หวั่นไหว

 
nattawan
วันที่  13 มี.ค. 2558
หมายเลข  26306
อ่าน  995

ความหวั่นไหว ไม่หวั่นไหวในอารมณ์ต่างๆ ที่เป็นอกุศล กับความหวั่นไหว ไม่หวั่นไหวในศรัทธาในพระรัตนตรัย ขอความคิดเห็นและคำอธิบายเพิ่มเติมด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 13 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

-โดยธรรมดาของบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่นั้น กุศลจิตย่อมเกิดมากกว่ากุศล มีความหวั่นไหว ไม่คงที่ ไม่สงบ ด้วยอำนาจของกุศลประการต่างๆ มากมาย มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เป็นความจริงที่ว่า เมื่อมีกิเลสที่ยังไม่ได้ดับ จิตย่อมหวั่นไหวไปในอารมณ์ต่างๆ ด้วยอกุศลธรรม หลังเห็น หลังได้ยิน หลังได้กลิ่น เป็นต้น จิตก็ย่อมหวั่นไหวไป เป็นไปในทางกุศล มีความติดข้องพอใจบ้าง ไม่พอใจบ้าง เมื่อกุศลมีกำลังมากขึ้น สะสมมากขึ้น ก็ทำให้หวั่นไหวไปในการประพฤติล่วงออกมาทางกาย ทางวาจาที่เป็นการกระทำกุศลกรรม ซึ่งนอกจากจะเบียดเบียนตนเองโดยตรงแล้ว ยังเป็นไปเพื่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นอีกด้วย นี้คือความเป็นจริงของปุถุชนผู้มากไปด้วยกิเลส ในขณะที่กุศลธรรมเกิดขึ้น ก็ไม่เอนเอียงไปทางฝ่ายที่เป็นอกุศล ชั่วขณะที่เป็นกุศล แต่ก็ยังมีโอกาสที่อกุศลจะเกิดขึ้นได้อีก หวั่นไหวได้อีก เพราะยังมีกิเลสอยู่นั่นเอง พระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่หวั่นไหว ท่านเป็นผู้คงที่ ไม่หวั่นไหวไปด้วยอำนาจของกุศล อันเนื่องมาจากการเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก เพราะท่านดับกิเลสได้ทั้งหมดแล้ว ดังนั้น ขณะที่เป็นกุศล ชื่อว่า หวั่นไหว ปุถุชนหวั่นไหวเป็นอย่างมาก ส่วนพระอรหันต์ทั้งหลายไม่หวั่นไหวเลย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผู้ที่หมดกิเลสแล้ว กับ ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่นั้น แตกต่างกันอย่างเทียบกันไม่ได้เลยทีเดียว

-ศรัทธาที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวนั้น เป็นศรัทธาของพระอริยบุคคล ผู้ที่ได้ประจักษ์แจ้งความจริง ดับกิเลสตามลำดับขั้น ตั้งแต่พระโสดาบัน จนถึงพระอรหันต์ เป็นผลมาจากการได้อบรมเจริญปัญญา มีความเชื่อมั่นในพระปัญญาตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เชื่อมั่นในพระธรรมคำสอนที่พระองค์ทรงแสดงว่า เป็นพระธรรมที่นำออกจากทุกข์ได้จริง และมีผู้ที่ได้ตรัสรู้ตามพระองค์ ในฐานะที่เป็นสาวก แต่สำหรับปุถุชน แม้ว่าจะได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมบ้าง แต่ศรัทธายังไม่มั่นคง บางท่านในตอนแรกฟังพระธรรม แต่ต่อไปอาจจะไม่ฟังก็ได้ เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ไม่เหมือนกับผู้ที่เป็นพระอริยบุคคล ซึ่งเป็นผู้มีศรัทธามั่นคง ไม่หวั่นไหวในพระรัตนตรัย ใครจะมาบอกให้ท่านกล่าวว่า พระพุทธเจ้าไม่ใช่พระพุทธเจ้า พระธรรมไม่ใช่พระธรรม พระอริยสงฆ์ไม่ใช่พระอริยสงฆ์ ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระอริยบุคคล ครับ

... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
napachant
วันที่ 14 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 14 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 14 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
isme404
วันที่ 14 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 14 มี.ค. 2558

พระโสดาบันมีศรัทธามั่นคงในคุณของพระรัตนตรัยไม่หวั่นไหว ส่วนปุถุชนมีศรัทธาไม่มั่นคง ย่อมหวั่นไหวไปกับอกุศลเป็นธรรมดา ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
papon
วันที่ 15 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 16 มี.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ดวงทิพย์
วันที่ 17 มี.ค. 2558

สาธุคะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 19 มี.ค. 2558

ขณะใดที่อกุศลจิตเกิดย่อมหวั่นไหว กุศลจิตเกิดขณะใดไม่หวั่นไหว พระอริยบุคคลทั้งหลายมีศรัทธาไม่หวั่นไหวในพระรัตนตรัย...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของ อ.คำปั่น และทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Jarunee.A
วันที่ 21 ม.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ