สงสัยเรื่องฆ่าไรฝุ่น เราจะต้องไปเกิดเป็นแบบเดียวกันหรือเปล่า

 
medulla
วันที่  6 ม.ค. 2550
หมายเลข  2602
อ่าน  2,979

อย่างเช่นเราเคยฆ่ายุง ฆ่าเห็บให้สุนัข หรือเอายามาพอกหัวเพื่อฆ่าเหา หรือแม้แต่เอาสเปรย์ฆ่าไรฝุ่นที่หมอนมุ้ง (ไรฝุ่นมีเป็นหลายล้านตัว) เคยคิดว่าสัตว์ตัวเล็กๆ น่าจะไม่มีพลังชีวิตอะไรมาก ฆ่าเพื่อรักษาชีวิตใหญ่ (ไม่ให้คนเกิดโรค) ไม่น่าบาปมาก

แต่พอมาศึกษาพระธรรมก็ไม่กล้าทำสิ่งพวกนี้อีกเลย ยุงก็ไม่ฆ่า พยายามติดมุ้งลวดให้หมดทุกช่อง สุนัขที่บ้านก็ปล่อยไปตามกรรม ไม่กล้าฆ่าเห็บหมัดให้มันอีกเลยก็มีช่วยหยิบๆ ออกไปบ้าง แต่เห็บหมัดมันก็เดินขึ้นมาไต่ตัวสุนัขอยู่ดี เลยปล่อยไปตามวิบากของใครของมัน หมอนมุ้งก็เอาไปตากแดดแทนไม่ใช้สเปรย์ฆ่า เพราะกลัวแรงไป (แต่จุดประสงค์ก็กำจัดไรฝุ่นอยู่ดี)

อยากทราบว่า เราจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์พวกนี้เพื่อชดใช้กรรมหรือเปล่า หรือว่ากรรมที่ฆ่าสัตว์ตัวเล็กๆ แบบนี้จะมาในรูปแบบอื่นๆ เช่น เป็นผื่นคัน หรืออื่นๆ ตามสมควร

ขออภัยที่ถามนะคะ ไม่ทราบจริงๆ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 7 ม.ค. 2550

ตามหลักคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์แสดงวิบากของการฆ่าสัตว์ว่า โดยตรงทำให้เกิดในนรก วิบากอย่างเบาที่สุดคือ เมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์จะทำให้เป็นคนอายุสั้น คือตายก่อนวัยอันควร สรุปคือ ผลของการมีเจตนาฆ่า ไม่ว่าจะฆ่าสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ก็ตาม จะทำให้เกิดในนรก แต่เมื่อเปรียบเทียบโทษว่า การฆ่าสัตว์เล็กและสัตว์ที่มีคุณน้อย มีโทษน้อยกว่าการฆ่าสัตว์ใหญ่ และ สัตว์ที่มีคุณมาก

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 7 ม.ค. 2550

ตราบใดที่ยังไม่ใช่พระโสดาบัน ก็ยังยีโอกาสที่จะล่วงศีลได้ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ดังนั้น กรรมที่เป็นอกุศลที่ทำลงไป เมื่อให้ผลก็ย่อมให้ผลในทางที่ไม่ดี ผลของกรรมที่ครบองค์ ย่อมนำไปสู่อบาย แม้เกิดเป็นมนุษย์ เศษของกรรมนั้นก็ให้ผลได้อีก ดังนั้น ควรเห็นคุณค่าของพระธรรม ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงเพื่อดับกิเลส เพราะกิเลสทำให้ประพฤติล่วงศีลได้ครับ

การฟังธรรม การสนทนาธรรมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิต ที่เราเกิดมาและได้พบพระพุทธศาสนา และที่สำคัญต้องเข้าใจพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องว่าหนทางที่ดับกิเลสคืออย่างไร เพราะกิเลสไม่ได้อยู่ในขณะอื่น แต่อยู่ในขณะนี้ ดังนั้น ปัญญาจึงต้องรู้สภาพธัมมะที่มีในขณะนี้เองว่าไม่ใช่สัตว์บุคคล ตัวตนครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pornpaon
วันที่ 7 ม.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ ตอนนี้ที่บ้านดิฉันก็มีสัตว์เลี้ยงแบบไม่ได้ตั้งใจ คือ ยุง มด แมลงสาบเยอะแยะไปหมด เดินหลบหลีกกันเอาเอง ตัวไหนตายเอง (ตามอายุที่สั้นมาก) ก็เก็บกวาดกันไปจะฉีดยาฆ่าแมลงก็ทรมานทั้งตัวเองและสัตว์ด้วย 2 - 3 ปีนี้นานๆ เผลอทีก็ตบเพี๊ยะโดนแขนตัวเองเจ็บไปที ยุงตัวดีก็บินปร๋อสบายใจไป น้องสาวที่คอยบ่นอยู่เรื่อยว่า ไม่มีคนทำ เขาก็ต้องทำ ปล่อยให้บาปคนเดียวอยู่ได้ เกือบปีมานี้เห็นเลิกถามหายาฉีดยุงไปแล้วเหมือนกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
medulla
วันที่ 7 ม.ค. 2550

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pla
วันที่ 8 ม.ค. 2550

คิดว่าควรจะพิจารณาองค์ประกอบ ครบ 5 ข้อหรือเปล่า คือ

1. สัตว์นั้นมีชีวิต

2. รู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต

3. มีจิตคิดจะฆ่า

4. พยายามฆ่า

5. สัตว์นั้นตายด้วยความพยายาม

แต่ในกรณีการฆ่าไรนั้น ต้องถามทางผู้รู้นะคะ แต่ดิฉันคิดว่าควรพิจารณาจิตขณะนั้นจะดีกว่านะคะ ว่าเป็นกุศลหรือเป็นอกุศลค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 8 ม.ค. 2550

พยายามหาวิธีอื่น หรือหลีกเลี่ยงการฆ่าให้น้อยที่สุด และที่สำคัญขึ้นอยู่กับเจตนามีกำลังมากหรือกำลังน้อย ถ้าจำเป็นต้องทำ ก็ต้องทำความดีมากๆ โดยเฉพาะการอบรมเจริญสติปัฏฐาน เพื่อวันหนึ่งบรรลุเป็นโสดาบันแล้วเราก็ไม่ต้องไปอบายอีก

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
อิสระ
วันที่ 12 ม.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 5 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ค่อยๆศึกษา
วันที่ 23 ส.ค. 2564

กราบอนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ