บันเทิงในธรรมที่ญี่ปุ่น 2 แสวงหาสิ่งที่น่าพอใจตลอดเวลา

 
kanchana.c
วันที่  9 เม.ย. 2558
หมายเลข  26430
อ่าน  1,767

แสวงหาสิ่งที่น่าพอใจตลอดเวลา

ประเทศญี่ปุ่นประกอบด้วยเกาะหลายเกาะ ทรัพยากรที่สำคัญของญี่ปุ่น คือ ทรัพยากรบุคคล ที่ส่วนใหญ่มีวินัย อดทน ขยันหมั่นเพียร มีความรู้ความสามารถ ไม่ย่นย่อต่ออุปสรรคต่างๆ ที่ไหนแคบก็ถมทะเล ทำเป็นเมืองหรือสนามบิน เดินทางจากเกาะหนึ่งไปอีกเกาะหนึ่งก็สร้าง สะพานมากมายหลายแบบ ทั้งแขวน ทั้งตั้งบนตอม่อ ที่ไหนเป็นภูเขาก็ขุดอุโมงค์ลอดภูเขา คนญี่ปุ่นทำบ้านเมืองที่ธรรมชาติสร้างมาให้มีทั้งภูเขาไฟ น้ำพุร้อน แผ่นดินไหว สึนามิ เป็น บ้านเมืองที่สะอาด สวยงาม น่าอยู่ การนั่งรถเดินทางจึงต้องข้ามสะพานหลายแห่งซึ่งก่อสร้าง อย่างใหญ่โต กว้างขวาง และสวยงาม รวมทั้งต้องลอดอุโมงค์หลายแห่งด้วย

วันนี้ได้ข้ามสะพานแขวนเซโตะ โอฮาชิ ที่เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก และเป็นเส้นทาง เชื่อมเมืองโอคายาม่าของเกาะฮอนชูสู่เกาะชิโกกุ เป็นสะพานที่มีทั้งทางรถไฟ รถยนต์ และรถ จักรยาน เราเดินทางมาถึงเมืองสำคัญของเกาะฮอนชู คือ เมืองโอคายาม่า เมืองที่น่าอยู่ที่สุด แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เพื่อชมปราสาทโอคายามา และสวนโคราอูเอ็น ริมฝั่งแม่น้ำอาซาฮี สวนที่ สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น

ระหว่างทาง วีคุงก็อธิบายความเป็นมาของเมือง ปราสาท และอื่นๆ สลับกับคุณม้อ ปราณี แผนกบันเทิงของกลุ่มที่ตะโกนให้มองทางซ้ายมือ หรือขวามือเมื่อเห็นดอกซากุระป่าริมทาง ทุกคนก็ฮือฮา ดีใจที่ได้เห็นดอกซากุระบานเต็มต้น บางครั้งหลับตา ไม่ทันเห็น ก็โทษคนข้าง ตัวที่ไม่สะกิดให้ดู แต่เมื่อรถแล่นลงใต้เรื่อยๆ ดอกซากุระข้างทางก็บานมากขึ้น จนขี้เกียจดู คนข้างตัวสะกิดให้ดูตอนหลับ ก็ถูกต่อว่าอีกว่า กำลังหลับสบาย ขอพักผ่อนก่อน ไม่ต้องเรียก แล้ว เห็นมากแล้ว จริงอย่างท่านว่า ทุกคนแสวงหาสิ่งที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายที่ดีๆ ตลอดเวลา ทางตาก็ต้องการเห็นดอกไม้หรือวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ทางหูก็ ต้องการฟังเสียงเพราะๆ คุณเบญจวรรณ เจ้าภาพ จึงจัดหานักร้องเสียงทองจากเมืองไทย คือ พี่เรวัต ค่ำอำนวย (เอื้อเฟื้อ) พี่จิ๋ม กัลยาณี คุณอ้อย ท่านภดล ที่ร้องเฉพาะเพลงธรรมะ “เพราะไม่รู้ และเพราะรู้” ด้วยเวอร์ชั่นทหารเรือที่ไพเราะและหนักแน่น เช่นเดียวกับคุณแก้วตา อเนกพุฒิ ที่ร้องเพลงธรรมะ เธอร้องเพลง "อริยสาวิตรีบูชา" ได้ไพเราะมาก

ทางลิ้น ก็แสวงหารสอร่อย แปลกๆ เพื่อให้ลิ้นได้ลิ้มรส ซึ่งคุณเบนและคนอื่นๆ ในรถก็บริการ ขนมของว่าง ทัวร์นี้ท้องอิ่มตลอดเวลา ไม่เคยหิวเลย ทางกาย ทั้งคุณวุฒิและวีคุงก็จะคอย สอบถามว่า อากาศภายในรถพอเหมาะหรือยัง หนาวไป ร้อนไปหรือไม่ ช่างน่าเพลิดเพลินจน ไม่รู้ตัวเลยว่า แสวงหาด้วยโลภะ มีแต่ความพอใจถ้าได้สิ่งที่ต้องการ และไม่พอใจเมื่อไม่ได้ สิ่งที่ต้องการ ไม่มีสักขณะเดียว (สำหรับเรา คนอื่นอาจมีก็ได้) ที่จะรู้ว่า ขณะนี้เป็นธรรมะที่ เพียงเกิดปรากฏ ทำกิจหน้าที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก อยากได้ ติดข้องต้องการ ขุ่นเคืองไม่พอใจ แล้วก็ดับไป ไม่กลับมาเกิดซ้ำอีกเลย เพราะไม่รู้อย่างนี้จึง ติดข้องปรุงแต่งเป็นเรื่องราว สัตว์ บุคคล เป็นมาม้า อาตี๋ อังศุมาลิน โกโบริ ซ้อนความเป็นตัว เราเข้าไปอีกชั้น ทำให้รัก ให้ชัง ไม่มีที่สิ้นสุดต่อไป

ถึงปราสาท ฝนก็ตกหนัก ต้องกางร่มเพื่อไปชมปราสาท แต่ที่นี่มีซากุระออกดอกเต็มต้น มากมาย ได้เห็นซากุระดอกใหญ่สีสวย ขาว ชมพูอ่อน ชมพูแก่ สลับสีสวยงาม 2 ข้างถนน ดอกเพิ่งบานเหมือนสาวแรกรุ่น ดูสดชื่นท่ามกลางสายฝน อยากเดินชมดอกซากุระก็ได้ฝน แถมมาให้อีก มากเกินความต้องการเสียแล้ว เลยไม่ค่อยได้ดูซากุระเต็มที่ เพราะมัวแต่กลัว เปียกฝน ตัวปราสาทก็ไม่ได้ชม เพราะเข้าใจผิดว่า เคยขึ้นไปแล้ว ที่จริงเป็นปราสาทคนละ เมือง พิพิธภัณฑ์ของปราสาทก็ไม่ได้ดู เพราะฝนตกทำให้ปวดปัสสาวะ มัวแต่ต่อคิวเข้าห้องน้ำ ออกมาก็หมดเวลาดู แต่ความจริงจะเห็นหรือไม่ได้เห็นก็เหมือนกัน คือ ดับหมดแล้ว เห็นเพื่อ จำ แล้วก็ดับไป เห็นใหม่พร้อมกับจำใหม่ไปเรื่อยๆ จึงมีเรื่องราวมากมายให้คิดนึกที่ไม่เคยเป็น เพียงสภาพธรรมะแต่ละหนึ่งเท่านั้น

เห็นความจริงอย่างหนึ่งว่า สิ่งที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินนั้น ย่อมไม่ทำให้นึกคิดถึงเรื่องนั้น หรือเห็นครั้งแรก ได้ยินครั้งแรกก็จำไม่ได้ อย่างปราสาทอีกาและสวนที่กล่าวถึงนั้น ความจริง ไม่ได้ไป จำไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่อ่านในรายการทัวร์ และได้ไปชมปราสาทอีกแห่งหนึ่งเลย คิดว่าเป็นปราสาทอีกา ทำให้สับสน เล่าผิดเล่าถูก ขออภัยด้วย โชคดีที่มี Wonderful Wanchai ที่แม้ไม่ได้ไปด้วยยังรู้เลยว่า เล่าผิด เธอเลยเอาภาพจาก Google มาใส่ประกอบให้ ขอบคุณค่ะ ประจักษ์แล้วว่า ถ้าสัญญา ความจำไม่มั่นคง ก็จะสับสนหลงลืมอย่างนี้แหละ แม้แต่เรื่องสถานที่และชื่อที่ไม่คุ้นเคย แล้วสิ่งที่ลึกซึ้งอย่างธรรมะ ถ้าไม่อาศัยการฟังแล้วฟัง อีก พิจารณาแล้วพิจารณาอีก จนจำได้อย่างมั่นคงว่า ทุกอย่างเป็นสิ่งที่มีจริง ที่เรียกว่า ธรรมะ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป จะไม่สับสนหลงลืมได้อย่างไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
j.jim
วันที่ 10 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
peem
วันที่ 10 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 10 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pamali
วันที่ 10 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
yupares
วันที่ 10 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ms.pimpaka
วันที่ 10 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 10 เม.ย. 2558

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนา ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
papon
วันที่ 10 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
tanrat
วันที่ 11 เม.ย. 2558

หากไม่เคยเห็น ได้ยิน รู้กลิ่น รสที่ลิ้ม กระทบสัมผัส จะนึกไม่ออกว่ากำลังเห็น ได้ยิน รสที่ลิ้ม กายที่กระทบอยู่ ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่เพราะความทรงจำจึงเป็นเรื่องราวต่างๆ ไม่เคยระลึก หรือสติเกิด ก็ไม่เข้าใจ โมหะท่วมทับมาก จากขณะเป็นวัน แลปี แลชาติ ไปเรื่อยๆ พระปัญญาธิคุณ พระมหากรุณาคุณ กัลยาณมิตร บุญที่ได้กระทำมาแต่ปางก่อน

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pulit
วันที่ 11 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Boonyavee
วันที่ 11 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
wirat.k
วันที่ 11 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
kullawat
วันที่ 14 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
napachant
วันที่ 15 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
ผู้มีความประมาท
วันที่ 16 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ