ระลึก

 
papon
วันที่  2 ม.ค. 2558
หมายเลข  25997
อ่าน  843

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

"ระลึก" ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยให้คำอธิบายในคำนี้ด้วย เนื่องจากได้ยินท่านอาจารย์ใน mp3 และอ่านหนังสือเจอบ่อยครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ม.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ระลึก คือ สภาพธรรมที่เป็นสติ ที่ระลึกเป็นไปในทาน ศีล ภาวนา

สติ ตามพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นเจตสิก

สติ เป็นเจตสิกฝ่ายดี คือเกิดกับจิตที่ดีงาม ไม่เกิดกับอกุศลจิตเลย สติ ทำหน้าที่ระลึกเป็นไปในทางที่ดี และ สติเป็นธรรมที่เป็นเครื่องกั้นกระแสกิเลส

สติ มีหลายอย่าง หลายชนิด แต่ สติ ก็ต้องกลับมาที่ สติเป็น สภาพธรรมฝ่ายดี ครับ สติ แบ่งตามระดับของกุศลจิต เพราะเมื่อใด กุศลจิตเกิด สติจะต้องเกิดร่วมด้วย

กุศลจิต มี ๔ ขั้น คือ ขั้นทาน ศีล สมถภาวนา และ วิปัสสนาภาวนา

สติจึงมี ๔ ขั้น คือ สติที่ระลึกเป็นไปในทาน สติที่ระลึกไปในศีล สติที่ระลึกเป็นไปในสมถภาวนา และ สติที่ระลึกเป็นไปในวิปัสสนาภาวนา

สติขั้นทาน คือ เมื่อสติเกิดย่อมระลึกที่จะให้สติขั้นศีล คือ ระลึกที่จะไม่ทำบาป งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ สติขั้นสมถภาวนา เช่น ระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า และสติขั้นวิปัสสนา คือ สติที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ เกิดพร้อมปัญญารู้ความจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
j.jim
วันที่ 2 ม.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 2 ม.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สติ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่งาม เป็นสภาพธรรมที่ระลึกเป็นไปในกุศลธรรม สติจะไม่เกิดร่วมกับอกุศลจิตเลย กุศลกับอกุศล เป็นธรรมคนละประเภทกัน ไม่เกิดร่วมกันอย่างเด็ดขาด

โดยปกติของปุถุชนแล้ว เป็นผู้ตกไปในฝักฝ่ายของอกุศลเสียเป็นส่วนใหญ่ เป็นผู้มีโทษมาก เพราะกาย วาจา และใจ เป็นไปกับด้วยอกุศล เป็นความเกิดขึ้นเป็นไปของอกุศลธรรม ซึ่งเป็นธรรมฝ่ายดำ เป็นธรรมที่ไม่ดี เช่น โลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ตามควรแก่อกุศลจิตประเภทนั้น โดยที่ไม่มีสติเลยในขณะที่จิตเป็นอกุศล เพราะสติไม่เกิดร่วมกับอกุศลจิต จึงกล่าวได้ว่า ชีวิตประจำวันกุศลจิตมีเป็นส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นอกุศลจิต เทียบส่วนกันไม่ได้เลย เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ถ้าจิตไม่ได้เป็นไปในทาน ไม่ได้เป็นไปในศีล ไม่ได้เป็นไปในการอบรมเจริญความสงบของจิตและการอบรมเจริญปัญญาแล้ว เป็นอกุศลทั้งนั้น เมื่อไม่กล่าวถึงขณะที่เป็นวิบาก และกิริยา ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 2 ม.ค. 2558

ถ้าไม่มีการศึกษาด้วยการฟังธรรมให้เข้าใจก่อน ก็ไม่สามารถระลึกตรงลักษณะของธรรมะที่มีอยู่จริงในขณะนี้ได้ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
thilda
วันที่ 2 ม.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
tanrat
วันที่ 3 ม.ค. 2558

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
peem
วันที่ 4 ม.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ประสาน
วันที่ 5 ม.ค. 2558

สะสมสติด้วยการฟังพระธรรมให้เข้าใจ ค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ เข้าใจ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 5 ม.ค. 2558

ขอบคุณ และขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
nong
วันที่ 8 ม.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
doungjai
วันที่ 11 ม.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
วิริยะ
วันที่ 25 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 19 พ.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
Jarunee.A
วันที่ 29 ก.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ