สัตว์เลี้ยงกับพิธีกรรมทางศาสนา
ขอเรียนถามว่า สมควรหรือไหม กับ การนำสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข และ แมวเมื่อเสียชีวิตแล้ว ไปประกอบพิธีทางศาสนาพุทธ มีการสวดบังสกุล เผา และนำกระดูก ไปลอยในแม่น้ำซึ่งนิยมปฏิบัติกันมาก
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ในความเป็นจริง สำหรับผู้ที่เสียชีวิต ไม่ว่าคนหรือสัตว์ สิ่งที่ควรทำและเป็นประโยชน์ที่สุด คือ การทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้ เพราะร่างกายก็ปราศไปแล้ว ไม่สามารถทำอะไรได้ ประโยชน์ที่เกิดกับผู้ที่จากไป หากอยู่ในภพภูมที่เหมาะสม ก็คือการทำบุญ อุทิศส่วนกุศล โดยที่สัตว์เดรัจฉานที่ตาย ไม่จำเป็นจะต้องไปทำพิธีตามแบบที่เขาทำกัน เพียงแต่จัดการให้เรียบร้อย และทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ จะสมควรกว่าครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ชีวิตของผู้ที่เกิดมา ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ดิรัจฉาน หรือมนุษย์ ล้วนมีความตายเป็นที่สุดด้วยกันทั้งนั้น เมื่อจุติจิตเกิดขึ้นแล้วดับไป จิตขณะต่อไปคือปฏิสนธิจิตเกิดสืบต่อทันที เกิดเป็นบุคคลใหม่ทันที ไม่สามารถกลับมาเป็นบุคคลนี้ได้อีก สัตว์ที่ตายไปแล้วก็ตายไป และไปตามกรรมของตนเอง ถ้ากรรมดีให้ผลก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ แต่ถ้ากรรมชั่วให้ผลก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ
โดยทั่วๆ ไปแล้ว สัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขตาย แมวตาย ผู้ที่เป็นเจ้าของก็จะนำไปฝังเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะไปจัดพิธีกรรม เพราะการกระทำเหล่านั้นไม่มีผลต่อการเกิดใหม่ของสัตว์นั้นๆ สิ่งที่ควรทำ คือ ทำบุญอุทิศไปให้เท่านั้น
และประโยชน์ที่น่าพิจารณาคือ ตามความเป็นจริงแล้ว แต่ละคนล้วนมีความตายเป็นที่สุดด้วยกันทั้งนั้น แทนที่จะไปคิดเรื่องอื่น ก็ควรที่จะได้พิจารณาว่าก่อนที่วันสุดท้ายของภพนี้ชาตินี้จะมาถึง ควรจะทำอย่างไร จึงจะถูกต้องดีงามเป็นประโยชน์ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ให้มากที่สุด นั่นก็คือ ทำความดี และฟังพระธรรมให้เข้าใจ สะสมเป็นอุปนิสัยที่ดี ซึ่งจะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงสำหรับชีวิต เพราะอกุศลธรรมพึ่งไม่ได้เลย สิ่งที่จะเป็นที่พึ่งได้นั้น ต้องเป็นธรรมฝ่ายดีเท่านั้นจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก [ปัญญา] ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...