ข่าว มศพ. ดำเนินการซ่อมหลังคาพระวิหารมูลคันธกุฎี ที่ สารนาท พาราณสี

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พลตรี ดร.วีระ พลวัฒน์ กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ได้กรุณาให้ข้อมูลของการดำเนินการซ่อมแซมหลังคาพระวิหารมูลคันธกุฎี เมืองสารนาท พาราณสี ประเทศอินเดีย ว่า ทางมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ได้รับการร้องขอจากท่านพระเรวัตตะ เถระ เลขาธิการสมาคมมหาโพธิ์ ประเทศอินเดีย (Ven. Dr. D. Rewatha Thero General Secretary Maha Bodhi society of India) เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ และ ให้ทางมูลนิธิฯ เข้าไปตรวจสอบสภาพหลังคาของพระวิหารมูลคันธกุฎี (Mulaganta Kuty Vihara) ที่มีอายุมากกว่า ๘๐ ปีแล้ว

เพื่อขอให้ทางมูลนิธิฯ พิจารณาอนุเคราะห์ช่วยเหลือเป็นการด่วน จากปัญหาการรั่วซึมของหลังคา ที่ทำให้น้ำฝนสามารถเข้ามาได้ จนทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของวัสดุหลังคาบางส่วน และทำความเสียหายให้แก่ลักษณะอันทรงคุณค่าของส่วนประกอบหลายส่วน ภายในอาคารตามภาพด้านล่าง

สังเกตจากภาพ จะเห็นรอยหลุดร่อนของวัสดุเคลือบ กับร่องรอยการแตกร้าวที่พื้นหลังคา หลังจากการสำรวจความเสียหายแล้ว ได้พิจารณาให้การแก้ปัญหาในเบื้องต้น โดยการใช้วัสดุที่ให้คุณสมบัติในการเคลือบ ที่แข็งแรง ทาทับลงไป ทำให้สามารถป้องกันการรั่วซึมของน้ำฝนผ่านมาได้ จนปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม การทาซ่อมทับผิวหลังคาที่ผ่านมา มศพ. ไม่เห็นว่าเป็นการซ่อมที่สามารถคงทน และมีอายุการใช้งานได้นานหลายปีกว่าที่จะมีการดำเนินการรื้อหลังคาทั้งหมดแล้วสร้างขึ้นใหม่ เพราะยังมีการดำเนินการที่ต้องการ ทั้งขีดความสามารถขององค์กรประเทศอินเดีย ที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเป็นทางการ และกำลังสนับสนุนจากหลายด้านในการดำเนินการจนได้รับการยอมรับของส่วนรับผิดชอบต่างๆ ตามความจำเป็น มศพ.จึงได้เสนอแนวปฏิบัติในปัจจุบัน ที่เห็นสมควรและเหมาะสมในการดำเนินงานแก้ไข ให้หลังคาดังกล่าว มีคุณสมบัติทนทานสภาพการเสื่อมที่อาจเกิดได้จากธรรมชาติของฝนที่มากระทบในฤดูทุกๆ ปี ต่อไปสัก 20 ถึง 30 ปี ก่อนที่ทางสมาคมมหาโพธิ์ จะได้รับการช่วยในระดับที่จะทำให้หลังคาฯ นั้นมีอายุยืนยาวเป็นตลอดการที่สมควรต่อไป

(ภาพเขียนพุทธประวัติภายในพระวิหาร โดยศิลปินชาวญี่ปุ่น นายโกเซทซุ โนสุ)

ซึ่งทาง มศพ. โดยการนำของ ท่านพลตรี ดร.วีระ พลวัฒน์ จะดำเนินการในการสร้างโครงสร้างพื้นหลังคา โดยใช้ Composite เสริมแรงด้วยวิธี Roof Building up ที่จะดำเนินการโดยวัสดุ Elastic Composite เสริมแรงด้วย Glass Fabric ที่สั่งทอพิเศษจากเมืองไทย Elastomer Bonding Materials เป็น Chemical ลักษณะเหนียว เกาะยึดติดแต่อ่อนตัวดี เป็นตัวยึดโครงสร้างระหว่างชั้นวัสดุที่ใช้ใน Composite เช่น Asphalt โพลิเมอร์และยางเป็นต้น ในงานนี้ มศพ.ใช้ elastic & resilient acrylic polymers ที่ทนน้ำ มีความสามารถในงานตากแดดตากฝนเป็นเยี่ยม วัสดุเคมีด้านล่างนี้ ต้องเตรียมการจัดหาในประเทศอินเดีย เท่านั้น นำเข้าไปไม่ได้ คือ

1. วัสดุใช้ซ่อมอุดรอยแตกร้าว ป้องกันการซึมลึกเข้าเนื้อวัสดุหลัก

2. ตัว acrylic polymers Coating

สำหรับเครื่องมือที่จะใช้ฉีดพ่นเคมีดังกล่าว ทาง มศพ. ได้ดำเนินการจัดส่งไปแล้วตั้งแต่เมื่อต้นปี ๒๕๕๗

(ภาพแสดงชุด Airless Sprayer Machine จัดส่งไปเมื่อต้นปีที่แล้ว มีทั้งหมด 10 ชิ้น)

อนึ่ง พระวิหารมูลคันธกุฎี ที่สารนาทแห่งนี้ นอกจากจะเป็นโบราณสถานสำคัญที่สร้างขึ้นในสมัยของท่านอนาคาริกธัมมปาละ (Anagarika Dhammapala) (เกิด 17 กันยายน พ.ศ. 2407 มรณภาพ 29 เมษายน พ.ศ. 2476) ซึ่งเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมหาโพธิ์ และ เป็นผู้เรียกร้องเอาพุทธสถานในอินเดียกลับคืนมาเป็นของชาวพุทธแล้ว พระวิหารมูลคันธกุฎีแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารรีริกธาตุ ขององค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในพระรัตนบุษยภาชน์ อันงดงามและมีค่ายิ่ง ที่ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ได้รับโอกาสให้สร้างและนำไปถวายไว้เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ ท่านสามารถชมวีดีโอ พิธีมอบในวันดังกล่าวด้านล่าง

ทั้งนี้ ท่านพลตรี ดร.วีระ พลวัฒน์ ได้แจ้งว่า ท่านจะพาคณะวิศวกรชาวไทยเดินทางไปดำเนินการซ่อมแซมหลังคาพระวิหารมูลคันธกุฎีดังกล่าว เร็วๆ นี้ เพื่อให้สถานที่ดังกล่าว ซึ่งเปรียบเสมือนที่ประทับของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความมั่นคง ทนทาน และ งดงาม สืบไป จนตลอดอายุพระศาสนา ข่าวความคืบหน้า จะแจ้งให้ทุกท่านทราบ ในลำดับต่อไป

ขออนุโมทนา