อยากสอบถามบุคคลหรือผู้ที่ถูกห้ามฌาน มรรคผล นิพพานครับ

 
สืบต่อพุทธ
วันที่  23 มี.ค. 2558
หมายเลข  26356
อ่าน  1,005

อยากสอบถามบุคคลหรือผู้ที่ถูกห้ามฌาน มรรคผล นิพพานครับ

ไม่ทราบใช่ พวกอบายภูมิ คนปัญญาอ่อน กะเทย (คนสองเพศหรือไม่มีเพศ) ตาบอด เป็นใบ้ใช่ไหมครับ แล้วทำไมถึงไม่สามารถทำฌาน มรรคผล นิพพานได้ครับ

ขอบคุณครับ สาธุ สาธุ สาธุครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 23 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การเกิดเป็นผลของกรรม การเกิดเป็นมนุษย์ต้องเป็นเพราะผลของกรรมที่ดี คือ เป็นกุศลวิบาก อันเกิดจากเหตุคือการกระทำกุศลกรรมไว้ แต่ในความเป็นจริง กุศลกรรมที่ทำนั้น มีความแตกต่าง ตามระดับความประณีตของกุศลที่แตกต่างกัน กุศลบางประเภทมีกำลัง ประกอบด้วยปัญญา เป็นต้น กุศลบางประเภทไม่ประกอบด้วยปัญญาก็มีกำลัง ประณีตน้อยกว่ากุศลที่ประกอบด้วยปัญญา และกุศลที่มีเวทนาที่เป็นอุเบกขาและไม่มีปัญญา รวมทั้งเป็นสสังขาริกที่มีกำลังอ่อน ก็เป็นกุศลเหมือนกัน แต่เป็นกุศลกรรมที่มีกำลังอ่อนมาก ดังนั้น เมื่อกุศลกรรมที่มีกำลังอ่อนมากให้ผล ก็สามารถเกิดเป็นมนุษย์ได้ครับ แต่เมื่อผลของกุศลกรรมอย่างอ่อนให้ผล ปฏิสนธิจิต เป็นชาติวิบากที่ไม่ประกอบด้วยเหตุ คือ อุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก เป็นจิตที่มีกำลังอ่อน ไม่ประกอบด้วยเหตุ เพราะเกิดจากกุศลกรรมที่มีกำลังอ่อน จึงทำให้เกิดเป็นคนพิการตั้งแต่กำเนิด ผิดปกติตั้งแต่กำเนิดครับ เช่น บ้า ใบ้ บอด หนวก หรือพิการทางสมอง เป็นต้น เพราะเกิดจากผลของกุศลกรรมอย่างอ่อนนำเกิดครับ

โดยนัยเดียวกัน สัตว์อบายภูมิ ปฏิสนธิจิต ไม่ประกอบด้วยเหตุที่ดี คือ ไม่เกิดพร้อมด้วยปัญญา เพราะฉะนั้น จึงไม่สามารถบรรลุธรรมได้ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 23 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้สิ่งที่มีจริง และทรงแสดงสิ่งที่มีจริงเพื่อให้สัตว์โลกได้เข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง เมื่อกล่าวถึงอเหตุกบุคคล ก็ต้องเข้าใจว่าหมายถึงผู้ปฎิสนธิโดยไม่มีเหตุใดๆ เกิดร่วมด้วยเลย ได้แก่ เกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิ อันเป็นผลของอกุศลกรรม และเกิดเป็นมนุษย์ผู้พิการ บ้าใบ้บอดหนวกตั้งแต่กำเนิด อันเป็นผลของกุศลกรรมอย่างอ่อน ล้วนเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยทั้งสิ้น และบุคคลเหล่านี้ไม่สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมในชาตินั้นได้เลย เพราะมีวิบากเป็นเครื่องกั้น

ที่จะเป็นประโยชน์เกื้อกูล เท่าที่จะเข้าใจได้ คือ การเกิดในอบายภูมิ เป็นผลของอกุศลกรรม ถ้ายังไม่รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคล ก็ย่อมมีโอกาสที่จะเกิดในอบายภูมิได้ เพราะเหตุว่าโลภะ โทสะ โมหะ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ วันหนึ่งๆ มีมากมายเหลือเกิน นี้แหละที่จะเป็นเชื้อที่จะนำไปสู่อบายภูมิได้ เพราะเหตุว่าถ้าอกุศลจิตนั้นมีกำลังมากขึ้นทำให้กระทำอกุศลกรรม ก็ย่อมจะเป็นเหตุให้เกิดในอบายภูมิได้

ชีวิตประจำวันที่ดำเนินไปในชาตินี้ รวมไปถึงในชาติก่อนๆ ที่ผ่านมา ด้วย ก็ไม่ทราบว่าได้กระทำอกุศลกรรม มาแล้วมากน้อยเพียงใด ถ้ายังไม่รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลแล้ว ถ้ากรรมที่เป็นอกุศลให้ผลทำให้ปฏิสนธิในอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น นั่นหมายถึงว่าก็จะหมดโอกาสที่จะอบรมเจริญปัญญาจนกระทั่งสามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้

เพราะฉะนั้น จุดประสงค์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องของอบายภูมิ เช่น นรก เป็นต้นนั้น ก็เพื่อที่จะเตือนให้ทุกคนเป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ ไม่ประมาทกำลังของกิเลส และไม่ประมาทในการอบรมเจริญปัญญา เพื่อที่จะได้รู้แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริง พ้นจากการที่จะต้องเกิดในอบายภูมิ และจะพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ในที่สุด ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 25 มี.ค. 2558

ขณะที่อกุศลเกิด กุศลก็เกิดไม่ได้ เพียงรู้ว่าขณะนี้เป็นธรรมอย่างไรยังยากเลย ไม่ต้องไปถึงฌาน อภิญญา แสนยากที่จะเกิดค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Jarunee.A
วันที่ 5 ม.ค. 2567

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ