บัวสามเหล่า หรือ บัวสี่เหล่า

 
chatchai.k
วันที่  28 มี.ค. 2558
หมายเลข  26399
อ่าน  2,056

พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง บัวสามเหล่า หรือ สี่เหล่า ครับ ได้ฟังมาว่าบัวสี่เหล่าปรากฏในอรรถกถา ส่วนบัวสามเหล่าอยู่ในพระบาลี ไม่ทราบว่าถูกต้องไหมครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 28 มี.ค. 2558

ขออภัยครับ เคยมีผู้ถามประเด็นคล้ายกันนี้ เมื่อ 15 ก.ค. 2555 ท่านวิทยากรจะตอบใหม่หรือกรุณาทำลิงค์ไปที่กระทู้นั้นก็ได้ แล้วแต่จะเห็นสมควรครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 28 มี.ค. 2558

บุคคล แบ่ง เป็น บัว ๔ เหล่า ที่สามารถบรรลุได้ คือ

๑.อุคฆฏิตัญญูบุคคล - บุคคลผู้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม โดยฟังเพียงการยกหัวข้อธรรมขึ้นแสดงเท่านั้น

๒.วิปัญจิตัญญูบุคคล - บุคคลผู้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม โดยต้องอาศัยการขยายความแห่งหัวข้อธรรมโดยละเอียด (โดยพิสดาร)

๓.เนยยบุคคล -บุคคลผู้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมโดยอาศัยการฟัง การศึกษาบ่อยๆ เนืองๆ ทั้งโดยหัวข้อและโดยการขยายความให้ละเอียดจากกัลยาณมิตรผู้มีปัญญา มีการสอบถาม มีการไตร่ตรอง พิจารณาโดยแยบคาย

๔.ปทปรมบุคคล บุคคลผู้มีบทเป็นอย่างยิ่ง ไม่สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมในชาตินั้นได้ แม้ว่าจะได้ฟังมาก ศึกษามาก สอนผู้อื่นมาก เป็นต้น

ดังนั้น เมื่ออ่าน พระสูตรใด ก็ต้องย้อนกลับไปที่พระสูตรนั้นครับว่า พระสูตรนั้น มุ่งหมายถึงอะไร ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรวจดูสัตว์โลกที่สามารถบรรลุธรรมได้ในชาตินั้นก็จะต้องแบ่งเป็น 3 จำพวก เท่านั้น ครับ แต่บุคคล ที่สามารถบรรลุธรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นชาติปัจจุบัน หรือ ชาติหน้า แบ่งเป็น บัว ๔ เหล่า ตามที่กล่าวมา ซึ่งหลักฐาน การอธิบายในพระไตรปิฎก มีดังนี้ ครับ

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๔๘

อรรถกถามหาปทานสูตร

อธิบายว่า บัวบางเหล่าที่ตั้งขึ้นพ้นน้ำคอยรอสัมผัสแสงอาทิตย์แล้วบานในวันนี้.บางเหล่าตั้งอยู่เสมอน้ำจักบานในวันพรุ่งนี้. บางเหล่ายังจมอยู่ภายในน้ำอันน้ำเลี้ยงไว้จักบานในวันที่ ๓. แต่ว่ายังมีดอกบัวเป็นต้นที่มีโรคแม้เหล่าอื่นไม่ขึ้นพ้นจากน้ำแล้ว ดอกบัวเหล่าใด จักไม่บาน จักเป็นภักษาแห่งปลาและเต่าอย่างเดียว ดอกบัวเหล่านั้น ท่านไม่ควรนำขึ้นสู่บาลี ได้แสดงไว้ชัดแล้ว.

บุคคล ๔ จำพวก คือ อุคฆฏิตัญญู วิปจิตัญญู เนยยะ ปทปรมะก็เปรียบเหมือนดอกบัว ๔ เหล่านั้นแล.

ในบุคคล ๔ จำพวกนั้น บุคคลที่ตรัสรู้ธรรมพร้อมกับเวลาที่ท่านยกขึ้นแสดง ชื่อ อุคฆฏิตัญญู. บุคคลที่ตรัสรู้ธรรมเมื่อท่านแจกความแห่งคำย่อโดยพิสดาร ชื่อว่า วิปจิตัญญู. บุคคลที่ตรัสรู้ธรรมโดยลำดับด้วยความพากเพียรท่องจำ ด้วยการไต่ถาม ด้วยทำไว้ในใจโดยแยบคาย ด้วยคบหาสมาคมกับกัลยาณมิตร ชื่อว่า เนยยะ. บุคคลที่ไม่ตรัสรู้ธรรมได้ในชาตินั้น แม้เรียนมาก ทรงไว้มาก สอนเขามาก ชื่อว่า ปทปรมะ.

ในบทนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดู หมื่นโลกธาตุ เช่นกับ ดอกบัว เป็นต้น ได้ทรงเห็นแล้วว่า บุคคลจำพวก อุคฆฏิตัญญู ดุจดอกบัวจะบานในวันนี้ บุคคลจำพวก วิปจิตัญู ดุจดอกบัวจักบานในวันพรุ่งนี้ บุคคลจำพวก เนยยะ ดุจดอกบัวจักบานในวันที่ ๓ บุคคลจำพวกปทปรมะ ดุจดอกบัวอันเป็นภักษาแห่งปลาและเต่า.

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 28 มี.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงบุคคล ๔ จำพวก ในเรื่องความต่างของการตรัสรู้หรือไม่ตรัสรู้ธรรม เปรียบเหมือนกับดอกบัว ๔ เหล่า ตามการศึกษาก็เข้าใจได้ว่า บุคคล ๓ ประเภทแรก เมื่อฟังธรรมของพระพุทธองค์แล้ว ปัญญาสามารถตรัสรู้ธรรมได้ในชาตินั้น ต่างกันที่ความเร็ว - ช้าของระยะเวลาที่อบรมก่อนที่จะถึงการตรัสรู้ ซึ่งเป็นไปตามเหตุปัจจัยและการสะสม ส่วนบุคคลประเภทที่ ๔ ไม่สามารถตรัสรู้ธรรมได้ในชาตินั้น แม้ว่าจะฟัง จะศึกษามากเท่าไรก็ตาม แต่ความเข้าใจธรรมของบุคคลนั้น ย่อมสั่งสมเป็นอุปนิสัยที่จะเอื้อต่อการตรัสรู้ธรรมในภายภาคหน้า เมื่อปัญญาสมบูรณ์พร้อมและได้พบได้ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อๆ ไป

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทรงเป็นผู้จำแนกธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาคุณอนุเคราะห์เกื้อกูลสัตว์โลกให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง ด้วยการแสดงพระธรรมที่เหมาะควรแก่อัธยาศัยของแต่ละบุคคล ผู้ที่ได้สั่งสมบารมีมาก็ได้ฟังและสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมบรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ส่วนผู้ที่ไม่ได้บรรลุ ก็สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกเพื่อประโยชน์ในภายหน้าต่อไป จากการทรงแสดงพระธรรมของพระองค์ บางครั้งทรงยกเป็นอุทเทศ (หัวข้อ) ขึ้นแสดงเท่านั้น บางครั้งก็ทรงแสดงโดยละเอียด ซึ่งทั้งหมดทั้งปวง ก็เพื่อประโยชน์ของผู้ฟังอย่างแท้จริง เพราะจากการแสดงพระธรรมของพระองค์นั้น พระองค์ไม่ทรงหวังอะไรจากผู้ฟังแม้แต่น้อย นอกจากผู้ฟังจะเข้าใจเป็นปัญญาของตนเองเท่านั้น

พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่บุคคลผู้ที่ได้สะสมอบรมเจริญเหตุที่ดีมา นั่นก็คือ ได้สะสมการฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ มา จึงมีโอกาสได้ฟังพระธรรม และ มีความเข้าใจไปตามลำดับ ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
verajakjidamane
วันที่ 28 มี.ค. 2558

พระพุทธองค์ทรงแบ่งบัวไว้ 3 เหล่า แบ่งคนไว้ 4 ประเภทครับ พระไตรปิฏกครับ มีการอธิบายไว้แล้วครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
j.jim
วันที่ 30 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ผู้มีความประมาท
วันที่ 31 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wirat.k
วันที่ 1 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 2 เม.ย. 2558

ขอกราบนมัสการบูชาอย่างสูงสุดแด่พระรัตนตรัย

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่านเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ให้ความเข้าใจพระธรรมอันเป็นสิ่งที่มีค่าประเสริฐสุดจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะเป็นอุปนิสัยแห่งการรู้แจ้งอริยสัจจธรรมในภายภาคหน้า เมื่อเหตุสมบูรณ์พร้อม ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nong
วันที่ 4 เม.ย. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
peem
วันที่ 6 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wannee.s
วันที่ 6 เม.ย. 2558

บัวสามเหล่าในพระบาลี ท่านแสดงถึงบุคคลที่ฟังธรรมแล้ว บรรลุ ได้ ส่วนบัวสี่เหล่ารวมถึงคนที่ฟังธรรมมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถบรรลุได้ เป็นปทปรมบุคคล ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
sasha
วันที่ 9 ก.พ. 2561

เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
Jarunee.A
วันที่ 7 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ