มุสาวาท มีองค์ ๔ และอย่างไรจึงครบองค์
มุสาวาทนั้น มีองค์ ๔ คือ
๑. อตถํ วตฺถุ เรื่องไม่แท้
๒. วิสํวาทนจิตฺตํ จิตคิดจะพูดให้คลาดเคลื่อน
๓. ตชฺโช วายาโม ความพยายามเกิดจากจิตคิดจะพูดให้คลาดเคลื่อนนั้น
๔. ปรสฺส ตทตฺถวิชานนํ คนอื่นรู้เรื่องนั้น.
ขอเรียนถามว่า
1. ถ้าพูดเรื่องไม่จริง โดยเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่ครบองค์มุสาวาท ใช่ไหมครับ
2. ต้องมีผู้อื่นได้ยินข้อความที่เป็นมุสา ถ้าพูดแล้ว ไม่มีใครได้ยินหรือรับรู้ ก็ไม่ครบองค์มุสาวาท ใช่ไหมครับ
ไม่ทราบเข้าใจถูกต้องในทั้ง 2 ประเด็นนี้ไหมครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาัสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
1. ถ้าพูดเรื่องไม่จริง โดยเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่ครบองค์มุสาวาท ใช่ไหมครับ
ถูกต้องครับ เพราะ สำคัญว่าเป็นเรื่องจริง ไม่มีเจตนาพูดเรื่องที่ไม่จริง ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าเรื่องนั้นไม่จริง ครับ
2. ต้องมีผู้อื่นได้ยินข้อความที่เป็นมุสา ถ้าพูดแล้ว ไม่มีใครได้ยินหรือรับรู้ ก็ไม่ครบองค์มุสาวาท ใช่ไหมครับ
ถูกต้องครับ ไม่มีผู้รับทราบและสำคัญว่าเป็นเรื่องไม่จริง ก็ไม่ครบกรรมบถ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นธรรมดาที่ว่าบุคคลผู้พูดเท็จ พูดไม่จริง พูดโกหก ก็เพราะว่ายังมีอกุศลธรรมที่สะสมไว้ในจิตเป็นปัจจัยให้พูดเท็จ ตราบใดที่ยังไม่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม ถึงความเป็นพระโสดาบันบุคคลขึ้นไป ย่อมล่วงศีลข้อมุสาวาทได้ ตามกำลังของกิเลสที่ได้สะสมมา
สำหรับเรื่องของมุสาวาท ก็ต้องพิจารณาตามองค์ประกอบที่ทำให้เป็นมุสาวาท คือ ต้องครบทั้ง ๔ ประการ ที่สำคัญการจะล่วงศีล สำคัญที่เจตนา มีเจตนาที่จะกล่าวให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เป็นการพูดเท็จ ซึ่งจะแตกต่างกันกับขณะที่ไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพียงแต่สำคัญผิดว่าเป็นเรื่องจริงที่อย่างหลังนี้ ไม่ใช่การกล่าวเท็จ, แม้จะมีเจตนาที่จะกล่าวให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง แต่ไม่มีใครได้ยิน หรือ แม้จะได้ยินแต่ไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ครบองค์ของมุสาวาท
ปกติในชีวิตประจำวันย่อมจะมีบ้างสำหรับการพูดในสิ่งที่ไม่จริง ซึ่งเป็นไปตามอำนาจของกิเลส ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น แต่ก็ควรที่จะเห็นโทษของอกุศลแม้เล็กน้อย เพราะเหตุว่าอกุศลธรรมที่ได้สะสมไว้ในจิต จะเป็นเหตุให้กระทำทุจริตกรรมต่างๆ ได้ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...