พุทธวจนะ คืออะไร

 
แต้ม
วันที่  6 ก.พ. 2558
หมายเลข  26146
อ่าน  74,072

เรื่อง พุทธวจน หรือคำสอนจากพระโอษฐ์ เป็นที่ถกเถียงกันพอสมควร ระหว่างผู้ที่เชื่ออย่างมั่นคงว่า นี่คือ คำสอนจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า และก็นำมาสอนกันและเผยแพร่กัน แต่ผู้ที่ยังไม่แน่ใจก็แย้งว่าทราบได้อย่างไรว่า นี่เป็นคำสอนจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าโดยตรง เพราะไม่มีใครยืนยันได้ พระไตรปิฎกเองก็ถูกสังคายนามาหลายครั้ง ผู้ที่ได้ศึกษา พระไตรปิฎกก็บอกว่า ฉบับบาลี นั่นเอง ที่เป็นคำสอนจากพระโอษฐ์ โดยเฉพาะของฝ่ายเถรวาทที่ยึดถือกันมาตลอด

ผมก็ศึกษาพระไตรปิฎกหลายสำนัก รวมทั้งสำนักที่บอกว่า นี่คือพุทธวจน แล้วมาเทียบเคียงกัน ก็ส่วนใหญ่จะเข้ากันได้ ผมก็เลยสงสัยอยู่ว่า แล้วทำไมต้องแยกออกมาศึกษาพุทธวจนด้วย ผมมีความเห็นว่า ผู้ที่บอกว่าศึกษาจากพระโอษฐ์โดยตรงเลยสิของแท้ นอกนั้นไม่ใช่ จะเป็นมานะหรือเปล่า ซึ่งถ้าได้ศึกษาพระไตรปิฎกแล้วผมคิดว่า เราก็นำส่วนที่เกิดประโยชน์ต่อตนเองมาใช้จะดีกว่า ไม่ต้องมาถกเถียงกันในเรื่องที่ไร้ประโยชน์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 6 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สัตว์โลกก็สะสมอุปนิสัยสิ่งต่างๆ มาแตกต่างกันไปตามการสะสมที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็จะต้องมีการคิดต่าง แต่จะคิดถูก หรือ คิดผิดตามความเป็นจริงหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่การสะสมความเห็นถูกมาหรือสะสมความเห็นผิดมา ครับ ซึ่งไม่มีใครจะไปเปลี่ยนความคิด หรือ คิดให้เป็นไปตามใจของเรา หรือ ของใคร เพราะธรรมเกิดตามเหตุปัจจัย สะสมมาอย่างไรก็คิดอย่างนั้น

ผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรม ควรเป็นผู้ละเอียด แม้พระไตรปิฎก เป็นคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงที่ละเอียดลึกซึ้ง แต่มีพระอรหันต์สืบต่อกันมา อธิบายอรรถะให้เข้าใจ เพราะฉะนั้น คำใดที่สอดคล้อง ไม่แปลกแยก เป็นอรรถกถา อธิบายให้เข้าใจ ไม่แย้งกับคำเดิม ก็ควรศึกษาละเอียดให้เข้าใจ และที่สำคัญ พระไตรปิฎก จะจริงไม่จริง สาระ ไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้ แต่อยู่ที่ ศึกษาอย่างละเอียดแท้จริงหรือไม่ และเมื่อศึกษาแล้ว คำนั้นทำให้เกิดความเข้าใจความเห็นถูกหรือไม่ ครับ ถ้าเกิด ก็สมควรศึกษา และ ปัญญาที่เกิดขึ้นเอง ย่อมเป็นเครื่องยืนยันว่า พระธรรมมีจริง พระพุทธเจ้ามีจริง ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 6 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงพระธรรมถึง ๔๕ พรรษา ซึ่งเมื่อรวบรวมเป็นหมวดหมู่แล้ว ก็เป็นพระวินัยปิฎกส่วนหนึ่ง เป็นพระสุตตันตปิฎกส่วนหนึ่ง เป็นพระอภิธรรมปิฎกส่วนหนึ่ง และมีอรรถกกถาอธิบาย เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกตามพระพุทธพจน์ยิ่งขึ้น ทุกคำที่เป็นไปเพื่อเข้าใจความจริง เป็นคำของพระองค์ทั้งหมด

โดยที่ทุกพระพุทธวจนะ มีคุณค่าสุดที่จะเปรียบ เพราะเหตุว่าถ้าสามารถจะเข้าใจทุกพยัญชนะได้จริง จะเกื้อกูลให้แต่ละบุคคลอบรมเจริญปัญญาได้โดยถูกต้อง ไม่ผิดพลาด แต่ถ้าใครคิดว่า ไม่ต้องอาศัยพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แล้วสามารถจะอบรมเจริญปัญญาของตนเองได้ ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น จึงต้องศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ เรื่องของคนอื่นก็เป็นเรื่องของคนอื่นจริงๆ กิจหน้าที่ของเรา คือ ตั้งใจศึกษาพระธรรมด้วยความไม่ประมาทในแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ครับ

..ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
kullawat
วันที่ 6 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 6 ก.พ. 2558

พระไตรปิฎกเป็นคำจริง พระพุทธเจ้าตรัสก่อนปรินิพพานว่า พระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 6 ก.พ. 2558

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน

ขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
peem
วันที่ 6 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Chalee
วันที่ 7 ก.พ. 2558

สาธุค่ะที่ทำให้เข้าใจ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Khun
วันที่ 19 ก.พ. 2558

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 30 ก.ค. 2560

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
chatchai.k
วันที่ 2 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
worrasak
วันที่ 8 ต.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
Jarunee.A
วันที่ 27 มี.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ