ต้องศีกษาธ้มมะเพื่อละตัวตน
ฟังแล้วปฏิบัติยากมาก ทวนกระแสความรู้สึก ที่เคยสะสมมาเป็นเวลานานมากๆ แต่ผมก็จะพยายามทำไปเรื่อยๆ จากน้อยไปหามากทำเท่ากำลังที่เราได้เคยสะสมมา จะไม่ขอร้องใครช่วยเหลือ ขอฟังคำแนะนำจากอาจารย์ ทางรายบ้านธัมมะ ผมฟังอาจารย์เกือบทุกวัน จะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ต้องกลับมาฟังเรื่องเดิมซ้ำๆ อีก จนกว่าจะเข้าใจ ผมขอฟังอาจารย์ไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ให้ธ้มมะแด่กระผม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตั้งต้นด้วยความใจถูกว่า ฟังพระธรรมเพื่อเข้าใจ ไม่ใช่ฟังแล้วจะไปปฏิบัติ เพราะไม่มีตัวตนที่ปฏิบัติ แต่เป็นความเจริญขึ้นของปัญญาจริงๆ ที่เริ่มจากความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ก็จะเกื้อกูลต่อการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ด้วยสติและปัญญาพร้อมด้วยธรรมฝ่ายดีอื่นๆ ที่เกิดร่วมด้วย โดยที่ไม่มีตัวตนที่ไปทำปฏิบัติ
การฟังพระธรรม ทำให้เราได้ยินได้ฟังสิ่งซึ่งเราไม่เคยได้ฟังมาก่อน ทำให้เริ่มเห็นประโยชน์ของการฟัง และรู้ว่าเหตุที่จะทำให้ปัญญาเกิด หลักๆ แล้วก็คือการฟังด้วยความตั้งใจ ด้วยความละเอียดรอบคอบ เพราะผู้ที่เป็นสาวกต้องฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่มีตัวตนที่จะไปทำอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะให้ปัญญาเกิด ต้องฟัง ต้องศึกษา เท่านั้น สำหรับผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ก็จะเห็นได้ว่า ปัญญาจะค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ เมื่อฟังมากขึ้นๆ ไม่ขาดการฟังพระธรรม ให้เวลากับพระธรรม ความรู้ความเข้าใจถูก ก็ย่อมจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดทั้งปวงนั้น ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น แต่เพื่อความเจริญขึ้นของปัญญา ปัญญาที่ได้สะสมในขณะนี้จากการฟัง การศึกษา พระธรรมในแต่ละครั้งไม่สูญหายไปไหน ยังสะสมสืบต่ออยู่ในจิตทุกขณะ และจะมีกำลังเพิ่มมากยิ่งขึ้น ถ้าได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรมต่อไป ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอกราบขอขอบพระคุณ ที่ได้ให้ความกระจ่างแก่กระผม ผมต้องฟังและศึกษาต่อไป เพื่อจะได้ความรู้ที่ถูก เข้าใจถูกต่อไปครับผม