ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๘๗
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรม จากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๘๗
# เมื่อไม่รู้สภาพธรรม ไม่รู้หนทางที่จะประจักษ์แจ้งในสภาพที่ไม่ใช่ตัวตน ก็แสวงหาหนทางอื่น แล้วก็เข้าใจผิด
# การที่จะรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ไม่เกี่ยวกับเรื่องสีของเครื่องนุ่งห่ม
# ขณะใดที่คิดที่จะให้ทาน หรือกำลังทำทานก็ตาม ขณะนั้นไม่ใช่ตัวตน เมื่อไม่ใช่ตัวตนแล้วเป็นอะไร ก็จะต้องเป็นจิตและเจตสิก เพราะฉะนั้น ก็จะต้องเป็นโสภณเจตสิก ซึ่งจะขาดสติไม่ได้เลย ทุกขณะที่กุศลจิตเกิด จะต้องมีสติเจตสิกเกิดร่วมด้วย
# ปัญญาเกิดหรือไม่เกิด คนอื่นจะรู้ไม่ได้เลย นอกจากขณะนั้นปัญญากำลังเกิด บุคคลนั้นก็รู้ลักษณะของปัญญา เพราะเหตุว่าลักษณะของปัญญาปรากฏ ปัญญา คือ สภาพที่เข้าใจ รู้สิ่งที่กำลังปรากฏพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ ไม่มีความสงสัย ในขณะที่สงสัย ไม่ใช่ปัญญา
# ผู้ที่เกิดเป็นมนุษย์ เวลาที่จุติ สิ้นชีวิตลงแล้ว ไปสู่อบายภูมิได้ทั้ง ๔ จะเกิดในนรกก็ได้ เกิดเป็นเปรตก็ได้ เป็นอสุรกายก็ได้ เป็นสัตว์ดิรัจฉานก็ได้ ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม และก็สามารถจะไปสู่สวรรค์ได้ทั้ง ๖ ชั้น แล้วแต่ว่าจะเป็นผลของกุศลกรรมใด
# ถ้ายังไม่เป็นพระอริยบุคคล ก็ยังจะเกิดได้ในอบายภูมิ เมื่อเป็นผลของอกุศลกรรม
# ดิรัจฉานกถา คือ พูดเรื่องอื่นซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะให้กุศลเจริญขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม
# การฟังพระธรรมที่จะรู้ว่าเป็นพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงจากการตรัสรู้ของพระองค์ก็คือการฟังเรื่องของสิ่งที่มีจริงและที่กำลังปรากฏ จนเพิ่มความเข้าใจขึ้น จนถึงขั้นที่สามารถอบรมเจริญปัญญา ที่ประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมนั้นๆ ตามความเป็นจริงได้
# ในขณะที่ได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจ ได้ยินกันบ่อยๆ เสียงดัง เสียงซึ่งไม่เพราะหู ในขณะนั้นถ้าไม่มีอกุศลกรรมเป็นปัจจัย อกุศลวิบากก็เกิดขึ้นได้ยินเสียงนั้นไม่ได้
# สำหรับอกุศลกรรมที่ทุกคนมี ไม่ใช่แต่เฉพาะชาตินี้ชาติเดียว แม้ในอดีตอนันตชาติมาแล้ว ไม่สูญหาย เมื่อถึงขั้นที่สำเร็จเป็นอกุศลกรรมบถที่ครบองค์ ย่อมเป็นปัจจัยที่จะทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดได้ แม้ว่าเป็นกรรมที่ได้กระทำมาแล้วแสนโกฏิกัปป์ก็ตาม ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม เวลาที่ใกล้จะตาย ก็จะทำให้อกุศลจิตเกิด
# ถ้าเป็นผู้ที่เจริญกุศลอยู่เรื่อยๆ เห็นสิ่งใดก็เป็นกุศล เวลาที่ใกล้จะตายจริงๆ การสะสมกุศลนั้นก็อาจจะทำให้จิตผ่องใสได้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถจะบอกได้จริงๆ ว่า เมื่อจากโลกนี้แล้ว ใครจะไปสู่ที่ไหน
# สัตว์ดิรัจฉานก็เกิดเป็นมนุษย์ได้ ทุกคนก็คงสงสัยใช่ไหม ว่ากรรมอะไรจะทำให้สัตว์ดิรัจฉานเกิดเป็นมนุษย์ ก็ต้องมีอดีตกุศลกรรมที่ได้กระทำแล้วนั่นเองเป็นปัจจัย และสำหรับมนุษย์ที่จะไปเกิดในอบายภูมิ ก็ต้องเป็นผลของอกุศลกรรมนั้นเองเป็นปัจจัย
# ประมาทไม่ได้เลยจริงๆ เพราะว่าไม่รู้ภูมิต่อไป แต่ถ้าเป็นผู้ที่สะสมบุญอยู่สม่ำเสมอเรื่อยๆ ก็มีโอกาสที่จะทำให้สุคติ พอหวังได้ เป็นที่หวังได้ เหมือนกับการเกิดในชาตินี้ ในภูมิมนุษย์นี้ ต้องเป็นผลของกุศล เป็นผลของกุศลกรรมหนึ่ง ซึ่งก็ยากแสนยากที่จะทำให้เกิดในภูมิมนุษย์ แต่ทุกท่านก็ได้เกิดมาแล้วเป็นมนุษย์ด้วยผลของกุศลกรรม
# การกลับมาเป็นมนุษย์นี้ ไม่ใช่ของง่าย เพราะเหตุว่าชีวิตในวันหนึ่งๆ อกุศลจิตเกิดมากกว่ากุศลจิต แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเพียงอกุศลจิต ยังไม่ถึงอกุศลกรรม ก็เพียงแต่สะสมเป็นอุปนิสัย ทำให้มีความพอใจมากมายทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ โดยง่าย หรือว่าทำให้เป็นผู้ที่เจ้าโทสะ หรือทำให้เป็นผู้ที่ริษยาหรือว่ามีความตระหนี่มาก นั่นก็เป็นอกุศลจิต ที่ยังไม่ใช่ขั้นอกุศลกรรม แต่ถ้าเป็นอกุศลกรรมแล้ว ก็ทำให้อกุศลวิบากจิตเกิดได้
# ไม่ใช่ว่าเพียรผิดๆ ก็ควรจะเพียร, แต่ต้องระวังอย่างมากที่สุดว่า ต้องไม่เพียรผิด เพราะว่าบางท่านเพียรมากที่จะปฏิบัติธรรม แต่ว่าไม่ได้พิจารณาข้อปฏิบัตินั้นว่า สมควรแก่การที่จะเพียรหรือเปล่า เพราะเหตุว่า ถ้าเป็นความเห็นผิด เมื่อเพียรไป ผลที่ได้ก็คือความเห็นผิด ไม่ใช่ความเห็นถูก
# คำสอนใดที่ทำให้เข้าใจความจริง คำสอนนั้นเป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
# กำลังเห็น ในขณะนี้ ใครจะเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นได้ไหม?
# ตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ก็ดำเนินไปผิดทาง ที่เป็นมิจฉาปฏิปทา โดยตลอด
# ต้องเป็นผู้ ตรง ละเอียด จริงใจ ในการศึกษาพระธรรม
# คำสอนของคนอื่น ไม่สามารถทำให้เข้าใจความจริงจนสามารถดับกิเลสได้
# คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ ทำให้เข้าใจถูกเห็นถูก
# ไม่ประมาทในแต่ละคำ แม้แต่คำว่า ธรรม
# ถ้าไม่มีความเข้าใจถูกในพระธรรมวินัย ทำอย่างไร ก็ผิดทั้งนั้น
# พระพุทธศาสนา (พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า) เหมาะสมที่สุดแล้ว ไม่ต้องคิดเรื่องปฏิรูปเลย แต่คิดเรื่องที่จะศึกษาพระพุทธศาสนาคำสอนที่ถูกต้อง เพราะผู้ที่คิดจะปฏิรูปเข้าใจพระธรรมหรือเปล่า? ถ้าศึกษาแล้วจะไม่คิดที่จะปฏิรูป แต่ว่าคิดว่าจะต้องศึกษาพระธรรมวินัยเท่านั้น.
ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๘๖
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอกราบอนุโมทนาในกุศลวิริยะ ของ อ. คำปั่น อักษรวิลัย เป็นอย่างยิ่งค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย เป็นอย่างยิ่งครับ
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ
แล้วเวลาผ่านเลยมาสองพันห้าร้อยกว่าปี ก็ยังมีผู้ไม่สามารถที่จะพิจารณาในธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว โดยคิดเอง แต่งเติมเองบ้างโดยมีความเห็นผิดเข้าใจผิดในสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ ไม่ได้ศึกษาธรรมด้วยความรอบคอบ นำมาซึ่งการปฏิบัติผิด การบรรลุก็ผิด เมื่อปริยัติเสื่อม ปฏิบัติก็ปลอม ปฏิเวธก็ปลอม
...ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่นด้วยค่ะ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขอบพระคุณอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะ กุศลศรัทธา ของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ