พระสูตรและอรรถกถา

 
papon
วันที่  20 ก.พ. 2558
หมายเลข  26199
อ่าน  9,676

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

อาจารย์ครับ "พระสูตรและอรรถกถา" แตกต่างกันอย่างไรครับ ควรเริ่มจากการอ่านพระไตรปิฎกจากส่วนไหนครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 20 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสูตร คือ พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่แสดงในเรื่องของสัตว์ บุคคล ที่แสดงกับบุคคลต่างๆ ในสถานที่ต่างๆ ซึ่ง พระไตรปิฎก คือ พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมด ซึ่งเริ่มจากการที่พระเถระในอดีต ผู้มีปัญญามาก มีท่านพระมหากัสสปะ ท่านพระอานนท์ ท่านพระอุบาลี รวบรวม ด้วยการทรงจำไว้ด้วยปัญญาอย่างครบถ้วน โดยไม่ต้องจดบันทึก จึงไม่ได้มีพระสูตรเล่มอื่นๆ ขึ้นมาอีก เพราะท่านพระอานนท์และท่านพระอุบาลีที่ทรงจำ พระอภิธรรม พระสูตร พระวินัย ทรงจำไว้ได้อย่างดีและครบถ้วนแล้วครับ

ก่อนอื่นก็จะต้องเข้าใจคำว่า อรรถกถา ก่อน ว่าคืออะไร อรรถกถา คือ เนื้อความที่อธิบายพระบาลี หรือ คำพระไตรปิฎกให้เข้าใจขึ้นถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ซึ่งในความเป็นจริง ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม ซึ่งก็เป็นพระบาลี เป็นคำในพระไตรปิฎก และพระองค์ก็ทรงอธิบายอรรถ เนื้อความพระธรรมด้วย ซึ่งพระสารีบุตร พระอานนท์ และพระอุบาลี ก็รวบรวมคำสอนของพระพุทธองค์เป็นหมวดหมู่ 3 ปิฎก ให้เรียบร้อย และก็สามารถกล่าวได้ว่าพระสารีบุตร พระอานนท์ และพระอุบาลี ต่างก็เป็นพระอรรถกถาจารย์ คือ อาจารย์ที่อธิบายเนื้อความพระไตรปิฎก ที่พระพุทธเจ้าได้แสดงไว้แล้วนั่นเองครับ

ในความเป็นจริง อรรถกถา ก็เป็นพระธรรมของพระพุทธเจ้านั่นเองครับ เพียงแต่ว่ากล่าวโดยพระสาวก เมื่อพระพุทธเจ้าทรงรับรองคำนั้น ก็ชื่อว่า เป็นพระพุทธพจน์แล้ว ดังนั้น อรรถกถาที่อธิบายเพิ่มเติม ก็เป็นคำที่สาวกของพระพุทธเจ้าไม่ได้แต่งขึ้นใหม่ดังพระสูตรที่อ้างถึง ที่มีคำว่า นักกวีแต่งขึ้นใหม่ แต่อรรถกถาเป็นการอธิบายพระธรรมตามแนวของพระพุทธเจ้า คือ ตามพระบาลี ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงอยู่แล้ว ไม่ได้แต่งให้นอกเหนือจากคำสอนของพระองค์ แต่ที่พระสาวกผู้มีปัญญา ได้อธิบายเป็นอรรถกถา ก็เพื่อความละเอียด เพื่อความเข้าใจของสาธุชนรุ่นหลัง ให้เข้าใจได้ถูกต้อง ไม่เผิน ในพระพุทธพจน์ที่ลึกซึ้งสุดประมาณ ยากต่อการเข้าใจกับหมู่สัตว์ผู้มากไปด้วยความไม่รู้ ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 20 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลกทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โปรดเวไนยสัตว์ ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา สิ่งที่พระองค์ทรงแสดง ก็ไม่พ้นไปจากสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ทรงพร่ำสอนอยู่บ่อยๆ เนืองๆ ก็เพื่อให้ผู้ฟังมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง

ทุกคำในพระไตรปิฎก ทั้งพระสูตร พระวินัย พระอภิธรรม และอรรถกถา ที่อธิบายขยายเนื้อความให้ละเอียดยิ่งขึ้น ก็คือ กล่าวถึงให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงแก่สัตว์โลกนั้นเป็นจริงทั้งหมด ไม่มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ควรอย่างยิ่งที่ผู้ศึกษาจะได้ศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกตามความจริง ความเข้าใจถูกจะเป็นเครื่องป้องกันไม่ให้ตกไปในฝ่ายผิด ดังนั้น จึงต้องเริ่มสะสม อบรมเจริญปัญญาด้วยตนเอง เห็นประโยชน์สูงสุดของปัญญา เพิ่มพูนความเข้าใจถูกเห็นถูกขึ้นไปตามลำดับ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
papon
วันที่ 20 ก.พ. 2558

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

พระสูตรเป็นเรื่องราวสั้นยาวสามารถค้นในพระไตรปิฎก แต่อรรถกถาค้นได้อย่างไรครับ? ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
kullawat
วันที่ 20 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 20 ก.พ. 2558

เรียนความเห็นที่ 3 ครับ

สามารถอ่านอรรถกถาเพิ่มเติม ใน หนังสือพระไตรปิฎกฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 21 ก.พ. 2558

ขอกราบนมัสการอย่างสูงสุดแด่พระรัตนตรัย

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่านเป็นอย่างยิ่ง ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ms.pimpaka
วันที่ 23 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 25 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Jarunee.A
วันที่ 9 มี.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ