ธรรมะสัญจร-สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (1-2)
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2558 ท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ได้ออกเดินทางไปธรรมะสัญจรที่ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ด้วยความอนุเคราะห์จากสหายธรรมที่ร่วมเดินทางได้ส่งไฟล์ภาพและเสียงที่บันทึกเพื่อให้ได้รับชมและรับฟัง
ถาม สัมมาทิฏฐิจริงๆ คืออะไร
อ.สุจินต์ ถ้าเราจะเข้าใจว่าทิฏฐิคือความเห็น คำว่าสัมมาคือชอบ ถูกต้องตามความเป็นจริง ของสิ่งที่เป็นอย่างนั้นจริงๆ
เราใช้คำว่าปัญญาคือรู้ทั่ว แล้วก็ใช้คำว่าสัมมาทิฏฐิ รู้อะไร รู้อย่างไรก็ต้องรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง ทุกคำจะเกี่ยวเนื่องสอดคล้องกันไปหมด ถ้าเราบอกว่าปัญญาคือความรู้ความเข้าใจ ไม่พอใช่ไหมคะ คืออะไรเข้าใจ เพราะฉะนั้นก็รู้ถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง เมื่อขยายคำว่าปัญญารู้ทั่วก็คือ สัมมาทิฏฐิ ... ..
ถาม 2 ท่านอ.คะ เดิมที่คิดว่าจิตเวลาไปจุติเป็นเทวดา เหมือนกับมีอะไรออกไป มาเข้าใจว่ามันไม่เห็นอะไรเลย
อ.สุจินต์ และมันไม่มีทางที่จิตจะออกไปด้วย เพราะเกิดรู้แล้วดับ เหมือนไฟพอสว่างแล้วก็ดับ ไปไหนไม่ได้ เกิดที่ไหนแล้วก็ดับที่นั้นด้วย เร็วมาก เกิดที่นั่นแล้วจะไปดับที่อื่นไม่ได้ ไปไหนไม่ได้เลย
ถาม 2 แล้วเวลาไปจุติบนสวรรค์หล่ะคะ
อ.สุจินต์ ไม่ใช่ไปจุตินะคะ จุติหมายถึง จิตขณะสุดท้ายที่ทำให้พ้นสภาพความเป็นบุคคลนี้โดยสิ้นเชิง ชาดกแต่ละเรื่องๆ แต่ละชาติๆ ซึ่งจะกลับไปเป็นเก่าไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นถ้ากล่าวว่าจุติ ก็หมายความว่า จิตขณะสุดท้ายของชาตินี้เกิดแล้วก็ดับ สิ้นสุดสภาพความเป็นบุคคลนี้
และการดับของจุติจิตเป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิจิตเกิดสืบต่อทันทีไม่มีระหว่างคั่น เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ว่าจากมนุษย์นี้เดินทางไปสวรรค์หรือพรหมโลก แต่ตัวจิตที่เกิดแล้วดับเป็นปัจจัยให้เกิดทันที แล้วแต่ว่าเกิดที่ไหน
โดยกรรม ใช้คำว่าถึงแก่กรรม หมายความว่า ถึงแก่กรรมที่จะหมดความเป็นบุคคลนี้ อะไรจะใหญ่กว่ากรรม เราเชื่อมั่นในกรรม ฉะนั้นพอจิตนี้ดับนะคะ รูปทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ...