จิตตุปาท

 
papon
วันที่  11 เม.ย. 2558
หมายเลข  26437
อ่าน  806

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

"จิตตุปาท" หมายความว่าอย่างไรครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 11 เม.ย. 2558

การเกิดขึ้นของจิต หมายถึง จิตและเจตสิกที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ขณะที่จิตเกิดขึ้น ๑ ขณะ จะต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยอย่างน้อยที่สุด ๗ ประเภท (สัพพจิตตสาธารณเจตสิก) แม้ว่าจิตจะเป็นใหญ่ เป็นประธานในการทำกิจรู้อารมณ์ แต่จะเกิดโดยปราศจากเจตสิกไม่ได้ เพราะถ้าผัสสะไม่กระทบอารมณ์ สัญญาไม่จำอารมณ์ เจตนาไม่ขวนขวายจัดแจงในอารมณ์ หรือมนสิการไม่สนใจในอารมณ์ เป็นต้น จิตก็ย่อมจะเกิดขึ้นไม่ได้ อุปมาเหมือนพระราชา เมื่อจะเสด็จไปไหน ก็มิได้เสด็จไปพระองค์เดียว แต่ทรงแวดล้อมด้วยหมู่อำมาตย์ราชบริพาร พระราชาทรงเป็นใหญ่ เป็นประธาน แต่กิจการงานหน้าที่ต่างๆ หมู่อำมาตย์ราชบริพารเหล่านั้นเป็นผู้กระทำ ถ้าไม่มีหมู่อำมาตย์ราชบริพารแวดล้อม พระราชาก็เสด็จไปโดยลำพังและเป็นประธานไม่ได้

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 11 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การเกิดขึ้นแห่งจิตแต่ละขณะๆ นั้นจะต้องมีเจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต) เกิดร่วมด้วยทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นจิตประเภทใด ไม่มีจิตขณะใดเลยที่จะเกิดขึ้นโดยไม่มีเจตสิก และในทำนองเดียวกัน ไม่มีเจตสิกประเภทใดเลยที่จะเกิดขึ้นโดยไม่มีจิต เมื่อเป็นเช่นนี้ ทั้งจิตและเจตสิกจึงเกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียวกัน และอาศัยที่เกิดที่เดียวกัน ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
tanrat
วันที่ 12 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 13 เม.ย. 2558

จิตตุปาท การเกิดขึ้นของจิต สำคัญที่จิตขณะนี้เป็นกุศล หรือ อกุศล และรู้ว่าทั้งหมดเป็นธรรมะแต่ละอย่างที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับหมดไม่เหลือ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 14 เม.ย. 2558

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Jarunee.A
วันที่ 3 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ