพระธรรม ซึ่งไม่มีทางคิดเองได้ พระธรรมจึงมีค่าสูงสุดในชีวิต

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
j.jim
วันที่ 16 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
napachant
วันที่ 16 ธ.ค. 2557

"เข้าใจที่ไหน...ที่นั่นก็เป็นประเทศอันสมควร"

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

กราบท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ท่ีเคารพอย่างยิ่ง

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาพี่แดงท่ีสรุปข้อธรรมท่ีได้ฟังแล้วให้มั่นคงขึ้น

และขออนุโมทนาในกุศลศรัทธาของคุณโป้ด และสหายธรรมทุกๆ ท่านด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เรือนแก้ว
วันที่ 16 ธ.ค. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ch.
วันที่ 19 ธ.ค. 2557

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ