กุลศโลบายดับอารมณ์มิใช่ละนะครับ

 
verajakjidamane
วันที่  11 เม.ย. 2558
หมายเลข  26435
อ่าน  874

ขอท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะวิธีดับอารมณ์และการยึดมั่นด้วยครับว่าเรามีวิธีหรือกุศโลบายอะไรในการดับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 11 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาัสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อารมณ์ คือ สภาพธรรมที่ถูกจิตรู้ เช่น ขณะนี้ได้ยิน จิตได้ยินมีเกิดขึ้นได้ เพราะมีอารมณ์ คือ เสียง เพราะฉะนั้น จะดับอารมณ์ ไม่มีการเกิดขึ้นของอารมณ์ก็คือ การไม่เกิดขึ้นของ จิต เจตสิกเลย นั่นคือ นิพพาน และ การละความยึดมั่นได้หมดสิ้น คือ การถึงความเป็นพระอรหันต์ เพราะฉะนั้น หนทางการบรรลุธรรม ถึงความเป็นพระอรหันต์ ก็ด้วยการฟัง ศึกษาพระธรรม อย่างยาวนาน นับชาติไม่ถ้วน ด้วยหนทางที่ถูกที่ไม่ใช่ไปนั่งสมาธิ เดินจงกรม ไปฏิบัติตามป่าเขา แต่ ด้วยการฟัง ศึกษาพระธรรมจนปัญญาเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ครับ ดังนั้น ก็ฟังธรรม ศึกษาพระธรรมต่อไป ที่เป็นหนทางเดียว ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
peem
วันที่ 11 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 11 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น เพราะไม่ได้ศึกษาพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบ หรือไม่ได้ศึกษาเลย จึงมีการประพฤติปฏิบัติผิดสืบๆ กันมา เพิ่มความเห็นผิด และความไม่รู้ เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ยากที่จะแก้ไข เป็นรากที่หยั่งลงลึกมาก สำหรับการกระทำอะไรด้วยความไม่รู้ด้วยความเห็นผิด

ดังนั้น สิ่งใดที่ไม่เป็นไปตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่ต้องไปสนใจ เพราะไม่ใช่เหตุที่จะทำให้ปัญญาเจริญขึ้น แม้คำว่า "อารมณ์" เพียงคำเดียว ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรม ก็ไม่มีทางเข้าใจถูกตรงตามความเป็นจริงได้เลย เพราะอารมณ์เป็นสิ่งที่จิตรู้ จิตเกิดขึ้นขณะใดก็ย่อมรู้อารมณ์ตามควรแก่จิตขณะนั้นๆ

ดังนั้น จึงขาดการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ไม่ได้เลย ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลที่ดี ให้น้อมประพฤติในสิ่งที่ถูกต้อง ให้เว้นจากสิ่งที่ผิด เป็นเครื่องขัดเกลาความไม่รู้ ความเห็นผิดและกิเลสทั้งหลาย จนกว่าจะดับได้อย่างหมดสิ้น ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
verajakjidamane
วันที่ 11 เม.ย. 2558

คำกล่าวแห่งพุทธวจนะนั้น หมายความว่ายังไงครับ การหลุดพ้นด้วยการตัดขาด การหลุดพ้นด้วยออกไปเสีย. การหลุดพ้นด้วยสงบราบคาบ อายตนะหาที่ตั้งมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้ น้้นแหละที่สุดแห่งทุกข์ ที่ผมถามคือกุลสโลบายอะไร ที่สามารถทำให้อายตนะหาที่ตั้งมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้ครับ. พระพุทธวจนะคือแผนที่ ผู้เดินทางทั้งหลายย่อมต้องฟังว่าแผนที่น้้นชี้ทางไปทางไหนแน่ แต่ต้องปฏิบัติหมายความว่าต้องเดินทาง เมื่อเดินทางต้องมีอุปสรรค์ เหตุเพราะทางที่เดินน้้นย่อมมีสิ่งกีดขวางอยู่ จึงต้องมีกุลสโลบายหรืออุบายในการกำจัดสิ่งกีดขวางนั้น. ที่ผมถามนั้นคือสิ่งนี้ครับ อารมณ์ย่อมเกิดดับ ไม่ว่าอารมณ์ใดๆ ย่อมเกิด-ดับไม่มีอารมณ์ใดเกิดแล้วไม่ดับนั้นย่อมเป็นไปมิได้ ที่ถามคืออุบายอะไรสามารถทำให้ หาอารมณ์มิได้ หมายความว่าอุบายอะไรเมื่อใข้แล้วอารมณ์ไม่เกิด เราก็มิต้องดับอารมณ์นั้นๆ ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
tanrat
วันที่ 12 เม.ย. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 13 เม.ย. 2558

การจะละคลายความยึดมั่นถือมั่นในอารมณ์ ก็ต้องอาศัยการฟังธรรม ขั้นฟังธรรมละความไม่รู้ ก็ต้องฟังแล้วฟังอีกจนกว่าจะเข้าใจ เมื่อปัญญาเจริญขึ้น ปัญญาก็จะทำหน้าที่ละ ไม่มีใครไปทำ ไปกำหนด และ อารมณ์ก็ไม่เที่ยง เกิดแล้วก็ดับไม่เหลือค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
kullawat
วันที่ 14 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 14 เม.ย. 2558

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่านครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
papon
วันที่ 15 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
Jarunee.A
วันที่ 5 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ