วิถีจิตกับการนั่งสมาธิ

 
tmangkon
วันที่  16 เม.ย. 2558
หมายเลข  26456
อ่าน  1,033

ขอเรียนถาม 2 คำถามค่ะ

1. คนที่ไม่เคยรู้เรื่องวิถีจิต แล้วเอาแต่ไปนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมตามสำนักต่างๆ จะมีโอกาสเจริญในธรรมมั้ยคะ เพราะจากการที่ได้ฟังธรรมของมูลนิธิ กุศลและอกุศลเกิดเป็นอนัตตา ไม่สามารถ"ทำ"ให้เกิดได้

2. บางสำนักที่มีการสอนนั่งสมาธิ แล้วให้รู้ตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น การรู้ดังกล่าวเป็นความรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และดับไปแล้ว การรู้แบบนั้นมีประโยชน์อย่างไรคะ

ขอบคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 16 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

1. คนที่ไม่เคยรู้เรื่องวิถีจิต แล้วเอาแต่ไปนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมตามสำนักต่างๆ จะมีโอกาสเจริญในธรรมมั้ยคะ เพราะจากการที่ได้ฟังธรรมของมูลนิธิ กุศลและอกุศลเกิดเป็นอนัตตา ไม่สามารถ "ทำ" ให้เกิดได้

คนที่ไม่เข้าใจพระธรรมถูกต้องในขั้นการฟัง แม้แต่คำว่า ธรรม คำว่า ปฏิบัติ ก็ไปทำสิ่งที่ผิด มีการนั่งสมาธิ เดินจงกรม เป็นต้น ก็ไม่มีทางที่จะทำให้บรรลุได้เลย เพราะเริ่มจากความเข้าใจผิด ส่วนผู้ที่ศึกษาวิถีจิต อภิธรรม หรือ ธรรมส่วนใดก็ตาม หากไม่เข้าใจด้วยความถูกต้องว่า ศึกษาเพื่อเข้าใจถูกเพื่อเข้าใจสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ก็เป็นการศึกษาแบบวิชาการ ไม่เกื้อกูลเพื่อถึงการปฏิบัติได้เลย

แต่ หนทางที่ถูก คือ ศึกษาธรรมในขั้นการฟังให้ถูกตัองเป็นไปตามลำดับ โดยเข้าใจถูกแม้แต่คำว่าธรรมอย่างถูกต้องว่า คืออะไร เมื่อเข้าใจถูก ในขั้นการฟัง ไม่ว่าศึกษาเรื่องอะไร ก็เข้าใจว่าคือ เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ การเข้าใจเช่นนี้ย่อมน้อมไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้อง คือ การรู้ความจริงที่เป็นหน้าที่ของ สติ และ ปัญญา ที่เกิดในขณะนี้ โดยไม่ต้องไปนั่งสมาธิ เดินจงกรมเลย ครับ

2. บางสำนักที่มีการสอนนั่งสมาธิ แล้วให้รู้ตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น การรู้ดังกล่าวเป็นความรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และดับไปแล้ว การรู้แบบนั้นมีประโยชน์อย่างไรคะ

เป็นการรู้โดยการคิดนึก ที่เดาเองเอง ไม่ใช่ปัญญา แต่เป็นโลภะที่จะไปตามรู้ ตามจดจ้อง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์แต่เป็นโทษ เพราะเป็นหนทางที่ไม่ถูกต้องนั่นเอง ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 16 เม.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

๑. ตั้งต้นผิดแล้ว มีแต่จะผิดต่อไป เพราะการปฏิบัติผิด ไม่ใช่หนทางที่จะทำความเข้าใจถูกเห็นถูกเจริญขึ้นได้เลย มีแต่จะเพิ่มความเห็นผิดและความไม่รู้ให้มากขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วที่จะมีความเข้าใจถูกเห็นถูกในธรรม ต้องมีการฟัง มีการศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงด้วยความละเอียดรอบคอบจริงๆ ไม่ประมาทพระธรรมว่าง่าย

๒. สำนักปฏิบัติทั้งหลาย เป็นสำนักของความไม่รู้ เป็นสำนักที่ทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสำนักที่ทำให้ผู้อื่นไม่ได้ฟังไม่ได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพราะมีแต่จะให้ฟังคำของตนเอง ที่คิดแนวปฏิบัติขึ้นมาเอง ให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ เผยแพร่ในสิ่งที่ผิด เปรียบเหมือนกับการหว่านหนามและการกระจายยาพิษ เป็นโทษโดยส่วนเดียว ทั้งหมด มีแต่จะให้ฟังคำของตนเอง ไม่ใช่ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความเห็นผิด เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
tmangkon
วันที่ 16 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธุลีพุทธบาท
วันที่ 17 เม.ย. 2558

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
peem
วันที่ 17 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
tanrat
วันที่ 17 เม.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 17 เม.ย. 2558

ผู้ที่ไม่รู้ ยังไม่เข้าใจธรรมะคืออะไร ไปทำตามๆ กัน ผลก็คือทำด้วยความไม่รู้ เพราะไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์ คำสอนของพระพุทธเจ้าต้องเป็นไปตามลำดับ คือ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Dechachot
วันที่ 18 เม.ย. 2558

กระผมเป็นผู้ที่พึ่งศึกษา เรียนรู้ จากมูลนิธิ ยังมิกล้าแสดงความคิดเห็นใดๆ ที่อาจจะเสี่ยงต่อความเห็น ความเข้าใจผิด ซึ่งบุคคลอื่นที่อ่านจะเข้าใจผิดไปด้วย จึงขอกล่าวเพียง "อนุโมทนา" ที่ท่านผู้ศึกษามาก่อน เป็นผู้รู้ ผู้เข้าใจได้แสดงไว้แล้ว

ขอขอบพระคุณทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
นิตยา
วันที่ 21 เม.ย. 2558

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
lokiya
วันที่ 23 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 6 พ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
Jarunee.A
วันที่ 1 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ