โสดาปัตติมรรค
รบกวนถามดังนี้
1. โสดาปัตติมรรคคืออะไรคะ
2. ปฏิบัติถึงขั้นไหน เช่น ต้องเห็นวิปัสสนาญาณถึงขั้นไหน จึงจะได้โสดาปัตติมรรคคะ
3. ประโยชน์ของการเป็นโสดาปัตติมรรคคืออะไรคะ
4. บุคคลที่ภาวนาจนเคยเห็นสังขารุเปกขาญาณ แต่จิตยังไม่ก้าวพ้น ถือว่าได้โสดาปัตติมรรคหรือไม่คะ
กราบขอบพระคุณมากค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
1. โสดาปัตติมรรคคืออะไรคะ
-โสดาปัตติมรรค คือ จิต ที่ถึงการดับกิเลส ได้บางส่วน คือ ละ ความเห็นผิด ความสงสัย และข้อประพฤติปฏิบัติที่ผิด ซึ่ง โสดาปัตติมรรคจิต เป็นโลกุตตรจิต ที่มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ เป็นโลกุตตรจิต และ เป็นจิตที่ทำให้ถึงความเป็นพระโสดาบัน ครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ
2. ปฏิบัติถึงขั้นไหน เช่น ต้องเห็นวิปัสสนาญาณถึงขั้นไหน จึงจะได้โสดาปัตติมรรคคะ
-ต้องจนถึง วิปัสสนาญาณขั้น ที่ ๑๔ ซึ่งจะต้องเริ่มจากปัญญาเบื้องต้น คือ การฟัง ศึกษาพระธรรม เป็นสำคัญ ครับ
3. ประโยชน์ของการเป็นโสดาปัตติมรรคคืออะไรคะ
-ทำให้ถึงการดับกิเลสได้และจะทำให้ถึงความเป็นพระอริยบุคคล เป็นพระโสดาบัน
4. บุคคลที่ภาวนาจนเคยเห็นสังขารุเปกขาญาณ แต่จิตยังไม่ก้าวพ้น ถือว่าได้โสดาปัตติมรรคหรือไม่คะ
- ยังไม่ถึง ครับ เพราะ สังขารุเปกขาญาณ เป็นเพียงวิปัสสนาญาณขั้นที่ ๑๑ ยังไม่ถึงมรรคญาณ ที่เป็นวิปัสสนาญาณขั้นที่ ๑๔ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูก ว่าคำที่กล่าวถึงคืออะไร โสตาปัตติมรรค เป็นโลกุตตรธรรม เกิดขึ้นครั้งเดียวในสังสารวัฏฏ์ ทำกิจดับกิเลสในระดับหนึ่ง คือ ความเห็นผิด ความลังเลสงสัยในสภาพธรรม และกิเลสที่อยู่ในฐานะเดียวกันทั้งหมด เมื่อโสตาปัตติมรรคเกิดแล้วดับไป โสตาปัตติผล เกิดสืบต่อทันที เป็นพระโสดาบันบุคคล
การเป็นพระอริยบุคคลทุกขั้น เป็นได้ด้วยปัญญาและต้องดำเนินตามหนทางที่เป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์หมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย คือ อริยมรรค มีองค์ ๘ ที่เริ่มด้วยความเห็นที่ถูกต้อง เพราะถ้าไม่มีปัญญา ไม่ดำเนินตามหนทางที่ถูกต้องแล้ว ไม่สามารถเป็นพระอริยบุคคลได้เลย
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้และทรงแสดงนั้น มีความละเอียดลึกซึ้ง ยากที่จะตรัสรู้ตามได้ เป็นธรรมอันบัณฑิตเท่านั้นที่จะรู้ได้ ธรรมจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกว่าที่พระผู้มีพระภาคเจ้าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั้น พระองค์ต้องใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมีตลอดระยะเวลาสี่อสงไขยแสนกัปป์ ถ้าไม่ฟังไม่ศึกษาเลย ปัญญาย่อมไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้เลย เหตุที่จะทำให้ปัญญาเจริญขึ้น ก็คือ ฟังพระธรรม ด้วยความเคารพ ไตร่ตรองพิจารณาในเหตุในผลของธรรม ธรรม ไม่พ้นไปจากชีวิตประจำวันเลย ไม่ว่าจะฟังพระธรรมส่วนไหน ก็ไม่พ้นไปจากเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีในขณะนี้ สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีจริงในขณะนี้จริงๆ
ปัญญาไม่สามารถจะเจริญขึ้นได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ต้องค่อยๆ ฟังค่อยๆ ศึกษาไปตามลำดับ เพียงแค่วันนี้ พรุ่งนี้ หรือ ชาตินี้ ยังไม่พอ ต้องสะสมความเข้าใจต่อไปอีกเป็นเวลาอันยาวนาน (จิรกาลภาวนา) ซึ่งมีข้ออุปมาเหมือนการจับด้ามมีด เมื่อจับบ่อยๆ นานๆ รอยสึกย่อมปรากฏได้ ปัญญาก็เช่นกัน ต้องอาศัยกาลเวลาอันยาวนานในการสะสม ในการอบรม จึงจะเจริญขึ้นได้ เพราะฉะนั้น ในแต่ละภพในแต่ละชาติ มีชีวิตอยู่ก็เพื่อได้ฟังพระธรรม ได้สะสมอบรมเจริญปัญญา เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกยิ่งขึ้น ไม่ขาดการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม สะสมปัญญาต่อไป ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กว่าจะถึงโสดาปัตติมรรค ต้องอบรมบารมีทั้ง ๑๐ ที่นานมากนับชาติไม่ถ้วน ค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ
สาธุ