วิหารธรรมในขณะฟังธรรม

 
pdharma
วันที่  3 มี.ค. 2558
หมายเลข  26266
อ่าน  1,890

ในขณะฟังธรรม เช่น ขณะฟังจากวิทยุ mp3 หรือจากการสนทนา แล้วเกิดความเข้าใจขึ้นไปเป็นลำดับ ในขณะนั้นมีวิหารธรรมใดเกิดขึ้นหรือไม่ครับ และช่วยขยายความคำว่า วิหารธรรม ให้เข้าใจมากขึ้นด้วย

ขอบคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 3 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

วิหารธรรม คือ เป็นเครื่องอยู่ อยู่อย่างไร คือ อยู่ด้วยความสงบจากกิเลส ขณะที่เกิดจิตที่ดีงามบ่อยๆ ขณะนั้นมีเครื่องอยู่ที่เป็นสุข ซึ่งธรรมเป็นเครื่องอยู่ก็มีหลายนัย เช่น เมตตาภาวนา รวมทั้งอนุสสติ ดังนี้

๑. พุทธานุสสติ (ระลึกถึงพระพุทธเจ้า : อนุสสติที่เกิดขึ้นเพราะปรารภพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์)

๒. ธัมมานุสสติ (ระลึกถึงพระธรรม : อนุสสติที่เกิดขึ้นเพราะปรารภพระธรรมเป็นอารมณ์)

๓. สังฆานุสสติ (ระลึกถึงพระอริยสงฆ์ : อนุสสติที่เกิดขึ้นเพราะปรารภพระสงฆ์เป็นอารมณ์)

๔. สีลานุสสติ (ระลึกถึงศีล : อนุสสติที่เกิดขึ้นเพราะปรารภศีลเป็นอารมณ์)

๕. จาคานุสสติ (ระลึกถึงจาคะ : อนุสสติที่เกิดขึ้นเพราะปรารภจาคะคือการสละ, การบริจาคเป็นอารมณ์)

๖. เทวตานุสสติ (ระลึกถึงเทวดา ได้แก่ ระลึกถึงคุณธรรมที่ทำให้เป็นเทวดา คือ ศรัทธา ศีล สุตะ (การสดับตรับฟังพระธรรม) จาคะ และ ปัญญา แม้ตนเองก็มีคุณธรรม เช่นนั้น)

เพราะฉะนั้น ธรรมที่เป็นเครื่องอยู่ คือ ต้องเกิดบ่อยๆ กับบุคคลนั้น เพราะฉะนั้นเพียงฟังธรรม แล้วเข้าใจขึ้น ขณะนั้นเป็นกุศลก็จริงแต่ไม่ได้เกิดบ่อยๆ ต่อเนื่อง ที่จะสามารถระลึกถึงได้บ่อยๆ ก็ไม่ถึงกับเป็นธรรมเครื่องอยู่ นอกเสียจากฟังธรรมแล้วระลึกถึงคุณของพระธรรม จิตสงบได้บ่อยๆ เป็นธัมมานุสสติ ก็มีธรรมเครื่องอยู่ให้เป็นสุขครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 3 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขณะที่ฟังพระธรรมเข้าใจ ขณะนั้นเป็นกุศล เป็นความดี เป็นกุศลแล้ว ในขณะที่ฟังพระธรรม ซึ่งก็หมายรวมถึงการพิจารณาไตร่ตรอง การสนทนา การสอบถามจากกัลยาณมิตรผู้ที่มีปัญญาด้วย ทั้งหมดทั้งปวงนั้นเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาทั้งสิ้น แต่จะเจริญขึ้นมากน้อยแค่ไหนนั้น ย่อมขึ้นอยู่ที่การสะสมมาของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว ถ้าไม่ขาดการฟัง มีความคุ้นเคยกับการฟังพระธรรม ฟังบ่อยๆ เนืองๆ ถึงอย่างไรก็ต้องเข้าใจอย่างแน่นอน

​ ผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ก็เพื่อประโยชน์ที่จะได้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ แต่ถ้าไม่ฟังพระธรรม เว้นจากการฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเสียแล้ว จะไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ได้เลย ก็น่าจะพิจารณาได้ว่า ก่อนที่จะได้ฟังพระธรรม มีธรรมเป็นเครื่องอยู่หรือยัง และเมื่อได้ฟังแล้ว มีธรรมเป็นเครื่องอยู่หรือยัง? เพราะขณะใดที่อบรมเจริญปัญญาและเจริญกุศลประการต่างๆ ขณะนั้นก็มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ คือ มีกุศลธรรมประการต่างๆ มี ปัญญา ที่เข้าใจถูกเห็นถูก เป็นต้น เป็นเครื่องอยู่ โดยอาศัยจากการฟัง แล้วเข้าใจ และเห็นประโยชน์ของการที่จะได้เข้าใจความจริงยิ่งขึ้นต่อไป เพราะเหตุว่า กุศลธรรมทั้งหลายจะเจริญขึ้นได้ ก็เพราะมีปัญญาที่ค่อยๆ เข้าใจเพิ่มขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้นแล้ว ก็ควรอย่างยิ่งที่จะได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก สะสมเป็นที่พึ่งให้กับตนเองต่อไป เพราะประโยชน์สูงสุดของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้น อยู่ที่การมีโอกาสได้สะสมปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 3 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
วิริยะ
วันที่ 4 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
tanrat
วันที่ 4 มี.ค. 2558

ระลึกสภาพธรรมะที่ปรากฏ ทุกขณะที่ระลึกได้ กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Patchanon
วันที่ 4 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
thilda
วันที่ 4 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 6 มี.ค. 2558

ปกติจิตของปุถุชนเศร้าหมองด้วยโลภะ โทสะ โมหะ จึงต้องอาศัยธรรมะที่เป็นเครื่องอยู่ ที่ทำให้จิตผ่องใสเบิกบานสงบจากอกุศลชั่วขณะ เช่น ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ปวีร์
วันที่ 6 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
j.jim
วันที่ 11 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ms.pimpaka
วันที่ 24 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ก.ไก่
วันที่ 16 พ.ค. 2565

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Jarunee.A
วันที่ 3 ก.พ. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ