ไปฟังธรรมที่ไหนดี

 
pdharma
วันที่  25 ก.พ. 2558
หมายเลข  26230
อ่าน  1,872

"การที่ปัญญาจะมีมากได้ ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก" อยากเรียนถามว่า คฤหัสถ์ควรไปฟังธรรมที่ไหน (เช่น บนสวรรค์หรือบนพรหมโลก มีศาลาฟังธรรม หรือสถานที่ที่มีการแสดงธรรมที่เรียกว่า ศาลาสุธรรมมาหรือสุธรรมาสภา เมื่อมีพระอริยเจ้ามาแสดงธรรม) คฤหัสถ์นี้มีความหลากหลาย เช่น ชาวนาชาวไร่ ฯลฯ ที่ไม่มี internet ไม่มีพระไตรปิฎก กับที่อยู่ในเขตเมืองเข้าถึง internet เข้าถึงพระไตรปิฎกได้ง่าย สถานที่ที่ไปฟังธรรมก็เป็นสถานที่ที่จะไปพบกัลยาณมิตรด้วย....เมื่อต้องเริ่มจากการฟังพระธรรม ควรไปฟังธรรมที่ไหนดี

ขอขอบพระคุณ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 25 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การฟังพระธรรมเป็นความดี แต่พระธรรมก็เป็นสิ่งที่จะต้องสะสมมา คือ ได้ทำบุญไว้แต่ชาติปางก่อน ผู้ที่ไม่ได้สะสมมาก็ไม่มีโอกาสจะได้ยินในพระธรรมที่ถูกต้อง แม้จะอยู่ในสถานที่ใกล้ที่จะได้ฟัง ก็ไม่มีโอกาสได้ฟัง แม้มีพระไตรปิฎก ก็ไม่มีการได้อ่าน นี่แสดงถึง กุศลวิบาก คือ ผลของกุศลที่จะได้รับ เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่า จะไปฟังธรรมที่ไหนดี ก็คือ ที่ที่ได้มีโอกาสที่ได้ยินได้ฟังเมื่อไหร่ ที่นั้นก็เป็นสถานที่ที่ได้ฟังพระธรรม ควรฟัง เพราะขณะนั้นเกิดกุศลวิบากทางหูที่จะได้ยินแล้ว พร้อมแล้วในขณะนั้น จะเป็นชาวนา ชาวไร่ ห่างไกล หากได้สะสมบุญมา ก็ได้มีโอกาสฟังพระธรรม เช่น เปิดวิทยุ เอเอ็ม หมุนเปิดเจอ ก็ได้ สถานที่นั้นก็เป็นที่ที่สมควรของบุคคลนั้นแล้ว หรือ บุคคลใด อยู่ที่ไหน ได้มีโอกาสเปิดโทรทัศน์เจอ ช่อง 11 ตอนเวลา 05.00 น.โดยบังเอิญ และได้มีโอกาสฟัง และเข้าใจ สถานที่บ้านนั้นก็เป็นที่ที่สมควร ที่ควรแก่การฟังธรรมในขณะนั้น หรือเทวดาทั้งหลายก็มี ศาลาสุธรรมา ที่ประชุมสนทนาธรรมกัน สถานที่นั้นก็เหมาะสมควรกับบุคคลนั้น เทวดาองค์นั้นในขณะนั้น หรือมนุษย์ ไปต่างประเทศ แต่มีการสนทนาธรรม ฟังธรรมกัน สถานที่นั้นก็เป็นสถานที่ที่เหมาะสม สถานที่ที่ควรค่าแก่การฟังพระธรรม อบรมปัญญาในขณะนั้น จะเห็นได้ว่าไม่มีการจำกัดเฉพาะเลยว่าสถานที่ใดเหมาะสมแก่การฟังที่สุด เพราะบุญที่ประกอบด้วยปัญญา ไม่เลือกสถานที่ และการได้มีโอกาสได้ยินได้ฟัง เป็นเรื่องของ วิบาก ผลของกรรมของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันไป โดยที่ไม่เลือกสถานที่ ที่ใดกุศลให้ผล ก็ได้ฟังณ สถานที่นั้น ครับ

เพราะฉะนั้น ก็ค่อยๆ เริ่มมีโอกาสฟัง ศึกษาพระธรรมจากสื่อใด สถานที่ใดก็ได้ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจ ก็เป็นที่ที่สมควรแล้วในขณะนั้น และ กัลยาณมิตร คือ พระธรรม ก็จะเกื้อกูลบุคคลนั้นให้เกิดปัญญาในที่สุด ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
napachant
วันที่ 25 ก.พ. 2558

จะเห็นได้ว่า...ไม่มี "เรา"ที่จะไปเลือก ว่าจะได้ยินได้ฟังที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาใด... เพราะถ้ามี "เรา"...ก็คงจะเลือกไปฟังได้ทุกๆ ที่ต้องการตามอัธยาศัย...แต่เพราะได้เคยฟังมาเคยสะสมการฟังมา จึงมีโอกาสได้ฟัง...และไม่ว่าจะฟังที่ไหน ถ้ามีความเข้าใจในขณะนั้น ที่นั่นก็เป็นที่ ที่สมควรแก่การฟังเสมอ...

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 25 ก.พ. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่มีค่า ประเสริฐที่สุด คือ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่มีโอกาสได้ฟัง ไม่มีโอกาสได้ศึกษา ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจเลย บุคคลผู้ที่ฟัง ศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบเท่านั้น ถึงจะเข้าใจและได้รับประโยชน์จากพระธรรมอย่างแท้จริง

การมีโอกาสไดัฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ต้องเป็นผู้เคยเห็นประโยชน์ของพระธรรมมาแล้ว มีศรัทธาที่จะฟังที่จะศึกษา ถ้าไม่เห็นประโยชน์ก็จะไม่ฟังเลย แต่ละคนก็เป็นไปตามการสะสมจริงๆ แม้ในสมัยพุทธกาลเอง ผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ก็มีเป็นส่วนน้อย แล้วในสมัยนี้แล้วจะน้อยสักแค่ไหน หนทางที่จะทำให้หลงนั้นมีมากจริงๆ ถ้าไม่อาศัยพระธรรมแล้ว ไม่มีทางที่จะเข้าใจถูกเห็นถูกได้เลย จึงเป็นผู้ที่สะสมบุญมาแล้วแต่ชาติปางก่อนเท่านั้นที่จะไดัฟังได้ศึกษาพระธรรม หาฟังได้ยากมาก เพราะบุคคลผู้รู้ความจริงแล้วแสดงความจริงนั้นหายาก เพราะฉะนั้นในยุคนี้สมัยนี้พระธรรมยังดำรงอยู่ บุคคลผู้เป็นกัลยาณมิตรมีความเข้าใจถูกเห็นถูกที่จะเกื้อกูลให้ได้เข้าใจความจริง ก็ยังมีอยู่ ก็เป็นโอกาสที่ดียิ่งที่จะได้ฟังได้ศึกษาสะสมปัญญาต่อไป ดังนั้น จึงเป็นเรื่องของการสะสมและการเห็นประโยชน์ของพระธรรมของผู้นั้นจริงๆ ซึ่งจะต้องไม่ลืมว่า เพราะเหตุคือบุญที่ได้กระทำไว้แล้วแต่ปางก่อน ซึ่งเป็นบุญที่ประกอบด้วยปัญญา จึงทำให้ผู้นั้นได้เกิดในถิ่นที่มีพระธรรมคำสอน ได้คบกับบุคคลผู้มีปัญญา และได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไป ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nopwong
วันที่ 25 ก.พ. 2558

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
yupa
วันที่ 27 ก.พ. 2558

ณ วันนี้ ต้องบอกว่า การฟังธรรม เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ เป็นอย่างยิ่ง เพระการฟัง เป็นการสะสมปัญญา ที่รอกาลเวลา ที่จะเข้าใจถูก เห็นถูก โดย ไม่ไปทำอย่างอื่น (โดยส่วนตัว เมื่อใดตั้งใจฟัง และ พิจารณาสิ่งที่ได้ฟัง จิตก็สงบขึ้นบ้าง ตามกำลัง)

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ดวงทิพย์
วันที่ 27 ก.พ. 2558

จักร 4 กงล้อหมุนไปสู่ความเจริญ

1.ปฏิรูปเทสวาสะ การอยู่ในที่ที่ได้เข้าใจพระธรรมเพิ่มขึ้น

2.สัปปุริสูปัสสยะ การคบสัตบุรุษ

3.อัตตสัมมาปณิธิ การตั้งตนไว้ชอบ ตั้งจิตไว้ชอบ

4.ปุพเพกตปุญญตา การเป็นผู้เคยทำบุญไว้แต่ปางก่อน

สาธุขออนุโมทนาคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ms.pimpaka
วันที่ 27 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Patchanon
วันที่ 27 ก.พ. 2558

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
peem
วันที่ 27 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
แต้ม
วันที่ 27 ก.พ. 2558

ผมฟังพระธรรมจากทั้งพระและฆราวาสแล้วก็นำมาพิจารณาใตร่ตรองว่าเป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้หรือไม่ และพอได้ศึกษาพระธรรมจากพระไตรปิฎกก็มีปัญญาเพิ่มขึ้น ก็พอจะทราบว่าสิ่งที่เราได้ฟังมานั้นมีทั้งถูกต้องและไม่ค่อยถูกต้อง ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในกาลามสูตรเรื่องความเชื่อ ขอให้ตั้งใจฟังธรรมและศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง ผมเชื่อมั่นว่าเราจะเกิดปัญญาอย่างแน่นอน และในปัจจุบันนี้มีสื่อเทคโนโลยีสะดวกมากในการค้นคว้าพระธรรม ฉะนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่ควรจะรีบศึกษาพระธรรม ถึงจะช้าเกินไปแต่ก็ไม่สายเกินไปนะครับ (เพราะยังไม่ตาย แล้วจะรู้หรือไม่ว่าจะตายเมื่อไร)

ขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 28 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
rjanmod
วันที่ 28 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
wannee.s
วันที่ 6 มี.ค. 2558

ธรรมะไม่สาธารณะกับทุกคน ผู้ทีเคยสะสมบุญมาแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ประเทศไหน ก็มีเหตุปัจจัยให้ได้ยินได้ฟังธรรมตามการสะสมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
Jarunee.A
วันที่ 18 ก.พ. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ