คนตาบอดและคนหูหนวก
การที่เกิดมาตาบอด กับเกิดมาหูหนวก มีสาเหตุหรือเป็นผลมาจากกรรมอะไรครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาัสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คนตาบอดแลหูหนวกที่มีมาตั้งแต่กำเนิด เพราะเกิดจากกุศลกำลังอย่างอ่อน ให้ผลนำเกิดปฏิสนธิ ส่วนถ้าเกิดตาบอด หูหนวก หลังจากเกิดแล้ว เป็นผลของอกุศลกรรมให้ผล ครับ
การที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นผลของกุศลกรรม อย่างน้อยๆ ก็เพิ่มพูนความมั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรมได้บ้าง เมื่อเหตุดี ผลก็ต้องดี ดังนั้น เมื่อได้อัตภาพความเป็นมนุษย์แล้ว จึงไม่ควรประมาทในการเจริญกุศลประการต่างๆ รวมถึงการอบรมเจริญปัญญา ด้วย สำหรับการเจริญกุศลในชีวิตประจำวันนั้นดีที่สุด คือไม่หวัง ความดีเป็นสิ่งที่ควรจะอบรมเจริญให้มีขึ้นในชีวิตประจำวัน เพราะเหตุว่าวันหนึ่งๆ อกุศลจิตเกิดบ่อยมาก แม้แต่ขณะที่กำลังฟังพระธรรมอยู่แท้ๆ อกุศลจิตก็ยังสามารถที่จะเกิดแทรกได้เลย (คงไม่ต้องกล่าวถึงขณะที่ไม่ได้ฟังพระธรรม) ถ้าไม่ได้เจริญกุศล ก็ย่อมเปิดโอกาสให้อกุศลเกิดหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
แต่ละคน เป็นแต่ละหนึ่ง ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ที่เหมือนกันคือ มีความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม คือ จิต เจตสิก และ รูป เสมอกันโดยความเป็นธรรม แต่ที่ต่างกัน คือ การสะสม และ ผลของกรรมที่ได้กระทำแล้ว ที่เกิดมาพิการ หรือ ไม่พิการ นั้น กรรมที่ได้กระทำแล้ว เป็นเครื่องจัดสรร ไม่มีใครทำให้เลย ไม่มีใครบังคับให้เป็นอย่างนั้นได้เลย แต่เป็นไปแล้ว ตามสมควรแก่เหตุ คือ กรรมที่ได้กระทำแล้วนั่นเอง
การเกิดในภพหนึ่งชาติหนึ่งนั้น เป็นวิบากจิต เป็นผลของกรรม ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นผลของกรรมประเภทใด ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิอย่างเดียว, แต่ถ้าเป็นผลของกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิ ตามสมควรแก่กรรม ทั้งที่ประกอบด้วยเหตุ ๓ หรือ เหตุ ๒ หรือไม่ประกอบด้วยเหตุใดๆ เลย การเกิดเป็นมนุษย์ผู้พิการตาบอดหูหนวกมาตั้งแต่กำเนิด (ผิดปกติตั้งแต่เกิด) เป็นผลของกุศลที่มีกำลังอ่อน เช่น มหากุศลดวงที่ ๘ ไม่ประกอบด้วยปัญญา มีเวทนาเป็นอุเบกขา เป็นจิตที่มีกำลังอ่อน มหากุศลดวงนี้เวลาจะให้ผล ก็จะไม่ให้ผลเป็นอกุศลวิบากเลย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่กุศลกรรมจะให้ผลเป็นอกุศลวิบาก แต่จะให้ผลเป็นกุศลวิบากประเภทที่เป็นอุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก อันเป็นผลมาจากเหตุคือกุศลที่มีกำลังอ่อน ทำให้เกิดเป็นมนุษย์ผู้พิการบ้าบอดหนวกตั้งแต่กำเนิด ซึ่งจะแตกต่างจากผลของอกุศลกรรมที่ทำให้เกิดในอบายภูมิ เท่านั้น แต่ถ้าเป็นผู้ตาบอดหูหนวกหลังจากที่เกิดแล้ว นั้น เป็นผลของอกุศลกรรม เช่น ชีวิตของพระจักขุบาล ที่ท่านตาบอด ก็เพราะในอดีต เคยเป็นหมอ ประสงค์จะให้คนอื่นตาบอด เลยทำยาหยอดสำหรับทำตาให้ตาบอด เป็นต้น ซึ่งเหตุย่อมสมควรแก่ผล เพราะการให้ผลของกรรม นั้น ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยจริงๆ ถึงแม้ว่าผู้กระทำอกุศลกรรม จะลืมไปแล้วว่าตนเองได้กระทำอะไรไว้บ้างทั้งในชาตินี้และในชาติก่อนๆ แต่กรรมไม่ลืมที่จะให้ผล ถ้าไม่มีเหตุคือกรรมที่ได้กระทำมาแล้วผลที่จะเกิดย่อมมีไม่ได้ แต่เพราะมีเหตุคือกรรมที่ได้กระทำแล้ว เมื่อได้โอกาสที่กรรมจะให้ผล ผลจึงเกิดขึ้น
ดังนั้น ควรที่จะได้พิจารณาว่า เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแม้ในขณะต่อไป ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ควรที่จะได้สะสมความดีและฟังพระธรรมให้เข้าใจ ต่อไป เพราะความดีเท่านั้น ที่จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี ไม่ใช่ อกุศลกรรม เพราะอกุศลกรรม ให้ผลเป็นทุกข์โดยส่วนเดียว ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...